*ครม.กำชับ รับมือภัยแล้ง เห็นชอบร่างพรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ*

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ครม. ในวันนี้ ที่มีพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน แทน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกําเนิด รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า ในที่ประชุมพล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลสถานการณ์ภัยแล้ง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ลงไปติดตามการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่แล้งซ้ำซาก  ลังจากที่ให้เงินช่วยเหลือตำบลละ 1ล้านบาท เพื่อนำไปดำเนินโครงการ เช่น  การทำบ่อน้ำชุมชน ,การจัดทำปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งแต่ละโครงการควรทำให้คนในชุมชนมีส่วนร่วม และเกิดการจ้างงานในชุมชนร้อยละ50

ร่วมถึงการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน  ส่วนสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีรายงาน รายได้จากเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนมกราคมปี58เก็บได้กว่า 40,000ล้านบาท  ซึ่งปรับตัวดีขึ้น    ส่วนการขอใบประกอบกิจการเปิดโรงงานตั้งแต่เดือนพ.ค.-ธ.ค.57ที่มีกว่า 3,506แห่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังมีทิศทางที่ดีขึ้น

นอกจากนั้น ยัง กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการลดการสูญเสียของประชาชนในช่วงเทศกาลต่างๆ โดยให้หาแนวทางมาตราเพื่อลดการสูญเสียมาเสนอต่อรัฐบาลเช่น ด้านการขนส่ง  เร่งตรวจสอบใบอนุญาติแก่ผู้ใช้ทุกประเภท หรือให้มีการต่อใบอนุญาติภายในกำหนดช่วงเวลาบัตรหมดอายุ เพื่อที่จะได้มีการทบทวนความรู้ในการขับขี่

สำหรับ ที่ประชุมครม. วันนี้ ที่มีมติเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ(ฉบับที่...) พ.ศ.... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ ซึ่งปรับปรุงแก้ไข .พ.ร.บ.ป่าสงวนปี2507 ให้มีความชัดเจน  โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการควบคุมรักษาป่าสงวนแห่งชาติประจำจังหวัด ในการควบคุมดูแลป่าสงวนแห่งชาติเพื่อวินิจฉัยสิทธิในการทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ รวมถึงให้มีคณะกรรการพิจารณาการใช้เขตในป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อพิจารณาการใช้พื้นที่ของป่าสงวนให้ชัดเจน  ซึ่งขณะนี้ให้กระทรวงทรัพยากรฯ ไปหารือกับกฤษฎีกาในรายระเอียดต่อไปเห็นชอบให้การโอนภาระกิจกำกับดูแลความตกลงระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ให้ทางกระทรวงต่างประเทศเป็นผู้ดูแล จากเดิมที่ให้กระทรวงพาณิชย์ดูแล เนื่องจากปัจจุบันมีการตกลงทางด้านต่างประเทศมากขึ้น

ครม. ยังมีมติให้จัดระเบียบแรงงานเวียดนาม ถูกกฎหมาย ที่ระยะเวลาการทำงานจะสิ้นสุด ถ้าหากประสงค์จะทำงานในประเทศไทยต่อ จะต้องพานายจ้างไปจดทะเบียนใหม่ภายใน 30วันนับตั่งแต่ ครม.เห็นชอบวันนี้10ก.พ. โดยแรงงานเหล่านี้สามารถทำงานได้เฉพาะ งานประเภทรับใช้ภายในบ้าน ,งานก่อสร้าง ,งานประมง .และงานร้านอาหาร รวมทั้งครม. อนุมติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ต่อสัญญาเงินกู้วงเงิน 800 ล้านบาทจากเดิมที่จะครบกำหนดวะนที่ 29มี.ค.58 ให้เพิ่มไปอีก1ปี เนื่องจากเงินส่วนนี้ทาง รฟท.จะต้องเก็บไว้ใช้เพื่อเสริมสภาพข้องขององค์กร  ด้านกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รายงาน ครม. ถึงขั้นตอนการดำเนินการตามโรดแมปในการจัดการขยะมูลฝอยของแต่ละหน่วยงานในแต่ละพื้นที่

นอกจากนั้น ยังเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ... และร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เนื่องจากจะทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก(SME).เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น รวมถึง ครม. เห็นชอบปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ล้มละลาย ตามที่กระทรวงยุติธรรม เสนอ เพื่อให้มีความชัดเจนและทันสมัยมากขึ้น ซึ่งจากเดิมหากลูกหนี้ล้มละลาย ถ้าหากเจ้าหนี้ต้องการเรียกร้องทรัพย์สินของลูกหนี้ก็ต้องไปฟ้องต่อศาลก่อน  แต่แบบใหม่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อนำทรัพย์สินขายสู่ตลาดแล้วเจ้าหนี้สามารถขอรับเงินคืนได้เลย