ติดเชื้อโควิด-19! สิ้น 'อ.แนบ โสตถิพันธุ์'

14 กรกฎาคม 2564, 21:10น.


          อาจารย์แนบ โสตถิพันธุ์ ศิลปินอาวุโสที่มีชื่อเสียงด้านจิตรกรรม และดนตรี เสียชีวิตด้วยโรคโควิด -19 หลังเข้ารับรักษาเมื่อพบว่า ติดเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร  ธิติ ศาลิคุปต์ หลานชาย กล่าวว่า ได้สอบถามทางบุตรสาวอาจารย์แนบ ทราบว่า อาจารย์แนบเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร ด้วยอาการโรคหัวใจ มีอาการเจ็บหน้าอกและเข้าแอดมิดในห้องผู้ป่วยรวม วันที่ 2-5 กรกฎาคม ที่ รพ.กำแพงเพชร จากนั้นแพทย์ได้ให้กลับบ้าน แต่อาจารย์แนบยังมีอาการเจ็บหน้าอกต่อเนื่อง จนวันที่  8 กรกฎาคม บุตรสาวจึงพาไปตรวจเพื่อหาสาเหตุที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง แต่กลับพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงส่งตัวกลับมารักษาโควิด-19 ที่ รพ.กำแพงเพชรในวันเดียวกัน  ต่อมาพบเชื้อลงปอดวันที่ 12 กรกฎาคม ก่อนอาการจะทรุดหนักช่วงเช้าวันที่ 14 กรกฎาคม หายใจไม่สะดวก มีอาการเหนื่อย แพทย์ใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่ก็ไม่ดีขึ้น ก่อนลูกสาวได้รับแจ้งจากทาง รพ.ว่า อาจารย์แนบ เสียชีวิตในเวลา 14.45 น.วันนี้ 



          ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลได้ประสานวัดในพื้นที่จัดพิธีฌาปนกิจศพ โดยไม่มีครอบครัวไปร่วมงาน เนื่องจากต้องกักตัว เพราะถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งผลตรวจรอบแรกไม่พบเชื้อ เจ้าหน้าที่อนามัยจะมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซ้ำอีกครั้งในวันพรุ่งนี้(15 กรกฎาคม)นี้



         สำหรับประวัติและเส้นทางชีวิต อาจารย์แนบ โสตถิพันธุ์  เกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2482 สิริอายุรวม 82 ปี  สำเร็จการศึกษา



-โรงเรียนศิลปศึกษา (เตรียมมหาวิทยาลัยศิลปากร)



- ปริญญาตรี (จิตรกรรม) คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ถือเป็นศิลปินชั้นครู ที่มีชื่อเสียงด้านจิตกรรม



เคยดำรงตำเเหน่งรองประธานมูลนิธิธารศิลป์ รักษ์จิตรกร



         จากบทสัมภาษณ์ของอ.แนบ เป็นศิลปินทั้งวาดภาพและเป็นนักดนตรี 



         “สมัยที่ผมเล่นไวโอลินตามร้านอาหารต่างๆ นั้น ผมต้องต่อสู้กับการดำรงชีวิต หลังจากลาออกจากอาจารย์สอนศิลปะ หันมาเป็นศิลปินอิสระ ตอนนั้นเราไม่สามารถยังชีพอยู่ด้วยการขายงานศิลปะไม่ได้เลย ตอนนั้นยังไม่มีแกลเลอรี่ ผู้คนยังไม่นิยมสะสมภาพงานศิลปะกันมากมายนัก แต่เราก็ต้องทำงาน ผมยังทำงานกับพี่บุญถึง ฤทธิ์เกิด ที่ผมเคยอาศัยอยู่กับท่าน จึงได้ทำงานที่ช่อง 4บางขุนพรหม ทำอยู่ฝ่ายศิลปกรรมให้กับคุณพิชัย วาสนาส่ง พอมีรายได้เล็กๆ น้อยๆ ด้วยการทำฉาก สมัยนั้นยังเป็นทีวีขาวดำแล้วตอนกลางคืนก็มาเล่นดนตรีสีไวโอลิน เพื่อหาค่าข้าวสารกรอกหม้อ เพื่อลูกเต้าจะได้เรียนหนังสือ ครอบครัวมีชีวิตอยู่ได้ปกติจนทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าผมเป็นนักดนตรีทางด้านไวโอลิน แต่ขณะเดียวกัน ผมยังซุ่มทำงานศิลปะอยู่เงียบๆ มาเกือบ 30 ปีโดยที่ไม่เคยได้นำออกแสดงงานที่ไหนมาก่อนเลย แต่ที่ผมมาสีไวโอลินก็เพื่อต้องการจะหาปัจจัย แต่ไม่เคยทิ้งงานศิลปะ บางครั้งมันจะคิดงานอะไรออกมาในขณะที่เล่นไวโอลินอยู่บนเวที คิดถึงงานเพ้นท์ติ้งที่ยังทำค้างอยู่ พอกลับมาถึงบ้านตี 1 ตี 2เปลี่ยนเสื้อผ้าแทบไม่ทัน ผมมาเขียนรูปต่อ เขียนกลางแจ้งเลย (หัวเราะ)”



ขอบคุณข้อมูลจาก MIX Magazine



 

ข่าวทั้งหมด

X