ผลการสำรวจของทางการอินเดียพบว่าประชากรประมาณ 2 ใน 3 มีแอนติบอดีต่อต้านโควิด-19 ในการสุ่มสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 29,000 คนในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ซึ่งเป็นการสุ่มสำรวจที่มีขึ้นเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ผลการสำรวจพบว่า
ในกลุ่มเด็กอายุ 6 ถึง 17 ปีจำนวน 8,691 คนที่เป็นการสำรวจครั้งแรกพบว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างมีแอนติบอดีโควิด-19 จากการที่เคยเป็นผู้ติดเชื้อมาก่อน (seropositive)
ส่วนในกลุ่มผู้ใหญ่พบว่าร้อยละ 67.6 มีแอนติบอดีแล้ว แต่ในกลุ่มนี้จำนวนมากกว่าร้อยละ 62 ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
โดยสถิติจนถึงเดือนกรกฎาคม มีชาวอินเดียที่เป็นผู้ใหญ่เพียงร้อยละ 8 เท่านั้นที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว
การสำรวจพบว่า คนอินเดียประมาณ 400 ล้านคนจาก 1,400 ล้านคนไม่มีแอนติบอดีโควิด-19 ขณะที่จำนวนผู้ป่วยรายวันของอินเดียลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
นพ.วิโนด กุมาร พอล กุมารแพทย์และที่ปรึกษารัฐบาลอินเดีย เตือนว่า สถานการณ์ของการระบาดระลอกที่ 2 ยังคงอยู่ โดยเฉพาะชาวอินเดียอีก 1 ใน 3 ที่ไม่มีแอนติบอดียังคงเป็นกลุ่มเสี่ยง นอกจากนี้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีอย่างน้อยครึ่งหนึ่งในนครมุมไบ เมืองหลวงทางการเงินของอินเดียเคยติดเชื้อโควิด-19 และมีแอนติบอดีต่อต้านโรคนี้ แต่จากความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดระลอก 3 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่ากลุ่มเด็กๆ คือกลุ่มเสี่ยงสูง ทางการของนครมุมไบได้ร่วมกับเมืองอื่นๆ สร้างหอผู้ป่วยเด็กขนาดใหญ่เพื่อเตรียมพร้อมแล้ว
....