ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพูธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันตรวจสอบได้  ไม่มีเงินทอนจัดหาวัคซีน

          การวิจารณ์การทำงานของกระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า เข้าใจความรู้สึกของพี่ประชาชนที่ยังรอคอยวัคซีน โดยข้อมูลบางอย่างที่ได้มีการพูดกันมันอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจากมีข้อมูลน้อย เช่น เราไม่มีระบบกลไกที่ดีในการจัดหาวัคซีน ทำงานไม่มีระบบ หรือวัคซีนไม่มีคุณภาพ ซึ่งหลายเรื่องไม่ค่อยเป็นธรรมกับผู้ทำงานกันอย่างหนักหน่วง เมื่อสิ่งที่เราดำเนินการไม่เป็นไปตามที่ท่านคาดหวัง ท่านจะโยนข้อหาทุจริต เงินทอน โดยไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ทำงาน ยืนยันว่าขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบได้ และเราไม่มีเรื่องทุจริตอย่างเด็ดขาด

          นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า หลายฝ่ายบอกว่าทำไมเมื่อมีการเจรจา ทำไมไม่เปิดผลการเจรจาทุกนัดให้ประชาชนทราบ จะได้โปร่งใสจากหลักการ การเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนรายใดก็ตาม มีสิ่งที่เราต้องตกลงกับเขาก่อน คือสัญญาที่จะไม่เอาข้อความที่เจรจากัน เพราะมีผลหลายอย่าง ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต้องถามไถ่ซึ่งกันและกัน เพราะถ้านำข้อมูลที่ได้มีการเจรจาเปิดเผยทุกนัด ก็จะเกิดผลเสีย และเขาก็จะเลิกเจรจากับเรา ที่สำคัญการเปิดเผยผลการเจรจาดังกล่าวออกไป มีหลายกรณีที่เกิดผลร้าย เช่น ตอนที่เรามี เคส ระบาด แล้วเราขอให้ทางแอสตร้าเซนเนก้าได้พยายามจัดหาวัคซีนจากแหล่งผลิตอื่นมาให้เราก่อน เพราะในสัญญาจะเริ่มส่งเดือน มิ.ย. แต่เรารอไม่ได้ โดยเขาพยายามตัดล็อตวัคซีนมาจากยุโรป พอข่าวออกไปทางยุโรป สั่งห้ามโรงงานที่อิตาลีไม่ให้ส่งวัคซีนให้เราทันทีแล้วเราก็ไม่ได้วัคซีนในล็อตนั้น จึงเป็นตัวอย่างว่าสิ่งเหล่านี้ เราต้องรักษาประโยชน์ของประเทศชาติสูงสุด พร้อมย้ำว่า วัคซีนไม่ใช่ของทั่วไปไม่ใช่สินค้าที่จะหาโดยง่าย และตลาดยังเป็นของผู้ขาย ที่มีสิทธิกำหนดเรื่องต่างๆ การผลิตไม่เพียงพอ แม้กระทั่งโคแวกซ์ที่มีหลายคนบอกว่าทำไมเราไม่เข้า ตอนนี้ก็มีวัคซีนไม่มากพอที่ได้วางแผนเอาไว้ นอกจากนี้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งการกลายพันธุ์ ทำให้สิ่งที่เราวางแผนต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และจะมีการเจรจากับหลายๆฝ่ายตลอดเวลา  

กทม.ยังไม่ฉีดวัคซีนไขว้ เร่งฉีดให้กลุ่มเสี่ยง-ผู้สูงอายุก่อน

          สถานการณ์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนสามารถลงทะเบียนผ่าน "ไทยร่วมใจ" ได้ หรือหากไม่สะดวก ทาง กทม. มีกลุ่ม CCR ในการลงพื้นที่เพื่อฉีดวัคซีนเชิงรุกแก่ผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางได้สะดวก"ไทยร่วมใจ" ได้รับการจัดสรรวัคซีนทั้งหมดจำนวน 5 แสนโดส และใน กทม.ยังไม่มีแผนการฉีดวัคซีนแบบสลับชนิด โดยยังใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเช่นเดิม ขณะเดียวกัน กทม.ได้รับจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์ม ซึ่งได้นำมาใช้ในกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงบ้างแล้ว ส่วนวัคซีนโมเดอร์นา ทางกทม.จะยังไม่ได้รับจัดสรร เนื่องจากต้องจัดสรรให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดอื่นๆ ก่อน

          ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์แนวโน้มได้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในกทม.จะลดลง เพิ่มขึ้น หรือจะถึงจุดพีคเมื่อไร เพราะต้องขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก คือการกระจายวัคซีน และความเข้มข้นของมาตรการล็อกดาวน์

          สำหรับมาตรการดูแลคนไร้บ้านนั้น กทม. ได้ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และอยู่ระหว่างการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กลุ่มคนไร้บ้านกว่า 1,000-2,000 รายในกทม. ส่วนกรณีผู้เสียชีวิต 3 รายในบริเวณพื้นที่สาธารณะนั้น กทม. มีผลการชันสูตรศพของผู้เสียชีวิตรายที่พบบริเวณหน้าร้านศึกษาภัณฑ์ ถ.ราชดำเนิน ว่าผลการตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ส่วนรายอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ

นพ.โสภณ แจงยังไม่สรุปสาเหตุการตาย ครูสาวประจวบเสียชีวิต "ฉีดสลับชนิด"

          กรณีการเสียชีวิตของหญิงวัย 39 ปี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตหลังรับการฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อเพียง 1 วัน โดยเป็นการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต สำหรับครูสาวรายนี้ มีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง มี BMI 31 และมีประวัติการฉีดวัคซีน 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการฉีดวัคซีน ซิโนแวค ตั้งแต่ 28 มิ.ย และเข็มที่ 2 ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเมื่อวันที่ 19 ก.ค ถือเป็นรายแรกที่มีการเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ ซึ่งก่อนหน้ามีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อแล้วกว่า 84,000 คน ซึ่งหากคิดเป็นอัตราส่วน จะพบว่าการเสียชีวิตในอัตราส่วน 1 ใน แสน หรือ 1.4 ในล้าน ซึ่งถือว่าเป็นกรณีที่ต้องหาสาเหตุต่อไป

          จากการตรวจสอบเบื้องต้น และการชันสูตรที่รพ.พระจอมเกล้า คาดว่าผลจะออกมาในเร็ววันนี้ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเสียชีวิตจากวัคซีน หรือไม่ และจะนำข้อมูลการตรวจสอบมานำเสนอ หากได้ข้อมูลที่ครบถ้วนชัดเจนแล้ว จะนำมาเรียนให้ประชาชนได้ทราบในลำดับต่อไป

          โดยตั้งแต่มีการเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยมาตั้งแต่ เดือนมีนาคม ถึงขณะนี้ได้ทำการฉีดไปแล้ว 14.8 ล้านโดส มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้รับฉีดวัคซีน มีผู้เสียชีวิต 229 ราย หรือคิดเป็น 16 ต่อ 1 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนในระยะ 1เดือน หลังจากรับวัคซีนแล้วเสียชีวิต ทั้งนี้มีการติดตามข้อมูล และผลการพิจารณาสาเหตุการเสียชีวิต โดยคณะผู้เชี่ยวชาญ ส่วนใหญ่หลังพิจารณาข้อมูลโดยละเอียด ไม่พบว่ามีสาเหตุมาจากการฉีดวัคซีนโดยตรง แต่มีโรคร่วม

นายกฯ เผยมาตรการช่วยเหลือ ครู ผู้ปกครอง นักเรียน เข้าครม.สัปดาห์หน้า

          มาตรการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับครู ผู้ปกครองและนักเรียน ล่าสุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha  ระบุว่า วันนี้ผมได้ประชุมกับกระทรวง ศธ.และ อว. เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือในระยะเร่งด่วนในการช่วยลดภาระ/ค่าใช้จ่าย ให้กับผู้ปกครอง ครู และนักเรียน/นักศึกษาให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มด้อยโอกาสยากจนและกลุ่มผู้พิการ โดยมีแนวทางในด้างต่าง ๆ เช่น

1. มาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียน

2. ขอความร่วมมือให้ลด หรือชะลอการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆ จากผู้ปกครองในโรงเรียนเอกชน

3. สนับสนุนค่าใช้จ่ายแก่สถานศึกษา เพื่อรองรับการเรียนแบบออนไลน์

4. ช่วยเหลือผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจากการถูกเลิกจ้างงาน

