ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 07.30น.วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม 2654

30 กรกฎาคม 2564, 07:44น.


กรมควบคุมโรค เตรียมพร้อมฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ที่ไทยได้รับจากสหรัฐฯแล้ว 1.5 ล้านโดส



          สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย รายงานในเพจ U.S.Embassy Bangkok ระบุว่า  วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสที่บริจาคโดยสหรัฐฯ เดินทางถึงไทยแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้ง นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เดินทางไปรับมอบที่สนามบินสุวรรณภูมิ





         อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุถึง เรื่องการจัดเก็บวัคซีนว่าจะเก็บเข้าคลังวัคซีนในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส เมื่อกระจายไปหน่วยฉีดจะนำไปเก็บในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ซึ่งจะอยู่ได้นาน 4 สัปดาห์ จึงต้องรีบนำออกมาใช้ และในวันนี้จะมีการอบรมผ่านระบบออนไลน์ถึงวิธีการผสมการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลากรตามจุดฉีดที่เกี่ยวข้อง เป็น รพ.ทั่วประเทศ ต้องผสมให้ได้ตามสัดส่วนและดูดจากขวดใหญ่ไปฉีดให้ประชาชน 1 ขวด จะฉีดได้ 6 คน จึงต้องเตรียมการทั้งการเก็บรักษา การผสมวัคซีน การนัดหมายการฉีด สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการฉีด



         การจัดส่งวัคซีนจำนวนดังกล่าวเป็นล็อตแรกและเป็นส่วนหนึ่งของจำนวนวัคซีน 2.5 ล้านโดส ที่สหรัฐฯจะบริจาคให้กับไทย



U.S.Embassy Bangkok



กทม.ฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ ครบ 6.8 แสนโดส ภายในสิ้นเดือนนี้



        กรุงเทพมหานคร สรุปการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ข้อมูลวันที่ 28 ก.ค.64 ซึ่งเป็นการฉีดโดยหลายหน่วยงาน เช่น จุดฉีดสถานีกลางบางซื่อโดยกระทรวงสาธารณสุข จุดฉีดศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งได้ร่วมกันจัดหน่วยฉีดให้บริการประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมจำนวนสะสม 5,668,720 โดส



-ผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 3,617,734 ราย  



-ผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม จำนวน 1,025,493 ราย (2,050,986 โดส)



-กรุงเทพมหานคร ได้รับการจัดสรรวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า รวม 680,000 โดส



-เดือน มิ.ย. 64 ฉีดให้ประชาชนผ่านโครงการไทยร่วมใจ ณ จุดฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล จำนวน 200,000 โดส



-เดือน ก.ค.64 ฉีดให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งผู้ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการไทยร่วมใจและคนที่ได้รับแจ้งให้เลื่อนคิว รวมจำนวน 480,000 โดส คาดว่า จะให้บริการวัคซีนได้ครบภายในสิ้นเดือนนี้



-ส่วนคนที่มีคิวนัดกับโครงการไทยร่วมใจตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.64 เป็นต้นไป จะแจ้งคิวฉีดวัคซีนใหม่ให้ทราบทันที เมื่อกรุงเทพมหานคร ได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติม



สำนักงบฯ ยืนยัน งบประมาณเพียงพอ ช่วยปชช. เงินกู้ 5 แสนล้านยังไม่ได้ใช้



         พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์พิเศษเผยแพร่ทางเพจไทยคู่ฟ้าถึงผลการประชุมร่วมกับทีมเศรษฐกิจ



-สั่งการให้เตรียมมาตรการต่างๆให้พร้อมทั้งมาตรการเดิมที่มีอยู่และมาตรการใหม่ โดยอาจจะต้องมีการพุ่งเป้าลงไปในบางกิจการหรือบางกลุ่มเป็นพิเศษให้ทั่วถึง



-นายกฯ ห่วงโรงงานปิด ภาคการผลิตได้รับความเสียหาย สั่งการให้เร่งแก้ปัญหา ขณะที่หลายโรงงานได้ทำตามแผนเรื่องการตั้งโรงพยาบาลสนามอยู่ในโรงงาน  



-การช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการต่างๆที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 นายกฯ สอบถามสำนักงบประมาณว่ามีงบประมาณเพียงพอหรือไม่ ซึ่งสำนักงบประมาณรายงานว่ายังมีงบประมาณอยู่เพียงพอ โดยได้มีการใช้งบประมาณก้อนแรกไปแล้ว 1,000,000 ล้านบาท เหลือประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท งบประมาณรอบใหม่ 500,000 ล้านบาทที่กู้มา ยังไม่ได้ใช้



-การปรับเปลี่ยนวิธีการต่างๆทั้งในเรื่องการนำเข้า ส่งออก



-โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ นายกฯ ย้ำเรื่องความปลอดภัยทั้งคนไทยและคนต่างประเทศที่เดินทางเข้ามา แต่จะต้องดำเนินการเรื่องการฉีดวัคซีนต่อเนื่อง และขั้นตอนการทำงานต้องมีมาตรการรองรับในเรื่องการตรวจสอบคัดกรอง และอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น  



