นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ผู้นำกรีซ แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภายืนยันที่จะดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจตามที่ได้ให้คำมั่นไว้ในการหาเสียง ทั้งการประนอมหนี้ การเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ มีการจ่ายเงินโบนัส และ การรับเจ้าหน้าที่รัฐกลับมาทำงาน โดยในการเดินหน้าเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะต่อไปนั้น ผู้นำกรีซกล่าวว่า รัฐบาลกรีซต้องการโครงการเสริมสภาพคล่องระยะสั้นให้กับสถาบันการเงินในประเทศจนถึงช่วงกลางปีนี้ และเห็นว่า มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เจ้าหนี้กำหนดไว้นั้น ไม่สามารถบรรลุผลได้ตามเป้าหมาย และชาวกรีกส่วนใหญ่ไม่ต้องการขยายระยะเวลาโครงการรับเงินช่วยเหลือจากประเทศมหาอำนาจในยุโรปอีก ซึ่งเขาเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงครั้งใหม่ได้ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นกำหนดเวลาที่เจ้าหนี้กลุ่มทรอยกา ที่ประกอบด้วยสหภาพยุโรป (อียู) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะพิจารณาความก้าวหน้าของมาตรการตัดลดงบประมาณรายจ่าย ซึ่งจะนำไปสู่เงินช่วยเหลืองวดสุดท้าย 7,200 ล้านยูโร
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีซีปราส ผู้นำพรรคซีรีซ่า อายุ 40 ปี มีแนวคิดต่อต้านการปฏิรูปโครงสร้างรัฐวิสาหกิจ และปรับลดงบประมาณของประเทศอย่างเคร่งครัดที่รัฐบาลเยอรมนีเป็นผู้กำหนดแนวทาง ซึ่งนายยานิส วารูฟาคิส รัฐมนตรีคลังของกรีซ ซึ่งเป็นผู้เจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้เตือนว่า หากมีความจำเป็นที่ทำให้กรีซต้องออกจากกลุ่มยูโรโซน ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการล่มสลายสกุลเงินยูโร โดยในปัจจุบันภาระหนี้สินของกรีซอยู่ที่ 322,000 ล้านยูโร จากเงินต้น 240,000 ล้านยูโร คิดเป็นร้อยละ 175 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) โดยรัฐบาลเยอรมนีเป็นเจ้าหนี้ราวครึ่งหนึ่งของเงินกู้ทั้งหมด
..