นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผย เรื่องการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ต่างๆ จากการตรวจทั้งหมดกว่า 3,000 ตัวอย่าง พบว่า
-สายพันธุ์เดลตา ระบาดในพื้นที่ภาพรวมทั่วประเทศคิดเป็นร้อยละ 63
-สายพันธุ์อัลฟา ร้อยละ 34
-ที่เหลือเป็นสายพันธุ์เบตา
-เมื่อพิจารณาการติดเชื้อในกรุงเทพมหานคร พบการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา คิดเป็นร้อยละ 77
-ที่เหลือเป็นการแพร่ระบาดในภูมิภาค
ส่วนการกระจายของสายพันธุ์เดลตา พบว่า มีการติดเชื้อแล้ว 71 จังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานคร เพิ่มมาจากอาทิตย์ที่แล้ว 11 จังหวัด
หลายจังหวัดที่ไม่เคยพบผู้ติดเชื้อและกลับมาพบการติดเชื้อ เช่น สุรินทร์ 28 คน ฉะเชิงเทรา 20 คน สมุทรสงคราม 4 คน แม่ฮ่องสอน 3 คน ส่วนจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา 2 คน ประกอบด้วย จ.ตราด นครศรีธรรมราช กระบี่ ปัตตานี ส่วนจังหวัดที่พบติดเชื้อ 1 คน เช่น กาญจนบุรี ชุมพร พังงา ทำให้เห็นว่าสายพันธุ์เดลตา ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ความรุนแรงของอัตราการป่วย การเสียชีวิตไม่ได้มีผล ยกเว้นพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากจนดูแลไม่ทัน ก็จะทำให้ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
ส่วนสายพันธุ์เบตา ยังพบในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ปัตตานี ยะลา สงขลา พัทลุง พบเพิ่มที่จ.นราธิวาสอีก 90 คน และพบที่จ.ชุมพร 1 คน
-กรณีที่เจอผู้ป่วยที่จ.บึงกาฬ ติดเชื้อสายพันธุ์เบตา เป็นคนไทยที่กลับมาจากการทำงานที่ไต้หวันและเมื่อกักตัวครบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ไม่พบว่ามีการติดเชื้อ จึงเดินทางกลับบ้านที่ จ. บึงกาฬ และพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จากการสอบสวนโรคพบว่ามีคนใกล้ชิดติดอีก3 คน ต้องดูว่าจากการสอบสวนโรคจะพบว่ามีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ได้ประสานในพื้นที่ตรวจเพิ่มเติม สัปดาห์หน้าน่าจะทราบผลและส่งสายพันธุ์มาให้ตรวจสอบเพิ่มเติม ส่วนผู้ติดเชื้อติดมาจากไหน เพราะจากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่ได้มีที่มาจากภาคใต้หรือจากไต้หวัน ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม อาจต้องใช้ข้อมูลอื่นประกอบด้วย
-กรณีที่ลูกจากจังหวัดภาคใต้ขึ้นมาเยี่ยมพ่อในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และตรวจพบว่าติดเชื้อสายพันธุ์เบตา และทำให้คนในครอบครัวในพื้นที่กรุงเทพมหานครติดเชื้ออีก 2 คน จากการสอบสวนโรคในสัปดาห์นี้ไม่เจอผู้ติดเชื้อเพิ่ม และถ้าสัปดาห์หน้าไม่เจอคนติดเชื้อเพิ่ม ก็ถือว่าคุมได้ หวังว่าจะเป็นแบบนั้นและต้องเฝ้าดูต่อไป
แฟ้มภาพ