สธ.แนะป่วยโรคเรื้อรัง 4 โรค ควรหลีกเลี่ยงขับรถ-เสี่ยงวูบ

10 กุมภาพันธ์ 2558, 12:22น.


จากกรณีที่พนักงานขับรถทัวร์สายกรุงเทพ-ท่าช้าง วัย 68 ปี มีอาการหมดสติและเสียชีวิตคาพวงมาลัยขณะขับรถ บนถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ทำให้เกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 นายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เป็นอุทธาหรณ์ของผู้ที่ต้องทำหน้าที่ขับรถหรือมีอาชีพขับรถรับจ้าง ทั้งผู้ที่อยู่วัยแรงงานและสูงอายุ ควรใส่ใจสุขภาพ เนื่องจากวัยนี้มักจะเกิดโรคเรื้อรังอย่างไม่รู้ตัวมาก่อน และทำให้เกิดอาการวูบขณะปฏิบัติงาน ซึ่งเกิดจากการขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง ร่างกายสูญเสียความรู้สึกตัวและแรงของกล้ามเนื้อชั่วคราว ทำให้ไม่สามารถบังคับตัวเองได้ ที่พบบ่อยมี 4 โรค ได้แก่ โรคหัวใจ เบาหวาน ลมชัก และผู้ที่เคยได้รับการผ่าตัดสมองมาก่อน รวมทั้งผู้ที่อยู่ในภาวะเครียด ซึ่งจะมีอาการนอนไม่หลับ ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ จึงควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์คนเดียว สำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี หากมีอาการเจ็บป่วยจะได้ ได้รับการรักษาควบคุมอาการอย่างต่อเนื่อง หากเป็นผู้ที่มีอาชีพขับรถหรือต้องทำงานกับเครื่องจักร ควรกินยาและปฏิบัติตามการรักษาของแพทย์อย่างใกล้ชิด 


ด้านนายแพทย์อนุรักษ์ อมรเพชรสถาพร ผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุขฉุกเฉิน กล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก และแพทยสภา เพิ่มความเข้มงวดการออกใบรับรองแพทย์ให้ผู้ขับขี่รถ โดยได้เสนอเพิ่มโรคที่มีความเสี่ยงเกิดอันตรายขณะขับรถเพิ่มอีก 4 โรค ได้แก่ ลมชักที่กินยาควบคุมอาการไม่ได้ โรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลิน อาจเกิดอาการวูบจากน้ำตาลในเลือดต่ำ ผู้ป่วยโรคหัวใจอาจเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอย่างกะทันหัน และผู้ป่วยหลังผ่าตัดสมองบางรายที่อาจมีปัญหาเรื่องการควบคุมการทรงตัว และการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ และมีผลต่อการตัดสินใจในการควบคุมบังคับรถ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทั้งตนเองขณะขับขี่ ผู้ร่วมเดินทาง และผู้อื่นในท้องถนน ผู้ป่วยดังกล่าวควรได้รับการตรวจรักษาโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด หากสภาพร่างกายไม่พร้อม แพทย์จะแนะนำให้หยุดขับรถชั่วคราว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกเป็นกฎหมายเพื่อบังคับใช้ต่อไป จากเดิมที่กฎหมายการจราจรขนส่งทางบกในการขอใบอนุญาตขับรถ กำหนดไว้ 5 โรค ได้แก่ โรคเรื้อน โรคเท้าช้าง ติดยาเสพติด พิษสุราเรื้อรัง และวัณโรคระยะติดต่อ


สำหรับผู้ที่ต้องขับขี่รถ ควรมีการเตรียมสภาพร่างกายและจิตใจให้พร้อม โดยนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากขับรถระยะทางไกลควรพักทุก 4 ชั่วโมงหรือทุก 300 - 400 กิโลเมตร และควรมีคนขับสำรอง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ก่อนออกเดินทางควรศึกษาเส้นทาง และตรวจสอบความพร้อมของรถทุกครั้ง


...
ข่าวทั้งหมด

X