หลังการประชุมคณะกรรมการอัยการหรือ ก.อ. นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.)เป็นประธานการประชุม ก.อ.ครั้งที่ 7/2564 โดยมีวาระน่าสนใจเกี่ยวกับผลการสอบสวนวินัย นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ลูกชายนักธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์หรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ สังกัด สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 3 ก.ย. 2555
หลังการประชุม ประธาน ก.อ.เปิดเผยว่า ที่ผ่านนายเนตรได้มาให้ความร่วมมือในการสอบสวนโดยให้ถ้อยคำกับกรรมการสอบสวนชุดนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ กับคณะ ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับรายงานการสอบสวนของอัยการสูงสุด 2 สำนวนที่ได้รับมอบมาจากคณะทำงานที่ได้กลับความเห็นเป็นสั่งฟ้องนายวรยุทธใหม่อีกครั้ง กับสำนวนที่ได้มีการสอบนายเนตรเบื้องต้นที่ได้มีการพิจารณาไว้แล้ว
โดยจะมีการขยายผลไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องที่มีการอ้างว่าเป็นอัยการคนหนึ่งดังกล่าว เพื่อจะได้มีการสอดคล้องกับการสอบสวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ระบุว่ามีการตั้งเรื่อง แต่การสอบนายเนตรกับอัยการอีกคนหนึ่งอาจจะต้องแยกสอบ เพราะเรื่องนายเนตรเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ในการสั่งคดีว่าสั่งคดีเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ และสั่งคดีโดยชอบหรือไม่
ส่วนกรณีอัยการอีกคนเป็นเรื่องการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของอัยการอย่างเรื่องการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ ก็จะต้องไปสอบสวนร่วมกับบุคคลอื่นด้วย บทลงโทษก็จะแตกต่างกัน เป็นคนละส่วน โดยของนายเนตรอาจจะต้องสรุปผลสอบออกมาก่อนโดยตนให้เวลาภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้ส่วนอัยการอีกคนก็ให้สอบโดยเร็ว ซึ่งนายกายสิทธิ์เองก็ไม่ได้รู้สึกหนักใจ
เมื่อถามถึงกรณีนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานอาญาธนบุรี ที่ได้ถูกศาลพิพากษาความผิดเมาแล้วขับ นายพชร กล่าวว่า วันนี้ก็มีการพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งทาง อสส.ได้เสนอต่อที่ประชุมว่าเป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรง แต่เนื่องจากนายปรเมษฐ์เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ การที่เมาแล้วขับเป็นสิ่งที่ไม่ควรประพฤติอย่างยิ่ง จึงให้จัดทำบันทึกเพื่อว่ากล่าวตักเตือนและกำชับไม่ให้ปฏิบัติตัว ลักษณะดังกล่าวและประพฤติตามคำสั่งศาล พิพากษาลงโทษไม่ว่าจะเป็นการรอลงอาญาหรือการรายงานตัว การบำเพ็ญประโยชน์ อย่างเคร่งครัด
ส่วนเรื่องการพิจารณาตำแหน่งก็ยังดำเนินการตามปกติ เนื่องจาก พิจารณาแล้วเห็นว่าเหตุเมาแล้วขับนั้นไม่ได้เป็นพฤติกรรมที่เสื่อมเสียร้ายแรง เจตนาทุจริต อีกทั้งทางอัยการสูงสุด(อสส.) ได้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร ก็เห็นควรเสนอบัญชีรายชื่อเพื่อพิจารณาโปรดเกล้าฯตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้จะมีการนัดประชุม ก.อ.ครั้งต่อไปวันที่ 18 ส.ค.นี้