ความแออัดของผู้เข้ารับวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับรายงานจากศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ว่าพญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนฯ ได้จับทุจริตการลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19
“พบว่ามีคนแฮกระบบผ่านเครือข่ายมือถือ และนำเอาโควต้าไปขายสิทธิ์ ซึ่งได้ดำเนินการดังกล่าวมา 3 วันแล้ว วันละ 1,500 คน ซึ่งในวันนี้ สามารถจับผู้กระทำความผิด และได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้มาฉีดวัคซีนที่ได้ซื้อสิทธิ์ดังกล่าว ได้สารภาพว่า จ่ายหัวละ 500-1,000 บาท”
สำหรับบทลงโทษนั้น มีโทษจำคุก 3-10 ปี ขณะนี้ กำลังสอบเพิ่มเติมว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมรู้เห็นหรือไม่ ก็จะเข้าข่ายมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ผู้ที่ซื้อสิทธิ์มานั้น ถ้าให้ความร่วมมือ โดยการให้ปากคำ และให้หลักฐานการโอน รวมถึงการติดต่อกับ ตัวกลาง จะดำเนินการกันไว้เป็นพยาน พร้อมทั้งจะฉีดวัคซีนให้ด้วย แต่หากไม่ให้ความร่วมมือ จะไม่ดำเนินการฉีดวัคซีนให้ และถือว่าเป็นผู้ต้องหา
ส่วนภาพความหนาแน่นของประชาชนที่เดินทางไปฉีดวัคซีน ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ตามที่เผยแพร่ตามสื่อออนไลน์ต่างๆ นั้น ในวันที่ 1 ส.ค. 2564 คาดการณ์ว่า จะมีความเรียบร้อยกว่านี้ เนื่องจากจะใช้ระบบนัดหมายผ่านแอปพลิเคชันวัคซีนบางซื่อ โดยจะมีเวลานัดหมายที่ชัดเจน และฉีดวัคซีนให้ตามเวลาที่กำหนดในการนัดหมายเท่านั้น
และในวันที่ 2 ส.ค. 2564 กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (Soft Opening) ช่วงบางซื่อ–รังสิต และช่วงบางซื่อ–ตลิ่งชันนั้น จะให้บริการบริเวณประตู 1 ทั้งทางด้านหน้าและด้านหลังเท่านั้น โดยจะแบ่งโซนแยกออกจากการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งจะให้บริการประตู 2-3-4