ที่ประชุมได้มอบหมายให้ อว. และ ศธ. จัดทำรายละเอียดและขั้นตอนในการดำเนินการในมาตรการต่างๆ ให้แล้วเสร็จ เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้าครับ

ปรับพื้นที่สโมสรทหาร-ตร.เป็นศูนย์พักคอย –รพ.สนาม รับผู้ติดเชื้อโควิด

          พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาปรับปรุงสโมสรทหารและตำรวจในพื้นที่ กทม.และต่างจังหวัด เป็นศูนย์พักคอยผู้ป่วย หรือ รพ.สนาม ตามความเหมาะสม เพื่อใช้เป็นสถานที่พักคอยและรักษาผู้ป่วย รองรับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ และให้กระทรวงกลาโหมประสานกับกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สนับสนุนจัดตั้ง รพ.สนาม ร่วมกับ รพ.ในสังกัดมหาวิทยาลัย รองรับดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ต่างๆเสริมไปด้วยกัน

          รวมทั้งได้สั่งการให้กองทัพจัดกำลังทหารกระจายลงพื้นที่ จัดตั้งจุดรับแจ้งเหตุฉุกเฉินในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัดโดยให้ประสานทำงานร่วมกับ กทม. ฝ่ายปกครองและและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยและติดเชื้อในแต่ละพื้นที่ทันทีภายใต้มาตรการที่สาธารณสุขกำหนด

          กำชับทุกเหล่าทัพให้เฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะชายแดนเมียนมา ที่สถานการณ์ของโรคระบาดมีความรุนแรงมากขึ้น และขอให้ ตร.ให้การดูแลผู้หลบหนีเข้าเมืองเข้มในสถานกักควบคุมโรคที่กำหนด ทั้ง 8 แห่งใน 6 จว. พร้อมทั้ง ขอให้ดำรงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ การบริจาคโลหิตให้กับผู้ป่วยเจ็บ ที่ยังอยู่ในสภาวะขาดแคลนเลือด ทั้งนี้ ขอให้เร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกับกำลังพลในพื้นที่ด่านหน้าเป็นลำดับแรก หากได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่ม

ประชุม พศ.ทั่วประเทศ ประกาศทุกวัดเผาศพโควิดฟรี

          นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมหารือแนวทางการฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกจังหวัดเข้าร่วม

          รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เร่งดำเนินการตรวจสอบและติดตาม และหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน โดยให้มีการจัดตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาและกำหนดแนวทาง ดังนี้

          1. จัดหางบประมาณสำหรับซื้อชุด PPE ให้พระและสัปเหร่อในการจัดฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตด้วยโควิด-19 อย่างเร่งด่วน

          2. รวบรวมรายชื่อวัดที่มีความพร้อมในการรับสงเคราะห์ฌาปนกิจศพผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และประสานแจ้งโรงพยาบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

          3. ประสานขอฉีดวัคซีนให้พระ สัปเหร่อและผู้ปฏิบัติหน้าที่ใกล้ชิดอย่างเร่งด่วน

          นายอนุชา ย้ำว่า “ทุกวัดเผาศพโควิดไม่มีค่าใช้จ่าย"

เตือนโอลิมปิกโตเกียว รับมือผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น เกิดวิกฤตระบาดในอนาคต

          รัฐบาลกรุงโตเกียว ญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ทางการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1,832 ราย ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนม.ค. ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น สร้างความวิตกกังวลให้กับทุกฝ่าย ขณะที่มหกรรมโตเกียวโอลิมปิกเตรียมเปิดฉากในวันศุกร์นี้แล้ว กรุงโตเกียวยังอยู่ภายใต้การประกาศภาวะฉุกเฉินจนถึงวันที่ 22 ส.ค. โดยญี่ปุ่นมีประชากรเพียง 34% ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส

           นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) แสดงความคิดเห็นว่า คณะผู้จัดงานควรเดินหน้าจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในกรุงโตเกียวต่อไป เพื่อแสดงให้โลกได้เห็นถึงกิจกรรมที่สามารถจัดขึ้นได้ด้วยการวางแผนและการใช้มาตรการที่เหมาะสม ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19

          ในระหว่างการประชุมทางออนไลน์กับสมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ในกรุงโตเกียว นายแพทย์ทีโดรสกล่าวว่า โลกต้องการการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในขณะนี้เพื่อเป็นการเชิดชูความหวัง

