เครื่องบินรบของกองกำลังนานาชาติระดมทิ้งระเบิดโจมตีที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามหรือไอเอสในซีเรีย ต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานนี้ ขณะที่กองทัพสหรัฐอเมริกาที่เป็นผู้นำของกองกำลังนานาชาติ ทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายในเมืองรักกาในอิรักเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มองค์กรเอกชนสิทธิมนุษยชนซีเรีย รายงานว่ามีนักรบไอเอสเสียชีวิตอย่างน้อย 30 ศพ
ทั้งนี้เฉพาะในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงมีปฏิบัติการโจมตีไอเอสในซีเรียรวม 11 ครั้ง และในอิรักอีก 15 ครั้ง โดยที่ในการโจมตีที่เมืองรักกา มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เป็นโจมตีคลังอาวุธ
โดยทางเหนือของอิรัก ซึ่งนักรบชาวเคิร์ดสู้รบกับกลุ่มไอเอสในพื้นที่ มีการพบหลุมศพขนาดใหญ่ที่มีศพของชนเผ่ายาซิดีถูกสังหารและฝังไว้รวมกัน
กับยังมีความคืบหน้าเกี่ยวกับนางสาวเคย์ลา มุลเลอร์ อาสาสมัครบรรเทาทุกข์ชาวอเมริกัน ที่กลุ่มไอเอสอ้างว่าลักพาตัวเธอไว้ แต่เธอเสียชีวิตแล้วเพราะถูกเครื่องบินรบของจอร์แดนทิ้งระเบิดโจมตีอาคารหลังหนึ่งที่เมืองรักกาในอิรัก โดยเธอเป็นอาสาสมัครที่ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามจากซีเรีย ถูกลักพาตัวขณะทำงานอยู่ที่เมืองอเลปโปทางตะวันตกเฉียงเหรือของซีเรียในปี 2556 แต่นายมูริ ซารัคข่าน นักรณรงค์อเมริกันมุสลิมเปิดเผยว่า กลุ่มไอเอสเคยประกาศบทลงโทษจำคุกเธอตลอดชีวิตเพื่อตอบโต้ที่ศาลมลรัฐเท็กซัสในสหรัฐอเมริกา จำคุกนางอาฟีอา ซิดดีกี ผู้ต้องหาสตรีชาวปากีสถาน เป็นเวลา 86 ปีในคดีพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ทหาร และ ล่าม ในอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นคดีที่กลุ่มไอเอสติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงหน้าร้อนของปีที่แล้ว ที่กลุ่มไอเอสเริ่มยึดครองบางพื้นที่ของอิรักกับซีเรีย กลุ่มก็ขู่ว่าจะสังหารนางสาวมุลเลอร์ ซึ่งจนถึงในเดือนกรกฎาคมไอเอสก็ขู่อีกครั้งว่าจะสังหารนางสาวมุลเลอร์ภายใน 30 วันหากทางการสหรัฐไม่ปล่อยตัวนางซิดดีกี หรือครอบครัวไม่จ่ายเงินค่าไถ่ 5 ล้านยูโร แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีการเปิดเผยว่าเธอถูกสังหารไปแล้ว หรือ เพิ่งเสียชีวิตจากการที่กองทัพจอร์แดนทิ้งระเบิด
...