เริ่มวันนี้! เกาหลีใต้ ขยายมาตรการคุมโควิดทั่วประเทศ-เวียดนาม ล็อกดาวน์พท.ตอนใต้อีก 16 แห่ง
วันนี้จะเป็นวันแรกที่หลายประเทศเริ่มบังคับใช้มาตรการคุมเข้มเพิ่มขึ้นเพื่อควบคุมการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
-เกาหลีใต้ : ขยายพื้นที่บังคับใช้มาตรการคุมเข้มจากเดิมเฉพาะกรุงโซล เป็นการบังคับใช้ทั่วประทศเริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 1 ส.ค. 64 นายคิม บูค-ยุม นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขว่าจำนวนผู้ติดเชื้อแทบจะไม่ลดลง จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการเพิ่มเติม เช่น ห้ามประชาชนรวมกลุ่มกัน 4 คน
เกาหลีใต้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,454 คน ร้อยละ 32 ของจำนวนผู้ติดเชื้อดังกล่าวเป็นผู้ติดเชื้อที่อยู่นอกกรุงโซล เพิ่มขึ้นจากเดิมที่อยู่ที่ร้อยละ 28 ทำให้รัฐบาลตัดสินใจประกาศมาตรการคุมเข้มทั่วประเทศ
ปัจจุบันมีชาวเกาหลีใต้ราวร้อยละ 30 จากประชากรรวม 52,000,000 คน ที่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 เข็ม
-เวียดนาม : นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกฯเวียดนาม สั่งล็อกดาวน์พื้นที่ทางตอนใต้อีก 16 แห่ง เป็นเวลา 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันนี้ ครอบคลุมพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงและนครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการเงินของเวียดนาม ครอบคลุมประชากรมากกว่า 35,000,000 ล้านคน หรือเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนประชากรในประเทศเวียดนาม
*ประชาชนในพื้นที่ต้องอยู่แต่ในบ้าน สามารถออกจากบ้านได้เมื่อมีความจำเป็น เช่น การซื้ออาหารหรือยา หรือไปทำงานที่โรงงานหรือธุรกิจที่ยังได้รับอนุญาตให้เปิดทำการ
*ห้ามประชาชนรวมตัวกันมากกว่า 2 คนในที่สาธารณะ เว้นแต่ในสำนักงานของรัฐ โรงพยาบาล หรือธุรกิจจำนวนไม่มากที่มีความจำเป็น
เวียดนาม พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มสูงทะลุ 3,000 คน เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน สำหรับพื้นที่ที่ติดเชื้อในชุมชนล้วนเป็นภูมิภาคที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ โดยพบในนครโฮจิมินห์ 2,786 คน ในจังหวัดด่งท้าป 180 คน และในจังหวัดลองอัน 134 คน
-อินโดนีเซีย:เริ่มบังคับใช้มาตรการห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็นระหว่างเมืองทั้งภายในเกาะเดียวกันและข้ามเกาะจนกว่าจะสิ้นสุดเทศกาลอีดิลอัฎฮา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาหยุดยาวของชาวมุสลิม โดยตามปฏิทินทางศาสนาปีนี้ คือจนถึงวันที่ 23 ก.ค.64 ผู้ป่วยติดเชื้อของอินโดนีเซีย พบมากที่สุดที่เกาะชวา สถานที่ตั้งของกรุงจาการ์ตา
ตรวจเชิงรุกท่าเทียบเรือประมง! สิงคโปร์พบโควิด-19 ระบาดในตลาดสด 11 แห่งทั่วประเทศ
การเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ พบคลัสเตอร์การติดเชื้อในกลุ่มพ่อค้าขายปลาในตลาดสด 11 แห่ง ทั่วประเทศ คาดว่า ผู้ที่ป่วยโรคโควิด-19 ได้รับเชื้อมาจากร้านขายปลาที่ท่าเทียบเรือประมงจูร่ง เนื่องจาก ไปรับปลาจากท่าเรือดังกล่าว และตรวจพบว่าติดโรคโควิด-19 จากการใช้ชุดตรวจ Antigen เบื้องต้นพบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 19 คน เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ศูนย์อาหาร ฮง ลิม และท่าเทียบเรือจูร่ง ทำให้ต้องปิดตลาดดังกล่าวไปจนถึงสิ้นเดือนเพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อ
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ เตรียมตรวจโควิด-19 เชิงรุกในตลาดที่พบผู้ติดเชื้อทั้งหมดอย่างเข้มข้น ซึ่งผู้ค้าในตลาดจะได้รับข้อความแจ้งเตือนให้เข้าตรวจโรคและกักตัวตามกฎหมายจนกว่าจะได้รับผลยืนยันเป็นลบ นอกจากนี้ จะมีการแจกชุดตรวจโควิด-19 ให้ตรวจหาเชื้อด้วยตัวเองก่อน และในวันที่ 14 ให้ตรวจหาเชื้อกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง
นายกฯอังกฤษ กักตัว 10 วัน ใกล้ชิดรมว.สธ. พร้อมทั้งประกาศฉีดวัคซีนให้ผู้ใหญ่ทุกคน
สถานการณ์ที่อังกฤษ วันนี้ครบกำหนดที่รัฐบาลจะประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ขณะที่ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ และนายริชี่ ซูนัก รัฐมนตรีคลังอังกฤษ อยู่ระหว่างการกักตัวเป็นระยะเวลา 10 วัน เนื่องจากใกล้ชิด นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุข ที่มีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวก มีอาการเพียงเล็กน้อย เนื่องจากได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วทั้ง 2 โดส และเขากำลังกักตัวที่บ้านพักอาศัยกับครอบครัว
โฆษกของนายกฯอังกฤษ แถลงว่า นายจอห์นสัน จะกักตัวดูอาการที่เชคเกอร์ส บ้านพักประจำตำแหน่งของนายกฯอังกฤษ นอกกรุงลอนดอน และจะประชุมทางไกลกับรัฐมนตรี
นายจอห์นสัน ประกาศว่ารัฐบาลพร้อมฉีดวัคซีนให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ในอังกฤษทุกคนตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะคนที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนต้านโควิด-19
จนถึงขณะนี้มีประชากรวัยผู้ใหญ่ร้อยละ 87.8 ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว และรัฐบาลตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ครบโดสให้ได้ถึง 2 ใน 3 ของประชากรภายในวันจันทร์นี้
แนวทางที่รัฐบาลจะยกเลิกมาตรการคุมเข้มทั้งหมด เพื่อเดินหน้าเศรษฐกิจในวันจันทร์นี้ นายจอห์นสัน ระบุว่า ช่วงหน้าร้อนเป็นจังหวะที่ดีที่จะเปิดประเทศอีกครั้ง พร้อมขอให้คนในชาติร่วมมือกันฉีดวัคซีนเพื่อลดการเสียชีวิตจากโควิด-19 เนื่องจาก จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากสายพันธุ์เดลตา
นักวิทยาศาสตร์ แสดงความกังวลว่าการยกเลิกมาตรการคุมเข้มครั้งนี้ อาจจะทำให้อัตราการติดเชื้อพุ่งสูงอีก เพราะยังมีประชาชนอีกไม่น้อยที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบ และจะส่งผลให้มีผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น
CR:CNN