ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม 2564

กทม.สรุปผลตรวจหาเชื้อ 4 พื้นที่เสี่ยง รง.ตรวจครบ 72 แห่ง ตรวจชุมชนเกินเป้าหมาย

          สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร  ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-18 ก.ค.64 พื้นที่เขตที่พบผู้ป่วยสูงสุด 5 ลำดับแรก คือ

-เขตคลองเตย

-เขตบางแค

-เขตราชเทวี

-เขตดินแดง

-เขตหลักสี่

          การเฝ้าระวังสุ่มตรวจผู้ป่วยโควิด-19 (Sentinel Surveillance) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด ได้แก่ ตลาด ชุมชน แคมป์คนงานก่อสร้าง และโรงงาน

-ผลการสุ่มตรวจในตลาด ระหว่างวันที่ 9 มิ.ย.-18 ก.ค.64 เป้าหมาย 466 ตลาด สามารถดำเนินการได้ 346 ตลาด คิดเป็นร้อยละ 74.25 จำนวนสุ่มตรวจ 18,952 คน พบผู้ติดเชื้อ 365 คน คิดเป็นร้อยละ 1.93 ของจำนวนที่ตรวจทั้งหมด ขณะนี้สำนักอนามัยดำเนินการควบคุมโรคในตลาดทุกแห่งแล้ว

-ผลการสุ่มตรวจเฝ้าระวังผู้ป่วยโควิด-19 (Sentinel Surveillance) ในชุมชน ระหว่างวันที่ 27 พ.ค.-18 ก.ค.64 เป้าหมาย 248 ชุมชน สามารถดำเนินการได้ 252 ชุมชน สามารถดำเนินการได้มากกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ จำนวนสุ่มตรวจ 12,222 คน พบผู้ติดเชื้อ 194 คน คิดเป็นร้อยละ 1.30 ของจำนวนที่ตรวจทั้งหมด และได้เข้าดำเนินการควบคุมโรคชุมชนทุกแห่งแล้ว

-ผลการสุ่มตรวจเฝ้าระวังผู้ป่วยโควิด-19 (Sentinel Surveillance) ในแคมป์คนงาน ระหว่างวันที่ 10 มิ.ย.-18 ก.ค.64 เป้าหมาย 608 แคมป์ สามารถดำเนินการได้ 102 แคมป์ คิดเป็นร้อยละ 16.80 จำนวนสุ่มตรวจ 6,446 คน พบผู้ติดเชื้อ 544 คน คิดเป็นร้อยละ 8.44 ของจำนวนที่ตรวจทั้งหมด และได้ดำเนินการ Bubble & Seal ทุกแห่งแล้ว

-ผลการสุ่มตรวจเฝ้าระวังผู้ป่วยโควิด-19 (Sentinel Surveillance) ในโรงงาน ระหว่างวันที่ 2-18 ก.ค.64 เป้าหมาย 72 โรงงาน สามารถดำเนินการได้ทั้งหมด 72 โรงงาน คิดเป็นร้อยละ 100 จำนวนสุ่มตรวจ 5,892 คน พบผู้ติดเชื้อ 380 คน คิดเป็นร้อยละ 6.45 ของจำนวนที่ตรวจทั้งหมด

โคราช  เจอติดเชื้อ 9 คลัสเตอร์ หวั่นระบาดพุ่ง

          พญ.อารีย์ เชื้อเดช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา แจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดว่า เฝ้าจับตาและเร่งควบคุมการติดเชื้อ 9 คลัสเตอร์

-คลัสเตอร์กลุ่มพนักงานคอนโด ต.โปร่งตาลอง อ.ปากช่อง พนักงานนิติกรรวม 9 คน

-คลัสเตอร์กลุ่มพนักงานโรงแรมใน อ.เมืองนครราชสีมา 13 คน

-คลัสเตอร์โรงงานบีฟู้ดส์ โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด จาก จ.ลพบุรี อาศัยอยู่ ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด 10 คน พบติดเพิ่ม 2 คน เกิดวงที่ 2 ภายในครอบครัว

-คลัสเตอร์ร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ น้ำตกวังเณร ในพื้นที่อ.สูงเนิน มีประชาชนไปใช้บริการร้านอาหารติดเชื้อรวม 11 คน

-คลัสเตอร์ครอบครัวขุดเจาะที่ อ.บัวใหญ่ ยังหาที่มาไม่ได้

-ร้านจำหน่ายโซลาร์เซลล์มีลูกค้าจำนวนมาก ตรวจพบเชื้อ 5 คน ปิดหมู่บ้านแล้ว

-คลัสเตอร์ที่ต้องขอหารือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คือ พนักงานโรงงานผลิตอะไหล่ ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว ผู้ป่วยหญิง ฝ่ายการตลาดคนหนึ่งติดเชื้อเป็นคนแรก ทำให้ติดเพื่อนร่วมงานอีก  2  คน แต่โรงงานไม่ให้ความร่วมมือทีมสอบสวนโรค

นราธิวาส ย้ำการปฎิบัติศาสนกิจในวันอีดิ้ลอัฎฮา งดละหมาดที่มัสยิด งดจัดกิจกรรมรวมตัวกันเกิน 5 คน

          นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนราธิวาส เริ่มบังคับใช้มาตรการคุมเข้ม14 วัน ตั้งแต่วันนี้ 20 ก.ค.- 2 ส.ค.64

-งด ชะลอ หลีกเลี่ยงการเดินทาง เนื่องจาก ยังมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องใน 13 อำเภอ

-ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม ขอความร่วมมือไม่นั่งกินที่ร้าน ให้สั่งกลับบ้าน และเปิดได้ถึงเวลา 20.00 น.

          สิ่งที่มีความกังวล คือ ในวันพรุ่งนี้ 21 ก.ค. 64 ซึ่งเป็นวันอีดิ้ลอัฎฮา ได้แจ้งให้ผู้นำศาสนาทราบแล้ว จากการประกาศของจุฬาราชมนตรี ขอให้งดการละหมาดอีดิ้ลอัฎฮาที่มัสยิดและทุกสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ โดยให้ละหมาดที่บ้านเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันเท่านั้น ขอให้งดการเยี่ยมญาติและการเยี่ยมสุสาน รวมถึงงดการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มเกินกว่า 5 คน

          ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้ทุกอำเภอทั้ง 13 อำเภอ ได้เตรียมความพร้อมในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับประชาชนในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งได้อนุมัติโรงพยาบาลสนามเพิ่มอีก 3 แห่ง โดยให้ทุกอำเภอเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนามของตนเอง

รมว.ศธ. ปรับใช้โรงเรียน เป็นรพ.สนาม พร้อมเสนอ ครม.ลดค่าเทอม

          น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) สั่งการให้โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 233 แห่ง และสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 6 แห่งทั่วประเทศ ปรับพื้นที่สถานศึกษาให้เป็นโรงพยาบาลสนาม รองรับประชาชนผู้ติดเชื้อโดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดสีแดงเข้ม โดยจะประสานกับกระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบมาตรฐานการใช้งานให้เหมาะสมต่อไป และจะต้องขอความเห็นจากชุมชนรอบสถานศึกษาด้วย                    

          สำหรับมาตรการลดภาระผู้ปกครองและนักเรียน ในส่วนของค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าเทอม ศธ.อยู่ระหว่างการหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งได้วางแผนจัดโครงการแพ็กเกจที่เหมาะสมไว้แล้ว ซึ่งจะมีการประกาศให้ผู้ปกครองรับทราบในเร็ว ๆ นี้ ส่วนในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้จะรายงานให้นายกฯรับทราบแนวทางเบื้องต้น