หลังการหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและ 40 ซีอีโอ เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐ-เอกชน ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha" ตอนหนึ่งระบุว่า ภารกิจที่สำคัญที่สุดของเรา คือเราต้องรีบทุ่มเททุกอย่าง เพื่อจัดการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศให้ได้ โดยเร่งเรื่องการได้รับและการฉีดวัคซีนให้เร็วยิ่งขึ้น และผมก็เห็นด้วยว่า ในขณะเดียวกัน เราควรต้องใช้เวลาช่วงนี้ให้ดีด้วย วางแผนและวางแนวทางให้ชัดเจน เพื่อให้เมื่อถึงเวลาที่เราหลุดพ้นจากวิกฤตโควิดได้แล้ว ประเทศไทยของเราจะไม่ใช่แค่ฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิมได้โดยเร็วที่สุดเท่านั้น แต่ประเทศไทยควรจะต้องดียิ่งขึ้นกว่าเดิม รัฐบาล เอกชน และทุกภาคส่วน ปรับการทำงานรูปแบบใหม่ๆ และปรับตัวทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ที่สอดรับกับโลกยุคใหม่ เพื่อเพิ่มความสามารถในการคว้าโอกาสต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับข้อเสนอของเอกชนไปพิจารณา ทั้ง 4 ข้อ พร้อมเปิดโอกาสให้เอกชนช่วยเจรจาหาวัคซีนที่ดีมีคุณภาพเสริมจากที่ทางรัฐบาลได้เตรียมการไว้ เพื่อให้ประชาชนได้วัคซีนเร็วที่สุด ส่วนประเด็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดการลงทุน นายกฯ พร้อมเปิดให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนต่อไป
สำหรับข้อเสนอของทางเอกชนทั้ง 4 ข้อ คือ
1.การควบคุมการแพร่ระบาด โดยเสนอให้จัดสรรและกระจายวัคซีนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล ทั้ง 25 ศูนย์ ของภาคเอกชนร่วมกับ กทม. มีความสามารถที่จะเสริม
2.การฉีดและรองรับการกระจายวัคซีนได้ทุกกลุ่มอายุ โดยสามารถแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลได้ เช่นเดียวกับการจัดยา อุปกรณ์ทางการแพทย์
3.มาตรการ Isolation ทั้ง จัดให้มี Rapid Tests อย่างทั่วถึง สนับสนุนให้เอกชนจัดสถานที่ Isolation จัดให้มียารักษาอย่างพอเพียง และ
4.เพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยหนักและ ICU โดยเฉพาะในเขตสีแดงและแดงเข้ม