นายกฯ แจงแผนปีหน้าซื้อวัคซีนไฟเซอร์อีก 50 ล้านโดส เจรจากับสหราชอาณาจักร-สวิตฯ ให้ได้วัคซีนมาเพิ่ม

          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 บางส่วนที่นายกฯ โพสต์ได้พูดถึงรายละเอียดเรื่องการจัดหาวัคซีน

-เมื่อวานนี้ (20 ก.ค.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ลงนามทำสัญญากับบริษัทไฟเซอร์ (ประเทศไทย) และบริษัทไบโอเอ็นเทค ในการจัดซื้อวัคซีนชนิด mRNA จำนวน 20,000,000 โดส ซึ่งจะสามารถนำส่งได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

-ในปีหน้า ไทยยังมีเป้าหมายที่จะสั่งซื้อเพิ่มอีกอย่างน้อย 50,000,000 โดส ซึ่งวัคซีนของของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค เข้ามาเสริมแผนกระจายวัคซีนของประเทศไทย ร่วมกับวัคซีนหลักของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ที่ไทยได้สั่งซื้อไปแล้วจำนวน 61,000,000 โดส

-วัคซีนที่หน่วยงานของไทยผลิตเองอีกอย่างน้อย 3 ชนิด

-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเจรจาอยู่กับหลายบริษัทเกี่ยวกับวัคซีนชนิดใหม่ๆ เช่น Protein Subunit และจะสั่งซื้อทันทีที่เจรจาได้สำเร็จ

          นอกจากการสั่งซื้อวัคซีนโดยตรงแล้ว รัฐบาลยังมีการเจรจากับหลายประเทศอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ได้วัคซีนมาเพิ่มเติมผ่านข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศ

-ไทยได้รับวัคซีนซิโนแวคมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว 1,000,000 โดส

-ญี่ปุ่น บริจาควัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1,050,000 โดส

-สหรัฐฯ จะบริจาควัคซีนไฟเซอร์ 1,500,000 โดส

-อยู่ระหว่างเจรจาข้อตกลงกับสหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อขอความช่วยเหลือทางวัคซีนและอุปกรณ์ทางการแพทย์

         นายกฯ ระบุว่าแนวทางดังกล่าว ทำให้เชื่อได้ว่า ไทยจะยังคงสามารถเดินหน้าฉีดวัคซีนได้ตามแผนที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไร ทุกหน่วยงานของรัฐจะไม่ท้อถอย เราจะปรับแผนและใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

CR:ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha

แฟ้มภาพ