WHO พบ 13 ปท.เจอเดลตา ระบาดกว่า 75% คาดอีก 3 สัปดาห์ ผู้ป่วยทั่วโลกเกิน 200 ล้านคน
องค์การอนามัยโลก(WHO) รายงานข้อมูลทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์ว่าเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่สามารถแพร่ระบาดได้ง่ายจะกลายเป็นโควิดสายพันธุ์หลักในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยสายพันธุ์นี้ที่มีการตรวจพบครั้งแรกในอินเดีย ปัจจุบันพบในประเทศและเขตปกครอง 124 แห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 13 แห่ง พบผู้ติดเชื้อเกินร้อยละ 75 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในออสเตรเลีย บังคลาเทศ บอตสวานา อังกฤษ จีน เดนมาร์ก อินเดีย อินโดนีเซีย อิสราเอล โปรตุเกส รัสเซีย สิงคโปร์ และแอฟริกาใต้
ส่วนโควิดสายพันธุ์อัลฟา ที่ตรวจพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร พบในประเทศและเขตแดน 180 แห่งหรือเพิ่มขึ้น 6 แห่งจากสัปดาห์ที่แล้ว
โควิดสายพันธุ์เบตา ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ พบในประเทศและเขตแดน 130 แห่ง หรือเพิ่มขึ้น 7 แห่งจากสัปดาห์ที่แล้ว
โควิดสายพันธุ์แกมมา ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในบราซิลพบในประเทศและเขตแดน 78 แห่ง หรือเพิ่มขึ้น 3 แห่งจากสัปดาห์ที่แล้ว
โดยรวมแล้วจำนวนผู้ติดเชื้อรายสัปดาห์จนถึงวันที่ 18 ก.ค.64 คือจำนวน 3,400,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากสัปดาห์ก่อนหน้า คาดว่า จำนวนผู้ป่วยสะสมทั่วโลกอาจมีจำนวนมากกว่า 200,000,000 คนในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า โดยได้รับแรงหนุนจาก 4 ปัจจัย คือ
-สายพันธุ์ที่มีการแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น
-การผ่อนคลายมาตรการสาธารณสุข
-การรวมกลุ่มทางสังคม
-ยังมีผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนอีกจำนวนมาก
ตำรวจกรีซ ยิงแก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ประท้วงต้านวัคซีน
ตำรวจกรีซ ยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่บริเวณด้านหน้าของรัฐสภาในกรุงเอเธนส์
ในการประท้วงเมื่อวันพุธเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (14 ก.ค.) มีผู้เข้าร่วมการประท้วงประมาณ 5,000 คน และในการประท้วงในสัปดาห์นี้ (21 ก.ค.) มีผู้เข้าร่วมการประท้วงประมาณ 1,500 คน เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลออกประกาศเมื่อต้นเดือนก.ค.64 บังคับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ในบ้านพักคนชราเข้ารับการฉีดวัคซีนและแนะนำให้ครูเข้ารับการฉีดวัคซีนในช่วงเดือนก.ย.64
กรีซมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 3,000 คน ทำให้มีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 463,473 คน และเสียชีวิตแล้วมากกว่า 12,800 ราย
รพ.บุษราคัม ดูแลคนไข้หนักเพิ่ม
นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุษราคัม เปิดเผยถึง การบริหารจัดการโรงพยาบาลบุษราคัมว่าโรงพยาบาลเปิดมาตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.64
-โรงพยาบาลดูแลคนไข้สะสมทั้งหมด 10,395 คน
-หายแล้วกลับบ้านไป 6,955 คน
-คงค้างรักษาอยู่ประมาณ 3,300-3,600 คน
-จำนวนนี้ใส่ท่อช่วยหายใจ 6-9 คนต่อวัน
-ใช้เครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ 150-160 คน
-ใช้ออกซิเจนประมาณ 500 คน
-ยังรองรับผู้ป่วยได้ประมาณวันละ 300-400 คน
-ปัจจุบันมีบุคลากรที่ทำงานรวม 300 คนเศษ เป็นแพทย์ 50-60 คน พยาบาล 200 คน ที่เหลือเป็นเภสัชกร นักรังสี ผู้ช่วยดูแลคนไข้ พนักงานเอกสาร บุคลากรทั้งแพทย์พยาบาลส่วนใหญ่เป็นจิตอาสาที่มาจากต่างจังหวัดเกือบ 100%
