ราชกิจจาฯ ประกาศกำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ลงนามโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ ผู้อำนวยการ ศบค. กำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด เพื่อควบคุมโควิด-19 ให้มีประสิทธิภาพ มีผลตั้งแต่ 3 ส.ค.64 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เพื่อให้การบริหารจัดการและเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นไปตามแนวทางการจัดเขตพื้นที่สถานการณ์ ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
กระทรวงมหาดไทย จึงมีคำสั่งให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามมาตรการ
FB:ไทยคู่ฟ้า
ศบค.ตั้งเลขาฯ กสทช. เป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านสื่อสาร
หลังจากที่ประชุม ศบค.เห็นชอบจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ( กสทช.) เป็นศูนย์ปฏิบัติการภายในโครงสร้าง ศบค. เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว ด้วยการตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารในอินเตอร์เน็ตภายในโครงสร้าง ศบค. โดยมีเลขาธิการ กสทช. เป็นหัวหน้าศูนย์ และให้ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ดังกล่าวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งนายกฯ เรื่องการจัดโครงสร้าง ศบค. ให้เลขาธิการ กสทช. เป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสื่อสารในอินเทอร์เน็ต
เพิ่มซื้อวัคซีนไฟเซอร์มากขึ้นเป็น 30 ล้านโดส เร่งขึ้นทะเบียนวัคซีน สปุตนิก วี
ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาแผนจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติม
-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยืนยัน การจัดหาวัคซีนในเดือนนี้ จำนวน 10,000,000 โดส ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเสี่ยง โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรด่านหน้า กลุ่มโรงงานและกลุ่มประกันสังคมรวมทั้งคนต่างประเทศที่อยู่ประเทศไทย
-จัดหาวัคซีนไฟเซอร์ให้ครบ 30,000,000 โดส ภายในปี 64 จากเดิมที่มีแผนการสั่งซื้อแล้ว 20,000,000 โดส นายกฯ สอบถามถึงการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ว่าควรเป็นวัคซีนไฟเซอร์หรือไม่ กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าการบูทเข็ม 3 เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าใช้ได้และมีผลดี
-ที่ประชุมเร่งให้มีการพิจารณาการขึ้นทะเบียนวัคซีน สปุตนิก วี ของรัสเซีย ซึ่งต้องเร่งฉีดให้แพทย์และบุคลากรด่านหน้า
เตรียมเปิดรอบ 2! ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดให้ปชช.-องค์กรนิติบุคคล จองวัคซีน'ซิโนฟาร์ม'จะขยายเพิ่มกลุ่มเด็กด้วย
ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สรุปแผนการจัดสรรและกระจายวัคซีนซิโนฟาร์ม จำนวน 10,000,000 ล้านโดส ระหว่างเดือนมิ.ย.ส.ค. - 64
-ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้จัดสรรและกระจายวัคซีนซิโนฟาร์มให้กลุ่มต่างๆ ไปแล้วจำนวน 8,900,000 โดส
-มีโควต้าวัคซีนซิโนฟาร์มที่รอการจัดสรรอีกจำนวนประมาณ 1,100,000 โดส
-ในเดือนนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะเปิดลงทะเบียนจองวัคซีนสำหรับบุคคลธรรมดาในรอบที่ 2
-เปิดลงทะเบียนการขอรับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มสำหรับองค์กรนิติบุคคล ระยะที่ 2 โดยมีข้อกำหนดให้สำหรับองค์กรที่มีการยื่นขอรับจัดสรรให้กับพนักงานตั้งแต่ 100-2,000 คน เพื่อทยอยกระจายวัคซีนที่มีในโควต้าให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ที่มีความต้องการเข้าถึงวัคซีนอย่างเร่งด่วนต่อไป
-เตรียมแผนขยายอายุการให้วัคซีนซิโนฟาร์มในกลุ่มเด็กและวัยรุ่นอายุ 3-17 ปี หลังจากรัฐบาลจีนได้อนุมัติรับรองการใช้วัคซีนซิโนฟาร์มเพื่อการใช้แบบฉุกเฉินในกลุ่มคนอายุ 3-17 ปี คาดว่า จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นจนกว่าวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือกในประเทศไทย จะมีเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ก็จะค่อยๆ ลดบทบาทในการนำเข้าและจัดสรรปริมาณวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์มนี้ลง
ศ.นพ.นิธิ เปิดไทม์ไลน์การนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์ม 10,000,000 โดส หลังจากวัคซีนซิโนฟาร์ม ล็อตที่ 5 จำนวน 1,000,000 โดส จัดส่งถึงประเทศไทยเมื่อวานนี้ (1ส.ค. 64)
ไทม์ไลน์วัคซีนซิโนฟาร์ม 10 ล้านโดส
• 20 มิถุนายน 2564 จำนวน 1 ล้านโดส
• 4 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส
• 18 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส
• 25 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส
• 1 สิงหาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส
• 15 สิงหาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส
• 22 สิงหาคม 2564 จำนวน 2 ล้านโดส
• 29 สิงหาคม 2564 จำนวน 2 ล้านโดส
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นตัวแทนของรัฐบาลไทยในการดำเนินการประสานติดต่อและนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มจากประเทศจีน และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) อนุมัติการขึ้นทะเบียนเป็นวัคซีนโควิด-19 รายการที่ 5 ของประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 พ.ค.64 เพื่อกระจายวัคซีนช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงและได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ วัคซีนจากบริษัทซิโนฟาร์มที่ใช้ในประเทศไทยผลิตโดยสถาบันชีววัตถุแห่งกรุงปักกิ่ง (BIBP) เป็นวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก (WHO)