ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30 น.วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม 2564

20 กรกฎาคม 2564, 05:06น.


นักกีฬาจากหลายประเทศ ตรวจพบติดเชื้อมากขึ้น ก่อนเปิดฉากโตเกียวโอลิมปิก



          พบนักกีฬาจากหลายประเทศติดเชื้อโควิด-19 ก่อนที่จะมีพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโตเกียว 2020 ที่ญี่ปุ่นจะเริ่มเปิดฉากขึ้น  



-นักยิมนาสติกหญิงทีมชาติสหรัฐฯ คนหนึ่ง มีผลตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก โดยเป็นการติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ทีมยิมนาสติกของสหรัฐฯ เพิ่งเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และถูกตรวจหาเชื้อโควิด-19 และกักตัวนักกีฬาที่สัมผัสเสี่ยงสูงอีกหนึ่งคน ในขณะนี้ทีมยิมนาสติกอเมริกันต้องแยกออกมาจากหมู่บ้านนักกีฬาที่กรุงโตเกียว เป็นการชั่วคราว

          คณะกรรมการโอลิมปิกสหรัฐอเมริกา หรือ USOC ออกแถลงการณ์ว่า สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ คือ สุขภาพและความปลอดภัยของนักกีฬา โค้ช และเจ้าหน้าที่ 



-นักวอลเลย์บอลชายหาดจากสาธารณรัฐเช็ก กลายเป็นผู้ติดเชื้อคนที่ 4 และเป็นนักกีฬาคนที่ 3 ซึ่งติดเชื้อโควิด-19 ในหมู่บ้านนักกีฬาของโตเกียวโอลิมปิก ที่นักกีฬาหลายพันคนจะต้องอยู่ร่วมกัน ภายใต้ระบบ Bubble เพื่อป้องกันการติดเชื้อ



-คณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิกกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ประจำทีมฟุตบอลชายของแแอฟริกาใต้ 21 คน ส่วนใหญ่เป็นนักฟุตบอลเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเนื่องจากอยู่ใกล้ชิดกับนักฟุตบอล 2 คนและเจ้าหน้าที่ประจำทีมอีก 1  คน รวม 3 คนที่ตรวจพบติดโรคโควิด-19  ขณะนี้นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ทีมฟุตบอลทีมชาติแอฟริกาใต้ยังคงพักอยู่ในหมู่บ้านนักกีฬาในกรุงโตเกียว



          ทีมชาติแอฟริกาใต้จะลงเตะนัดแรกกับทีมชาติญี่ปุ่นในวันพฤหัสบดีนี้ คณะกรรมการจัดการแข่งขันของญี่ปุ่น ระบุว่า นักเตะที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสามารถจะลงเตะได้ ถ้าผลตรวจด้วยวิธี RT- PCR ก่อนแข่งขัน 6 ชั่วโมงปรากฎผลตรวจเป็นลบ



           นายมาสะ ทากายะ โฆษกของโตเกียวโอลิมปิก 2020 แถลงว่า มีผู้ติดโควิด-19 จำนวน 61 คน ที่เกี่ยวข้องกับโอลิมปิก ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่หลายพันคนที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อ และยืนยันว่า นักกีฬาจะต้องตรวจเชื้อทุกวัน เว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัยป้องกันตลอดเวลา ยกเว้นตอนแข่ง รับประทานอาหาร และนอน



ไต้หวัน อนุมัติใช้วัคซีนที่ผลิตเอง ‘เมดิเจน’  5 ล้านโดส



           รัฐบาลไต้หวัน อนุมัติการใช้งานแบบฉุกเฉินวัคซีนป้องกันโควิด-19 "เมดิเจน" (Medigen) ที่พัฒนาโดยบริษัทยาของไต้หวัน คือ บริษัท เมดิเจนวัคซีนไบโอโลจิกส์ ของไต้หวัน โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า MVC-COV1901 แม้จะยังอยู่ในขั้นการทดลองทางคลินิก แต่ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่า ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า คาดว่า จะเริ่มฉีดให้ประชาชนได้อย่างเร็วภายในเดือนส.ค.64



          วัคซีนของเมดิเจนเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายที่ทำขึ้นจากบางส่วนของไวรัส (subunit vaccine) เพื่อกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายรู้จักกับโปรตีนหนามส่วนเปลือกของไวรัสโคโรนาที่แทรกซึมเข้าร่างกาย วัคซีนชนิดนี้ต้องฉีด 2 โดส สำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป

          ทางการไต้หวัน กำหนดให้บริษัทส่งรายงานติดตามความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือน และส่งรายงานเกี่ยวกับประสิทธิภาพภายในเวลา 1 ปี