          ผู้เชี่ยวชาญได้ชี้แจงต่อรัฐบาลกรุงโตเกียวว่า ยอดผู้ติดเชื้อเฉลี่ยรอบสัปดาห์ในกรุงโตเกียวอาจแตะระดับ 2,600 คน ต่อวันเมื่อถึงวันที่ 3 ส.ค. หากแนวโน้มการระบาดยังเพิ่มขึ้นในระดับปัจจุบัน ซึ่งจะผลให้สถานการณ์ในกรุงโตเกียวเลวร้ายกว่าการระบาดรอบที่ 3 เมื่อช่วงฤดูหนาวที่แล้ว ขณะที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกำลังจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 23 ก.ค.-8 ส.ค.นี้ คณะผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขระบุว่า "อีกไม่ถึงสองสัปดาห์ สถานการณ์ในกรุงโตเกียวจะวิกฤตกว่าการระบาดในรอบที่ 3 มาก"

ทหารเรือเกาหลีใต้ ปฏิบัติภารกิจในทวีปแอฟริกาติดโควิด-19 เพิ่มอีก 23 คน

          กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า จากทหารเรือทั้งหมด 301 คนประจำเรือพิฆาตมุนมูเดอะเกร็ต (Munmu the Grea)ซึ่งกองทัพเรือเกาหลีใต้ส่งไปปฏิบัติภารกิจปราบปรามโจรสลัดทางทะเลในอ่าวอาเดนในทวีปแอฟริกา(ระหว่างโซมาเลียกับเยเมน) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เกาหลีใต้พบทหารเรือติดโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 23 คน ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 270 คน หรือร้อยละ 89.7 ของลูกเรือทั้งหมด ส่วนใหญ่ไม่มีอาการป่วย มีทหารเรือเพียง 3 คนมีอาการป่วยระดับปานกลาง

          สำหรับทหารเรือทุกคนที่ถูกส่งตัวกลับมายังเกาหลีใต้จะเข้ารับการตรวจสุขภาพโดยละเอียด โดยกองทัพเรือจะส่งผู้ป่วยไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลทหาร หรือสถานพยาบาลอื่นๆในเกาหลีใต้ พร้อมทั้งกักกันเฝ้าระวังทหารเรืออีก 31 คนที่มีผลตรวจเป็นลบ เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยง

          จากการสอบสวนเบื้องต้น กองทัพเรือเกาหลีใต้คาดว่าเชื้อไวรัสอาจจะแพร่มายังทหารเรือระหว่างวันที่ 28 มิถุนายนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม หลังเรือรบของเกาหลีใต้เข้าจอดเทียบท่าเรือแห่งหนึ่งในทวีปแอฟริกาเพื่อจัดซื้อเสบียงอาหารและสัมภาระอื่นๆลงเรือเพื่อใช้ระหว่างปฏิบัติภารกิจทางทะเล

         หลังพบการระบาดครั้งใหญ่ในกองทัพเรือ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้จึงตัดสินใจส่งเครื่องบินไปลำเลียงทหารเรือชุดดังกล่าวกลับเกาหลีใต้ตั้งแต่เมื่อวาน พร้อมยุติภารกิจการรักษาสันติภาพในทวีปแอฟริกาก่อนกำหนดหลายสัปดาห์ ขณะที่เรือพิฆาตมุนมูเดอะเกร็ต แล่นออกออกจากท่าเรือแห่งหนึ่งในทวีปแอฟริกาเมื่อเช้าวันนี้ มุ่งหน้ายังเกาหลีใต้เช่นกัน

         ในปัจจุบัน เกาหลีใต้มีผู้ป่วยสะสม 182,265 คน เสียชีวิต 2,060 ราย

หุ้นไทยเพิ่มขึ้นแค่ 2 จุด กังวล โควิด-19 ระบาด

          ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,540.88 จุด เพิ่มขึ้น 2.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 73,683.46 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ ช่วงเช้าบวกตามตลาดหุ้นทั่วโลกแต่ไปได้ไม่ไกลทำให้ย่อตัวลง เหตุยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา รวมถึงสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 กดดันตลาดฯ ยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป หลังจากกลุ่มแบงก์ออกมาไม่ดีนัก ทำให้คาดว่าอาจจะมีการปรับประมาณการ อีกทั้งแนวโน้มยังอาจต้องตั้งสำรองฯสูงขึ้นในไตรมาส 3/64 รับผลกระทบโควิด และยังต้องช่วยเหลือลูกหนี้ด้วย ส่วนพรุ่งนี้แนะติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการก่อนหน้านี้ ดัชนีนิกเกอิปิดที่ 27,548.00 จุด เพิ่มขึ้น 159.84 จุด

