สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดในกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ ปัจจุบันนี้ เริ่มมีแนวโน้มแย่ลงอีกครั้ง มีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น อีกทั้งพบการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาในหลายท้องที่ทั่วประเทศ
นายแฮร์รี โรก โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ลงนามในคำสั่งให้ล็อกดาวน์กรุงมะนิลาอีกรอบหนึ่ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคมจนถึงวันที่ 20 สิงหาคมนี้ ปิดห้างร้าน ระบบคมนาคม รณรงค์ให้ประชาชนกว่า 13 ล้านคนในกรุงมะนิลาอยู่บ้านหรือทำงานจากบ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ยกเว้นแต่มีธุระจำเป็นเช่น ไปพบแพทย์หรือไปซื้ออาหารในร้านค้าในชุมชน
นายโรก กล่าวถึงการประกาศล็อกดาวน์กรุงมะนิลาครั้งนี้ว่าเป็นการตัดสินใจอย่างยากลำบาก แต่รัฐบาลจำเป็นต้องทำเพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชนส่วนใหญ่ ด้านนายเบนจามิน อาบาลอส ประธานสภาเทศบาลแห่งกรุงมะนิลาเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของฟิลิปปินส์จะเร่งขยายโครงการกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมท้องที่ต่างๆของกรุงมะนิลาให้มากขึ้น ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเฉลี่ย 250,000 โดสต่อวัน จาก 150,000 โดสต่อวันในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ ฟิลิปปินส์ได้ล็อกดาวน์กรุงมะนิลาเมื่อเดือนมีนาคม จนสถานการณ์เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ลดลง รัฐบาลจึงเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์กรุงมะนิลาเมื่อวันที่ 11 เมษายน ทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ
ในปัจจุบัน ฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยสะสม 1.57 ล้านคน เสียชีวิต 27,577 ราย
Cr: reuters, straits times