          รัฐบาลไต้หวัน ลงนามสัญญาซื้อวัคซีนเมดิเจนไว้ 5,000,000 โดส และทำสัญญาซื้อวัคซีนอีกชนิดในจำนวนเท่ากันจากบริษัท ยูไนเต็ดไบโอเมดิคัล ของไต้หวัน ซึ่งยังไม่ได้รับอนุมัติสำหรับการใช้แบบฉุกเฉิน

          เมื่อปีที่แล้ว ไต้หวัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างดี แต่เดือนพ.ค.ปีนี้ การแพร่เชื้อที่เริ่มต้นจากนักบินสายการบินพาณิชย์หลายคนได้ระบาดเข้าสู่ชุมชน และทำให้ขณะนี้ไต้หวันมีผู้ติดเชื้อสะสมราว 15,000 คน เสียชีวิตเกือบ 800 ราย

          ไต้หวัน เคยได้รับวัคซีนเพียง 726,000 โดส สหรัฐฯและญี่ปุ่น บริจาควัคซีนให้รวมแล้ว 2,500,000 โดส และ 3,370,000 โดส ตามลำดับ

ลาว ขยายเวลาล็อกดาวน์ถึง 3 ส.ค.คุมเชื้อนำเข้าจากต่างประเทศ



          นางทิพพากอน จันทะวงสา รองหัวหน้าสำนักนายกรัฐมนตรีของสปป.ลาว แสดงความเป็นห่วง สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านของลาวว่าน่าวิตกกังวล พบว่าแรงงานข้ามชาติจำนวนมากเดินทางกลับมาที่สปป.ลาว อย่างต่อเนื่องทุกวัน ทำให้รัฐบาลตัดสินใจขยายระยะเวลามาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดต่อไปอีก 15 วัน จนถึงวันที่ 3 ส.ค. 64



          การประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้มีการผ่อนคลายมาตรการบางส่วน แม้ว่าบางส่วนจะยังคงระดับความเข้มงวดเท่าเดิม เช่น



-เปิดให้บริการฟิตเนสในร่มและกลางแจ้ง รวมถึงสนามกีฬาต่างๆ ในจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อในชุมชนนั้น แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ทั้งหมด



-เปิดให้บริการสถานประกอบการ ประเภทร้านนวดและสปา ในจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อในชุมชน แต่ทั้งผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการจะต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบทั้ง 2 โดส



-เปิดการเรียนการสอน ในสถาบันอาชีวศึกษา การฝึกอบรมครู และในชั้นเรียนปีสุดท้ายของสถาบันการศึกษาในกรุงเวียงจันทน์ทั้งหมด แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด



าวอินโดฯ ไม่พอใจ ปธน.วิโดโด แก้ปัญหาโควิด ฉีดวัคซีนแค่ 11 % เสียชีวิตขณะกักตัวถึง 650 ราย



          คะแนนความนิยมของนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร่วงลงเนื่องจากการแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคโควิด-19 ในอินโดนีเซีย ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รายวันของอินโดนีเซียสูงที่สุดในโลก



          ผลสำรวจจากสถาบัน Lembaga Survei Indonesia (LSI) เปิดเผยว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 1,200 คน จากทั่วประเทศผ่านทางโทรศัพท์ มีความคลาดเคลื่อนบวกลบราวร้อยละ 2.88 พบว่า



-ประมาณร้อยละ 59.6 พึงพอใจกับการรับมือโควิด-19 ของประธานาธิบดีวิโดโด ลดลงจากระดับร้อยละ 68.9 เมื่อเดือนธ.ค.63



-คนไม่พอใจเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 28.9 เป็นร้อยละ 37.2  



          รายงานระบุว่า ประชาชนจำนวนมาก เชื่อว่า ประธานาธิบดีวิโดโด สามารถยุติการแพร่ระบาดครั้งนี้ได้ แต่ระดับความเชื่อมั่นลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา



          แพลตฟอร์ม LaporCovid19 เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งล่าสุด ทำให้โรงพยาบาลต้องรับภาระเกินขีดจำกัดและประสบปัญหาขาดแคลนออกซิเจนทั่วประเทศ เนื่องจากโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดได้ง่ายนั้นได้กระจายไปทั่วอินโดนีเซีย โดยมีประชาชนอย่างน้อย 650 รายเสียชีวิตที่บ้านขณะกักตัว เพราะไม่สามารถเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้



          การติดตามการฉีดวัคซีนของบลูมเบิร์ก ระบุว่า มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กว่า 57,000,000 ครั้งในอินโดนีเซีย ซึ่งครอบคลุมประชากรร้อยละ 11 ของประเทศ โดยระดับดังกล่าวน้อยกว่าในสหภาพยุโรป (EU) ที่ร้อยละ 48 และในสหรัฐฯที่ร้อยละ 53



          ผู้ตอบแบบสำรวจเกือบร้อยละ 83 ระบุว่า ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ แบบสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในเดือนมี.ค.-มิ.ย.64



 



 

ข่าวทั้งหมด

X