ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 12.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม 2564

29 กรกฎาคม 2564, 13:41น.


ดีแทค-ทรู ลงทะเบียนจองคิววัคซีนเต็มแล้ว เอไอเอส ให้ลงบ่ายโมง



          การลงทะเบียนค่ายมือถือฉีดวัคซีน หลังเลื่อนเวลาลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนบางซื่อจากเวลา 9.00 น.เป็น 11.00 น. กรณีผู้ลงทะเบียนเฉพาะกลุ่ม 18 ปี ผู้ใช้เครือข่าย ดีแทค เต็มแล้ว ทรู เต็มแล้ว  เอ็นที เต็มแล้ว ส่วน เอไอเอส เริ่มลงทะเบียนเวลา 13.00 น.



          การลงทะเบียนครั้งนี้ เป็นการปรับการทำงานและลดความแออัดของศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ สำหรับการลงทะเบียนจะเปิดให้ 3 กลุ่ม



-ประชาชนทั่วไปอายุตั้งแต่ 18 ปี วันละ 10,000 โดส



-ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง รวมวันละ 10,000 โดส



อย.พร้อมพิจารณาการขึ้นทะเบียนของบริษัทผลิตวัคซีน



          นพ.ไพศาล  ดั่นคุ้ม  เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา  เปิดเผยเกี่ยวกับการพิจารณาอนุญาตวัคซีนโควิด-19 ว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติทะเบียนวัคซีนโควิด-19 แล้ว จำนวน 6 รายการ ได้แก่



-วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดยบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด และที่ผลิตในประเทศโดย บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด



-วัคซีนโคโรนาแวค ของบริษัท ซิโนแวค ไลฟ์ไซเอ็นซ์ จำกัด นำเข้าโดยองค์การเภสัชกรรม



-วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โดยบริษัท แจนเซ่น-ซีแลค จำกัด



-วัคซีนโมเดอร์นา โดยบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด



-วัคซีนของซิโนฟาร์ม โดยบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด



-วัคซีนโคเมอร์เนตีของบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด



          สำหรับวัคซีน สปุตนิค วี  และ วัคซีนโควัคซีนของบารัต ไบโอเทค ผู้ที่ยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีน ขอให้ส่งเอกสารสำคัญประกอบการขึ้นทะเบียนให้ครบถ้วน เพื่ออย.จะได้เร่งดำเนินการพิจารณาประเมิน ทั้งในด้านของคุณภาพ ความปลอดภัย ประสิทธิผล และการบริหารจัดการความเสี่ยงของวัคซีน ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการขึ้นทะเบียน



          ทั้งนี้ ยังมีวัคซีนโควิด-19 อื่น ๆ ทั้งชนิดเชื้อตาย mRNA ไวรัลเวคเตอร์ และโปรตีน ซับยูนิต ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาในหลายประเทศ หากผู้ประกอบการใดมีความพร้อมในการนำวัคซีนเหล่านี้มายื่นขอขึ้นทะเบียนในประเทศไทย อย. พร้อมดำเนินการอย่างเต็มที่ 



ตร.รถไฟ สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องแล้ว 7 ปาก พร้อมตั้งคณะทำงานร่วมกับกองปราบและปอท.คดีทุจริตฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ



          พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดในการแฮกข้อมูลผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เข้ามาฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อว่าพนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องแล้ว 7 ปาก ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กรมการแพทย์ พนักงานบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์ โดยจะเข้าสอบสวนปากคำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกเพิ่มเติม



          เจ้าหน้าที่สังเกตพบว่าบริเวณประตู 4 ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ มีผู้นัดหมายผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ดังกล่าวมายืนรอแน่นบริเวณประตู แต่เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป ทำให้ผู้ที่จองผ่านเครือข่ายต่างแยกย้ายหลบหนีไป ส่วนใหญ่พบว่าเป็นพนักงานบริษัท และพนักงานโรงงาน ซึ่งสันนิษฐานว่ามีหลายกลุ่มที่ร่วมกระทำความผิด ทั้งนี้ผู้ที่ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน หรือศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ จะกันไว้เป็นพยาน



          พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า การสืบสวนสอบสวนมีความซับซ้อน จึงเตรียมตั้งคณะพนักงานสอบสวนโดยจะประสานงานกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อหาแนวทางการสืบสวนและต้องตรวจข้อมูลความผิดปกติในยูสเซอร์ รวมทั้งติดตามหาผู้กระทำความผิด โดยเบื้องต้นหากพิสูจน์หาต้นตอผู้กระทำความผิดได้ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก่อน



          เริ่มวันนี้ ทบ.ใช้ C-295 ย้ายผู้ป่วยโควิด-19 กลับภูมิลำเนา 2 เที่ยวบินแรก'กรุงเทพ-นครพนม'



          ภารกิจเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลับภูมิลำเนาด้วยเครื่องบินลำเลียงแบบ C-295 พ.อ.อิทธินันท์ โชติช่วง รองผู้อำนวยการ กองวิทยาการ กรมแพทย์ทหารบก กล่าวว่า ต้องอยู่ภายใต้มาตรการปลอดภัยสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันตัว รวมทั้งระบบภายในอากาศยาน โดยวันนี้จะทำการบิน 2 เที่ยวบิน เที่ยวบินแรกมีผู้ป่วย 20 คน และเที่ยวบินที่ 2 อีก 20 คน รวม 40 คน จะเดินทางไปที่สนามบินจังหวัดนครพนม ที่ไม่มีเส้นทางรถไฟผ่าน จากนั้นจะส่งต่อไปรักษาที่สถานพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 โดยใช้ระยะเวลาบิน 1 ชั่วโมงครึ่ง



          การดูแลผู้ป่วยก่อนลำเลียงขึ้นอากาศยานจะต้องมีการคัดกรองและส่งต่อผู้ป่วยที่มีความพร้อมก่อน ทั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันหลายส่วน ทั้งสำนักงานหลักประกันสุขภาพ และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อคัดกรองผู้ป่วยทั้งหมด โดยจะมีการประสานงานร่วมกันเป็นอย่างดีตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ในการรวบรวมจำนวนผู้ป่วยที่จะส่งต่อภูมิลำเนา



          สำหรับการคัดกรองผู้ป่วย เน้นผู้ป่วยที่มีอาการไม่มากมีความแข็งแรงในระดับหนึ่งที่จะสามารถเคลื่อนย้ายด้วยอากาศยาน เพราะในระหว่างการบินบนอากาศจะมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายมนุษย์จากพื้นที่ด้านล่างไปสู่พื้นที่สูง จึงต้องตรวจสอบผู้ที่จะโดยสารไปกับอากาศยาน โดยจะพิจารณาความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย การเดินทางด้วยอากาศยานมีข้อดีสำหรับการเดินทางระยะไกล และทำให้ผู้ป่วยเดินทางกลับถึงภูมิลำเนาได้อย่างรวดเร็วขึ้น และทำให้การเคลื่อนย้ายเกิดความปลอดภัยสูงสุด



          ในส่วนของอากาศยานนั้นนักบินและเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องต้องป้องกันตนเองด้วยการสวมชุดป้องกัน ทั้งนี้ได้มีการปรับพื้นที่ภายในอากาศยานแบ่งเป็น 5 ส่วน ทั้งพื้นที่ส่วนหน้าระหว่างกลางสำหรับรักษาพยาบาล และส่วนของพื้นที่นั่งสำหรับผู้โดยสาร



           นอกจากนี้ ยังมีการควบคุมระบบอากาศภายในเครื่อง มีการปรับความดันอากาศ และมีเครื่องกรองอากาศ ฟอกอากาศติดตั้งไว้สำหรับรองรับภารกิจนี้ เพื่อควบคุมระบบการหมุนเวียนอากาศให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด



         



 



 



 



 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X