ศูนย์บริหารสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 หรือ ศบค. สรุปเรื่องการจัดสรรเตียงย้ำว่าศักยภาพเตียงรักษาผู้ป่วยมีจำกัดอย่างยิ่ง โดยเตียงที่มีอยู่ตอนนี้เป็นการเปิดเพิ่มหรือขยายจำนวนขึ้นอีก ทำให้เตียงรักษาผู้ป่วยที่มีอยู่เดิมเต็มหมดแล้ว
ความคืบหน้าการเปิดศูนย์พักคอยในสำนักงานเขตต่างๆ ตอนนี้กรุงเทพมหานครเปิดศูนย์พักคอยรองรับแล้ว 49 ศูนย์ ในพื้นที่ 47 เขต เปิดแล้ว 19 ศูนย์
นโยบายของผู้อำนวยการ ศบค. กำหนดให้กรุงเทพมหานคร 50 สำนักงานเขต ต้องมีศูนย์พักคอย 1 เขต มี 1 ศูนย์ รองรับได้100 เตียง และหากเป็นไปได้ บางเขตมีได้ 2 ศูนย์ เราจะได้เตียงสำหรับผู้ป่วยเป็น 10,000-20,000 เตียง
CR:กรุงเทพมหานคร
กลุ่มผู้ป่วยสีเหลือง-แดง แนวโน้มเพิ่มขึ้น
กรมการแพทย์ รายงานภาพรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19
-ส่วนมาก ร้อยละ 70-80 เป็นกลุ่มที่ไม่มีอาการ แบ่งเป็นสีเขียว ร้อยละ 51.78 ที่ไม่มีอาการ, สีเขียวเข้มร้อยละ 26.30 มีอาการน้อย ซึ่งผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มที่มีอายุน้อย อยู่ในวัยแรงงาน
-กลุ่มผู้ป่วยสีเหลือง ร้อยละ 18.10 อาการปานกลาง
-กลุ่มผู้ป่วยสีแดง ร้อยละ 3.82 อาการหนัก
ขณะนี้ พบว่า กลุ่มสีเหลืองและสีแดง เป็นตัวเลขที่มีกราฟสูงขึ้น ทำให้กระทรวงสาธารณสุขเน้นย้ำในการสงวนเตียงที่อยู่ในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ป่วยที่มีความรุนแรงในระดับปานกลางและหนักก่อน
รวมถึงพบว่าเชื้อสายพันธุ์เดลตาได้แพร่ระบาดเกินร้อยละ 50 แล้วในหลายจุด แบ่งเป็น 5 หลัก ได้แก่
1.เขตจตุจักร
2.เขตบางรัก
3.เขตจอมทอง
4.เขตคลองเตย
5.เขตหลักสี่ พยายามที่จะมุ่งเป้าในการฉีดวัคซีนป้องกัน จัดทีมป้องกันแก้ไขปัญหาโควิด-19 ในชุมชน
ศบค.ห่วงผู้ป่วยล้างไต ฟอกเลือด และติดเชื้อโควิด อาการจะทรุดลงเร็ว
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค.กล่าวถึง ผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือ ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว 3 อันดับแรกของโรคประจำตัวที่พบว่ามีการเสียชีวิตมากสุด ได้แก่
1.ความดันโลหิตสูง
2.เบาหวาน
3.ไขมันในเลือดสูง
-รวมถึงโรคไต ที่ประชุมศบค.ได้หารือถึงกรณีผู้ป่วยที่มีปัญหาต้องล้างไตหรือฟอกเลือด เมื่อมีการติดเชื้อโควิด-19 ร่วมด้วย จะทำให้อาการทรุดลงอย่างรวดเร็วและเสียชีวิตด้วยภาวะโรคประจำตัวที่ผู้ป่วยมีอยู่
ดำเนินคดี นักท่องเที่ยวชาวไทยหนีออกจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึง กรณีนักท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยไม่ยอมพักในจังหวัดครบ 14 คืน พบ 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 18 ปี เดินทางมาจากอังกฤษและออกจากจังหวัดภูเก็ตโดยเครื่องบินกลับบ้านไปบ้านที่ จ.ชลบุรี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้แจ้งให้มีการดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดภูเก็ต เรื่องการออกนอกพื้นที่
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) กล่าวว่า วันนี้ นายกฯจะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการศบศ. หารือสถานการณ์เศรษฐกิจ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน รวมถึงมาตรการเยียวยาต่างๆ รวมทั้งจะนำข้อสรุปจากการหารือ 40 ซีอีโอเข้าด้วย รวมถึงเตรียมหารือเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมรายงานความคืบหน้าของการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เริ่มต้นทำแล้วใน 2 พื้นที่นำร่อง คือ จ.ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี ผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัสโมเดล อีกทั้งยังเตรียมเสนอให้เปิดพื้นที่นำร่องเพิ่มเติมในจังหวัดอื่น เช่น กระบี่ และพังงา