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบในวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลกปิดวันนี้ที่ 27,224.58 จุด ลดลง 34.67 จุด

รมว.ดีอีเอส เตือน ดารา-อินฟลูเอนเซอร์ ใช้สื่อออนไลน์

          การดำเนินคดีกรณีโพสต์หมิ่นจากสถานการณ์ชุมนุม เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 64 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากกรณีสถานการณ์การชุมนุม และมีการโพสต์หรือส่งต่อข้อความที่เข้าข่ายการกระทำความผิด ศูนย์เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์การชุมนุมและใช้โซเชียลมีเดีย กระทรวงดิจิทัลฯ พบว่า มีการโพสต์หรือแชร์ข้อความที่เข้าข่ายการกระทำความผิด ทั้งหมด 147 ราย ประกอบด้วย จากเฟซบุ๊ก 15 ราย ทวิตเตอร์ 132 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการตามข้อกฎหมายต่อไป

          สำหรับการโพสต์หรือแชร์ข้อความผิดกฎหมายลงในระบบคอมพิวเตอร์/ผ่านโซเซียล จะมีโทษ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ม.14 (3) การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดใดอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          ด้าน พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการประสานข้อมูลกับ รมว.ดีอีเอส เพื่อดำเนินการพิจารณาดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมด ซึ่งได้ประสานงานกับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ

จีนเผยผู้โดยสารเสียชีวิต-ติดค้างอยู่ในรถไฟไต้ดินในนครเจิ้งโจวหลังน้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคกลางของจีน

          สถานการณ์น้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคกลางของประเทศจีน เนื่องจากอากาศแปรปรวนช่วงฤดูมรสุมในระยะนี้ มีคนเสียชีวิต 16 รายในประเทศจีน แบ่งเป็น 12 รายเสียชีวิตในสถานีรถไฟไต้ดินที่ถูกน้ำท่วมในนครเจิ้งโจว เมืองเอกของมณฑลเหอหนาน และอีก 4 รายในเมืองกงยี่ ซึ่งอยู่ใกล้กัน ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ปริมาณฝนกว่า 20 เซนติเมตร (หรือ 7.8 นิ้ว)ตกลงมาในช่วงเวลาแค่หนึ่งชั่วโมง เมื่อวาน ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้

          ก่อนหน้านี้ ผู้โดยสารของรถไฟใต้ดินกว่า 500 คนในนครเจิ้งโจว ถูกอพยพออกจากรถไฟดินโดยปลอดภัย หลังมวลน้ำทะลักเข้าท่วมสถานีรถไฟใต้ดินอย่างรวดเร็ว มีระดับน้ำสูงถึงคอ ด้านรัฐบาลท้องถิ่นของนครเจิ้งโจวสั่งระงับการเดินรถไฟใต้ดิน 7 เส้นทาง รวม 153 สถานีชั่วคราว นอกจากนี้ ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ต้องมีการย้ายผู้ป่วยไอซียูกว่า 600 คนที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายไปยังโรงพยาบาลอื่นๆในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งระบบไฟฟ้าใช้งานได้ตามปกติ

          ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ที่ผ่านมา มีการอพยพชาวบ้านกว่า 100,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงในนครเจิ้งโจว ซึ่งประชากร 12.6 ล้านคน สำหรับนครเจิ้งโจวตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเหลือง ส่วนเมืองกงยี่มีการอพยพชาวบ้านราว 20,000 คนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว

          ขณะเดียวกันรัฐบาลท้องถิ่นระดมหน่วยกู้ภัยกว่า 6,000 คนและทหาร-ตำรวจกว่า 2,000 คนไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัย พร้อมทั้งผันน้ำออกจากเขื่อนบางแห่ง เพื่อลดความเสี่ยงที่ตลิ่งของเขื่อนจะชำรุดเสียหายเนื่องจากระดับน้ำที่สูงอย่างต่อเนื่อง