*รองนายกประวิตร ปัดค้นรถยิ่งลักษณ์ ชี้เป็นการอารักขา*

จากกระแสข่าวทหารได้เข้าประกบติดและตรวจค้นรถนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ที่จังหวัดเชียงใหม่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าคสช. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า เป็นแค่การรักษาความปลอดภัยให้กับอดีตนายกฯเพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีที่อาจสร้างสถานการณ์ ยืนยันว่าไม่ได้กลัวอดีตนายกฯหนีไปต่างประเทศ  และไม่ได้หวังผลทางการเมืองหรือแก้แค้นในเรื่องใด  โดยการอารักขาความปลอดภัยดังกล่าวก็ไม่ใช่นโยบายของคสช. แต่เป็นการให้ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่นั้น หากอดีตนายกฯไม่พอใจหรือมีความกังวล ก็สามารถบอกเจ้าหน้าที่ทหารได้ ส่วนการจะเดินทางไปที่ใดในประเทศก็เป็นสิทธิของอดีตนายกฯ เพราะคสช.ไม่ได้กักพื้นที่ไว้

สำหรับ การเข้าอารักขารถอดีตนายกฯ ส่วนตัวไม่ทราบว่ามีการแจ้งให้อดีตนายกฯทราบล่วงหน้าหรือไม่ เพราะเป็นหน้าที่ของทหารในพื้นที่นั้น

สำหรับ การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. พล.อ. ประวิตร เปิดเผยว่า เป็นการติดตามความคืบหน้าในการทำงานของกระทรวงทุกกระทรวงให้ทำงานสอดคล้องกับรัฐบาลและคสช. โดยที่ประชุมจากทั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์คสช.และคณะรัฐมนตรีได้เป็นห่วงถึงปัญหาภัยแล้ง ที่คาดว่าปีนี้จะมีพื้นที่แล้งมาก โดยเฉพาะปัญหาแล้งซ้ำซากอย่างจ.จันทบุรี ซึ่งจะส่งผลให้มีผลผลิตการเกษตรน้อยลง ทำให้ราคาสูงขึ้น นำมาซึ่งปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น จึงได้สั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปเร่งช่วยเหลือแล้ว โดยมอบให้กระทรวงมหาดไทยเร่งหาน้ำไปให้ประชาชนในพื้นที่แล้งซ้ำซาก และได้ผลักดันให้วาระการแก้ไขปัญหาภัยแล้งเป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาลแล้ว

 นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยมีมาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือผลผลิตการเกษตรลงไปแล้ว เช่น กระทรวงมหาดไทยที่ได้เบิกจ่ายงบไปแล้วกว่า 3,000ล้านบาทเพื่อนำไปแก้ไขปัญหาเช่นเดียวกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้เบิกงบประมาณกว่า 40,000ล้านบาทแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ยังมีอยู่มากให้อยู่ให้ได้ ส่วนราคายาง ก็เชื่อว่าจะกระเตื้องขึ้นมากกว่านี้แน่นอนเห็นได้จากดัชนีชี้วัดที่ได้รับรายงานมาตลอด โดยปัจจุบันอยู่ที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม