เร่งคัดกรองเชิงรุกให้ได้ 1,000 คน ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนที่การเคหะลำลูกกา ปทุมธานี
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ปทุมธานี ติดตามการควบคุมและสอบสวนโรคในพื้นที่การเคหะลำลูกกาคอนโดมีเนียม ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
-จุดนี้พบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน พักอาศัยเป็นครอบครัวและเป็นแรงงานต่างด้าวกว่าร้อยละ 40 มีความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อไปในชุมชนใกล้เคียง จำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อควบคุมโรคโดยเร็ว
-เบื้องต้นตรวจคัดกรองเชิงรุกจำนวน 100 คน พบผู้ติดเชื้อ 30 คน มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกว่า 100 คน
-แยกดูแลกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง จำกัดวงการแพร่ระบาด
-ภายในวันพรุ่งนี้ 23 ก.ค. 64 จะต้องเร่งตรวจเชิงรุกให้ได้ทั้ง 1,000 คน
-คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี สั่งปิดบริเวณการเคหะลำลูกกาคอนโดมีเนียม 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-25 ก.ค.64 ห้ามบุคคลเข้า-ออก ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เว้นแต่ได้รับอนุญาต
-เร่งทำความสะอาด ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ และจัดตั้งเป็นสถานที่ป้องกันและควบคุมโรค (Organize Quarantine)
ระบบการดูแลผู้ติดเชื้อของจังหวัดปทุมธานี
-ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ จะแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation)
-หากอาการเปลี่ยนแปลงจะส่งไปโรงพยาบาลสนาม ซึ่งมี 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี, โรงพยาบาลสนามเฉลิมพระเกียรติธัญบุรี, รพ.สนามวิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี และโรงพยาบาลสนามตลาดไทย
-หากอาการรุนแรงจะส่งไปที่โรงพยาบาลเครือข่าย เช่น โรงพยาบาลปทุมธานี โรงพยาบาลธัญบุรี
CR:กระทรวงสาธารณสุข
คลัสเตอร์ใหญ่ ! เรือนจำขอนแก่น ผู้ต้องขังติดเชื้อ 315 คน เอ็กซ์เรย์ปอดอีกกว่า 3,000 คน
หลังจากที่พบการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ในเรือนจำกลางขอนแก่น 315 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 4,458 คน นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น กล่าวถึง แนวทางในการควบคุมโรค
-เรือนจำใช้มาตรการควบคุมโรค Bubble&Seal ห้ามเข้า-ออก ไม่รับผู้ต้องขังใหม่ แยกกลุ่มผู้ป่วย 315 คน ออกมากักตัวรักษาที่โรงพยาบาลสนามของเรือนจำภายในโรงนอนของหอประชุม
-ส่วนผู้ต้องขังอีกกว่า 3,000 คน ที่ไม่ได้ตรวจหาเชื้อ ได้วางแผนเชิงรุก ด้วยการเอ็กซเรย์ปอดผู้ต้องขังทุกคน หากพบติดเชื้อแม้ไม่แสดงอาการ จะถูกส่งต่อมาทำการรักษา
-ตรวจเชื้อเจ้าหน้าที่ 140 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ
-เร่งตรวจกลุ่มผู้ต้องขังหญิงทั้งหมด 329 คน เพื่อเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังแดนหญิงไปที่เรือนจำพล อ.พล จ.ขอนแก่น
-ปรับพื้นที่ให้แดนหญิงเป็นโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ รักษากลุ่มติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ
-หากผู้ป่วยมีอาการหนักจะถูกส่งรักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่น
การตรวจพบคลัสเตอร์กลุ่มนี้ เริ่มจากเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 64 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าพบกลุ่มผู้ต้องขังมีอาการป่วย เป็นไข้ ไอ และมีน้ำมูก จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 และเรือนจำจังหวัดขอนแก่น ให้ดำเนินการตรวจคัดกรองผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงจำนวน 15 คน พบว่าผู้ต้องขังชาย 3 คนติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นคณะทำงานจึงได้ขยายผลตรวจผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยง 1,620 คน ทำให้พบผู้ติดเชื้อ 315 คน
เชียงใหม่ พบผู้เสียชีวิต เป็นสามี-ภรรยา ติดเชื้อในครอบครัว-ไม่ได้ฉีดวัคซีน
ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่พบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นสามีภรรยากัน เป็นผู้สูงอายุ ทั้งสองคนมีโรคประจำตัว ติดเชื้อในครอบครัว และ ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
1.ผู้เสียชีวิตคนแรก: หญิงอายุ 76 ปี มีโรคประจำตัว คือ ไตวาย
-วันที่ 29 มิ.ย.64 ลูกชายพาไปฟอกไตที่อำเภอจอมทอง ต่อมาพบว่าลูกชายติดเชื้อโควิด-19
-วันที่ 3 ก.ค.64 ตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลดอยเต่า พบว่า ติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจอมทอง
-วันที่ 4 ก.ค.64 ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์
-วันที่ 15 ก.ค.64 เริ่มมีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น ค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ ประกอบกับมีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน
-วันที่ 17 ก.ค.64 ระบบหายใจล้มเหลว
-วันที่ 20 ก.ค.64 เสียชีวิต
2.ผู้เสียชีวิตคนที่สอง: ชาย อายุ 77 ปี มีโรคประจำตัว คือ หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจโต
-วันที่ 7 ก.ค.64 ลูกชายติดเชื้อโควิด-19 จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลดอยเต่า พบว่าติดเชื้อและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจอมทอง
-วันที่ 16 ก.ค.64 มีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น ค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ ใส่ท่อช่วยหายใจและส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์
-วันที่ 17 ก.ค.64 ระบบหายใจล้มเหลว
-วันที่ 21 ก.ค.64 เสียชีวิต
คนจากระยอง เดินทางเข้าไปจัดบูธที่เชียงใหม่ติดเชื้อ 6 คน
ศูนย์บริหารสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 หรือ ศบค. ขอความร่วมมือไม่ควรเดินทางและหากรู้ว่าติดเชื้อยิ่งไม่ควรเดินทางกลับไปรักษาตัวที่บ้านเพราะจะทำให้ตัวผู้ป่วยเหนื่อยล้า อาจจะแพร่เชื้อ และไปเพิ่มจำนวนผู้ป่วยและเตียงในจังหวัดบ้านเกิด
กรณีที่พบในจังหวัดเชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อที่มีประวัติเดินทางมาจากต่างจังหวัดสูงมากถึง 30 คน มาจากกรุงเทพมหานคร 14 คน ปทุมธานี 6 คน นนทบุรี พิษณุโลก ระนอง นครราชสีมา จังหวัดละ 1 คน และระยอง 6 คน
ผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากจังหวัดระยอง พบว่าเป็นกลุ่มใหญ่ 11 คน เป็นคณะของมูลนิธินิมิตใหม่เพื่อชีวิต เดินทางด้วยรถยนต์เข้ามาจัดบูธในจังหวัดเชียงใหม่ โดยไม่มีการลงทะเบียน CM- CHANA และไม่กักตัว ไม่ได้ตรวจหาเชื้อ และไม่ฉีดวัคซีน
จากทั้งหมด11 คน ติดเชื้อ 6 คน ซึ่งระหว่างวันที่ 16-20 ก.ค.64 ได้ออกจัดบูธของมูลนิธิ 4 แห่งด้วยกัน คือ ห้างสรรพสินค้าเมญ่า ชั้น 3 หน้าธนาคารกสิกร ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี(ดอนจั่น) หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี (หางดง) ใกล้ตู้ ATM และสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่
จังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ผู้ที่เข้าไปรับชมและซื้อสินค้าจากบูธดังกล่าว เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลทุกแห่งใกล้บ้าน
สำหรับการตรวจหาสายพันธุ์จากพื้นที่สีแดงเข้ม พบว่าจังหวัดเชียงใหม่ พบสายพันธุ์เดลต้าเพิ่มมากขึ้น เป็นการส่งตรวจในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ และคลัสเตอร์ที่สงสัย ซึ่งพบว่ายังไม่ใช่การระบาดเป็นวงกว้าง
CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.เชียงใหม่