เริ่ม 3-16 ส.ค. ภูเก็ต ห้ามเดินทางเข้าทุกทาง ยกเว้น 12 กลุ่ม  



          จังหวัดภูเก็ต ออกคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 4202/2564 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2564  เรื่อง ยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต  มีผลตั้งแต่วันที่ 3 - 16 ส.ค.64 รายละเอียดที่สำคัญ



1. ห้ามบุคคลและผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต ทั้งทางบก (ด่านตรวจท่าฉัตรไชย) ทางน้ำ (ท่าเรือ) ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต และช่องทางภายในประเทศ (ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต)



เว้นแต่ เป็นบุคคล หรือผู้ขับขี่ยานพาหนะ ดังต่อไปนี้



1) รถฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยฉุกเฉิน กู้ชีพ กู้ภัย



2) ขนส่งยา วัสดุอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ทางการแพทย์



3) ขนส่งสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค สินค้าทางการเกษตร ปศุสัตว์ อาหารสัตว์



4) ขนส่งแก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง



5) ขนส่งเงินของธนาคาร สถาบันทางการเงิน



6) ขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์



7) ผู้มีความจำเป็นในการเดินทางออกทางช่องทางระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต (ต้องมีตั๋วโดยสาร ของวันที่เดินทาง เท่านั้น)



8 ) ผู้ที่ได้รับคำสั่งหรือมีหนังสือมอบหมายจากต้นสังกัดให้ปฏิบัติหน้าที่ในด้านการป้องกันและควบคุมโรคในจังหวัดภูเก็ต



9) ผู้ที่ได้รับคำสั่งจากส่วนราชการให้ไปหรือมาปฏิบัติภารกิจจำเป็นเร่งด่วนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต



10) ผู้ที่มีนัดหมายตามกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล พนักงานอัยการ หรือพนักงานสอบสวน ซึ่งต้องมีเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนว่าหากเลื่อนเวลานัดหมายดังกล่าวจะทำให้กระบวนการพิจารณาเสียหายอย่างร้ายแรง หรือมีนัดหมายการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ มิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายแก่คู่กรณีหรือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง



11) ขนส่งวัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร และอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมบำรุง เฉพาะที่ใช้ในการดำเนินการโครงการเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย หรือโครงการของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนหรือกรณีจำเป็นเร่งด่วน



12) กรณีอื่นใดซึ่งมีปัญหาในทางปฏิบัติที่ต้องวินิจฉัยสั่งการ ให้ผู้บัญชาการเหตุการณ์ประจำด่านตรวจภูเก็ตเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาเป็นรายกรณี



          ผู้ที่ได้รับการยกเว้นตามกรณีดังกล่าวข้างต้น ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดซิโนแวค (Sinovac), ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ครบ 2 เข็ม หรือซิโนแวค (Sinovac) เข็ม 1 แอสตร้าเซนนก้า (AstraZeneca) เข็ม 2 หรือได้รับวัคซีนชนิดแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca), ไฟเซอร์ (Pfizer) , โมเดอร์นา (Moderna), จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson and Johnson) จำนวน 1 เข็ม มาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน และ ต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Test มาจากนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางถึง



2. กรณี นักเรียนนักศึกษาอายุไม่ถึง 18 ปี ที่ไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้และมีความจำเป็นต้องเดินทางผ่านเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ตเพื่อการเรียนการศึกษาให้หน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาหรือศึกษาธิการจังหวัดออกบัตรประจำตัวเป็นรูปแบบเดียวกัน แสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อเดินทางผ่านเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ต และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR และออกใบรับรองการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้มีผลใช้ได้ครั้งละไม่เกิน 1 เดือน



3. กรณี ผู้มีนัดหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 2 (ต้องมีใบนัดหมายการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ที่จังหวัดภูเก็ต) และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Test มาจากนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางถึง



4. ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (Location) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต



5. แสดงเอกสารหลักฐานข้างต้น ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อก่อนเข้าจังหวัดภูเก็ต



6. การใช้เส้นทางคมนาคมและการตรวจคัดกรองการเดินทาง ผ่านทางด่านตรวจท่าฉัตรไชย ห้ามบุคคลและยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต ระหว่างเวลา 23.00 น. ถึงเวลา 04.00 น. วันรุ่งขึ้น ยกเว้น เมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ





 



 





 



 





 



CR:ศูนย์ข้อมูล COVID-19



ออกคำสั่งเพิ่ม! เชียงใหม่ ควบคุมคนที่มาจากระยอง และ อ.แม่สอด ตาก เหมือนคนที่มาจากพื้นที่สีแดงเข้ม  



          ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ออกมาตรการเพิ่มเติมควบคุมคนที่เดินทางมาจากจังหวัดระยอง เช่นเดียวกับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงเข้ม และ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก



-จังหวัดระยอง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละ 200-300 คน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จึงมีมติกำหนดมาตรการควบคุมให้มีความเข้มงวดเช่นเดียวกันกับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด



-เช่นเดียวกับ พื้นที่ อ.แม่สอด จังหวัดตาก



         คนที่เดินทางเข้ามาต้องบันทึกข้อมูลลงในแอปพลิเคชัน “CM-CHANA” ก่อนเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ทันที รวมถึงต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 (swab) ทุกราย และต้องกักตัว (Quarantine) 14 วัน





CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ. เชียงใหม่ 



 



 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X