สั่งการด่วน! ปธน.ฟิลิปปินส์ สั่งเร่งฉีดวัคซีนโควิดให้กับทุกคนที่ต้องการ
ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงกลางดึก มีคำสั่งให้รัฐบาลเร่งโครงการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้กับทุกคนที่ต้องการฉีด เนื่องจากมีความกังวลการระบาดของสายพันธุ์เดลตาทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่การฉีดวัคซีนของฟิลิปปินส์ยังจำกัดอยู่ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ใหญ่ในวัยทำงาน ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่ในแต่ละวันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ มีคำสั่งให้หัวหน้าหมู่บ้านห้ามคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนออกจากบ้าน
ขณะนี้มีชาวฟิลิปปินส์เพียงร้อยละ 6 ของทั้งหมดประมาณ 110,000,000 คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว และรัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน 70,000,000 คน ก่อนสิ้นปีนี้
ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมมากกว่า 1,500,000 คน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 27,000 ราย มากเป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากอินโดนีเซีย
สหราชอาณาจักร ไม่กักตัวคนจากสหรัฐฯ-อียู ที่ฉีดวัคซีนแล้ว
คณะกรรมการจัดแผนควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า สหราชอาณาจักร จะอนุญาตให้ผู้โดยสารจากสหรัฐฯและกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ซึ่งมีสมาชิก 27 ประเทศ ที่รับวัคซีนครบสองเข็มแล้วเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวเฝ้าระวัง 2 สัปดาห์
ในปัจจุบัน เฉพาะประชาชนในอังกฤษที่รับวัคซีนครบแล้วที่ไม่ต้องกักตัวเฝ้าระวัง เมื่อเดินทางกลับมาจากกลุ่มประเทศสีเหลืองอำพัน (amber list) เช่น ประเทศไทย ภูฏาน กัมพูชา ลาว เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ ยกเว้น ฝรั่งเศส
ภาคอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักร เสนอแนะให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงกฏระเบียบการกักตัวใหม่ เพื่อให้ชาวต่างชาติโดยเฉพาะผู้รับวัคซีนครบแล้วได้รับความสะดวกในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในสหราชอาณาจักรในฤดูการท่องเที่ยวระหว่างเดือน มิ.ย.- ส.ค. 64
CR:BBC
ซาอุฯ เอาจริง สั่งปรับ-ห้ามเดินทาง 3 ปี หากพบว่าเดินทางไปที่กลุ่มประเทศสีแดง
เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยของซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบเรื่องที่ประชาชนบางคนทำผิดหรือละเมิดข้อบังคับในการเดินทางเข้าไปในพื้นที่สีแดง หากตรวจพิสูจน์ได้ว่ากระทำการผิดกฎหมาย จะต้องถูกลงโทษปรับอย่างหนัก เมื่อเดินทางกลับมา และจะถูกห้ามเดินทางเป็นเวลา 3 ปี
ซาอุดีอาระเบียสั่งห้ามเดินทางเข้าหรือเดินทางผ่านในประเทศในกลุ่มบัญชีสีแดงหลายประเทศ เช่น อัฟกานิสถาน, อาร์เจนตินา, บราซิล, อียิปต์, เอธิโอเปีย, อินเดีย, อินโดนีเซีย, เลบานอน, ปากีสถาน, แอฟริกาใต้, ตุรกี, เวียดนาม และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทย ยังได้แถลงย้ำห้ามประชาชนเดินทางเข้าไปโดยตรงหรือเดินทางผ่านประเทศที่ยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 หรือประเทศที่ตรวจพบการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์
ซาอุดีอาระเบียประเทศขนาดใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง มีประชากร 30,000,000 คน ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,379 คน ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 520,774 คน และเสียชีวิต 8,189 ราย
WHO เร่งศึกษาประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3
พญ.เคท โอไบรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิคุ้มกัน วัคซีน และชีววิทยา องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ในขณะนี้ WHO ไม่แนะนำให้มีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย เนื่องจาก ยังไม่มีข้อมูลสนับสนุนประสิทธิภาพในการดำเนินการดังกล่าว
WHO กำลังทำการวิจัยว่าการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 มีความจำเป็นหรือไม่ในการป้องกันไวรัสที่มีการกลายพันธุ์
ทั้งนี้ ผู้บริหารของบริษัทไฟเซอร์ โมเดอร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ต่างกล่าวสนับสนุนให้ชาวอเมริกันเข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้น หลังจากที่ได้รับวัคซีนครบโดสก่อนหน้านี้แล้ว
รายงานระบุว่า ประเทศที่เริ่มฉีดเข็มที่ 3 แล้ว เช่น สหราชอาณาจักร ฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนอายุ 50 ปีขึ้นไป เป็นวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า โมเดอร์นา ไฟเซอร์ เป็นต้น รัสเซีย ฉีดวัคซีน สปุตนิก วี ให้ประชาชนที่ได้รับวัคซีนครบแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน บาห์เรน และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ให้ประชาชนอายุ 50 ปีขึ้นไป
สหรัฐฯ วิตกจีนสร้างไซโลเก็บขีปนาวุธมากกว่า 100 แห่ง
กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯและสมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรครีพับลิกัน แสดงความวิตกเกี่ยวกับการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ของจีน หลังจากที่มีรายงานใหม่ ระบุว่า จีนกำลังสร้างไซโลเก็บขีปนาวุธอีก 110 แห่ง
รายงานของสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์แห่งอเมริกา (AFS) ระบุว่า ภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่า จีนกำลังสร้างไซโลแห่งใหม่ใกล้กับเมืองฮามี ทางตะวันออกของภูมิภาคซินเจียง
รายงานครั้งล่าสุด สอดคล้องกับสถานการณ์เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ที่จีนก่อสร้างไซโลเก็บขีปนาวุธ 120 แห่งในยูเหมิน ซึ่งเป็นพื้นที่ทะเลทรายทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน
เมื่อต้นเดือนก.ค.64 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ของจีน สหรัฐฯได้เรียกร้องให้จีนมีส่วนร่วมลดความเสี่ยงของการแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์
รวบ 2 คนร้ายชิงเพชร ร้านหรู 'โชเมต์' กลางกรุงปารีส
ผู้ต้องสงสัย 2 คน ถูกตำรวจฝรั่งเศส จับกุมได้ที่จุดพักรถยนต์ริมถนนมอเตอร์เวย์ แถบชานเมืองเมตซ์ ใกล้เขตแดนเยอรมนี พร้อมกับของกลางเครื่องประดับเพชรส่วนใหญ่ ที่ชิงไปจากร้านจำหน่ายเครื่องประดับอัญมณีและนาฬิกาหรู “โชเมต์” ใกล้ถนนฌ็อง-เอลีเซ่ ย่านใจกลางกรุงปารีส รวมมูลค่าประมาณ 2,000,000 ยูโร หรือประมาณ 77.7 ล้านบาท
ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านโชเมต์ แสดงให้เห็นชายคนหนึ่ง ในชุดแต่งกายสูทสีเทา ยืนอยู่ในร้าน และแสดงตัวเป็นลูกค้า บอกพนักงานขายให้นำเครื่องประดับเพชรมาเลือกชม ก่อนจะควักปืนพกจี้พนักงานและกวาดเครื่องประดับที่วางกองตรงหน้า หลบหนีอออกจากร้านไป
ร้านโชเมต์ เป็นหนึ่งในร้านจำหน่ายเครื่องประดับอัญมณีเก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศส เป็นธุรกิจในเครือของบริษัทแบรนด์หรูยักษ์ใหญ่ LVMH