หลังจากที่ จังหวัดภูเก็ต ปรับเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นพ.เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นางบุษยา ใจเปี่ยม ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.64 เป็นต้นไป จังหวัดปรับมาตรการเพิ่มขึ้น
1.เพิ่มความเข้มในการคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
1.1.กำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจำนวน 13 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดจำนวน 53 จังหวัด และพื้นที่ควบคุมจำนวน 10 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 76 จังหวัด จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
-ชนิดซิโนแวค ,ซิโนฟาร์ม ครบ 2 เข็มหรือได้รับวัคซีนชนิด Astrazeneca ,ไฟเซอร์, Moderna ,Johnson & Johnson จำนวน 1 เข็ม มาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน
-หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน
-และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen test ไม่เกิน 7 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับการตรวจ
-ยกเว้นเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีจนถึงผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ไม่อยู่ในเกณฑ์การได้รับวัคซีนและเดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ให้มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen test ไม่เกิน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับการตรวจ
2.ห้ามบุคคลและยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ตผ่านด่านทางบกท่าฉัตรไชย ระหว่างเวลา 23.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น
3.ห้ามข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารและพนักงานส่วนท้องถิ่น พนักงานราชการ ลูกจ้างส่วนราชการ เดินทางออกนอกเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ยกเว้นมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนและต้องได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาเท่านั้น
4.ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของบุคคลซึ่งมีจำนวนรวมกันมากกว่า 100 คน
5.ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ไม่ได้ประกอบกิจการเป็นสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ภายในเวลาที่กำหนด โดยให้มีการจำหน่ายและบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้ไม่เกินเวลา 21.00น.
6.ร้านสะดวกซื้อ Supermarket ให้เปิดดำเนินการได้ เปิดตั้งแต่เวลา 04.00-23.00 น.
CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ. ภูเก็ต