สหรัฐฯจะห้ามประชาชนจากจีน,อังกฤษและอียูเข้าประเทศ สกัดสายพันธุ์เดลตา

       หลังรัฐบาลสหรัฐฯมีคำสั่งห้ามประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงคือ ประเทศจีนเข้าประเทศตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว ต่อมาสหรัฐฯมีคำสั่งเพิ่มเติมห้ามประชาชนจากอังกฤษ กลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ซึ่งมีสมาชิก 27 ประเทศ บราซิล ไอร์แลนด์ อินเดีย อิหร่านและแอฟริกาใต้เดินทางเข้าสหรัฐฯ ทำให้บริษัทสายการบินและผู้ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของสหรัฐฯเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯผ่อนคลายมาตรการปิดชายแดน อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไปยังสหรัฐฯก่อนสิ้นสุดฤดูร้อน(มิถุนายน-สิงหาคม)นี้ ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวของสหรัฐฯและยุโรป

         นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯเปิดเผยว่า สหรัฐฯจะยังไม่ยกเลิกข้อห้ามประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวเดินทางเข้าสหรัฐฯ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งระบาดอย่างรวดเร็วในกลุ่มประชากรที่ยังไม่รับวัคซีนในสหรัฐฯ นอกจากนี้ เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80 ของผู้ป่วยใหม่ในทุกรัฐของสหรัฐฯและระบาดอย่างรวดเร็วในอีกหลายประเทศทั้วโลก พร้อมทั้งปรับปรุงคำเตือนฉบับใหม่ ขอให้ชาวอเมริกันเลี่ยงการเดินทางไปยังอังกฤษในระยะนี้เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าเช่นกัน

         ส่วนกรณีประเทศเพื่อนบ้าน เช่น แคนาดาแถลงเมื่อสัปดาห์ก่อน อนุญาตให้ชาวอเมริกันที่รับวัคซีนครบแล้วเดินทางเข้ายังแคนาดาได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคมนี้ นางซากี กล่าวว่า ในส่วนของสหรัฐฯจะยังคงปิดชายแดนที่ติดต่อกับเพื่อนบ้านคือแคนาดาและเม็กซิโกต่อไปจนถึงวันที่ 21 สิงหาคมนี้ หมายความว่าทั้งกลุ่มที่รับวัคซีนครบแล้วและกลุ่มที่ยังไม่รับวัคซีนจากเพื่อนบ้านทั้งสองไม่สามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯก่อนระยะเวลาดังกล่าว

         ในปัจจุบัน สหรัฐฯมีผู้ป่วยสะสม 35.28 ล้านคน เสียชีวิต 627,039 ราย

Cr: bbc, politico europe