ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30 น.วันพุธที่ 14 กรกฎาคม 2564

14 กรกฎาคม 2564, 05:03น.


กราดยิงในห้างที่รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐฯ คนร้ายเสียชีวิต



          เจ้าหน้าที่ตำรวจของบัลติมอร์ สหรัฐฯ เปิดเผยรายงานเบื้องต้นว่าเกิดเหตุกราดยิงในห้างสรรพสินค้าซีเคียวริตี้ สแควร์ มอลล์ นอกเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว ขณะที่ตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือช่วงค่ำวานนี้ 19.30 น.ตามเวลาไทย



ม็อบหนุนอดีตปธน.ซูมา ก่อเหตุจลาจลปล้นสิ่งของในห้าง ถูกจับไปกว่าพันคน



          เหตุความไม่สงบในแอฟริกาใต้ ที่เริ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนบานปลาย หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของแอฟริกาใต้ ลงโทษจำคุกอดีตประธานาธิบดีจาคอบ ซูมา 15 เดือน ในข้อหาละเมิดอำนาจศาล จากการที่เขาขัดขืนคำสั่ง ไม่มารับฟังการไต่สวนคดีคอร์รัปชั่นสมัยที่เป็นผู้นำประเทศช่วงปี 2552-2561



          ประชาชนผู้สนับสนุนนายซูมา ออกมาก่อเหตุจลาจลใน 2 จังหวัด ได้แก่ กัวเตง และ ควาซูลู-นาตาล ตำรวจและทหาร พยายามเข้าระงับเหตุแต่ยังไม่สำเร็จ



          เหตุประท้วงลุกลามบานปลายกลายเป็นการปล้นชิงสิ่งของในร้านค้าตามเมืองต่างๆ ของทั้ง 2 จังหวัด รวมทั้งนครโจฮันเนสเบิร์ก แต่ยังไม่ลามไปยังจังหวัดอื่นๆ อีก 7 แห่งที่เหลือ





          นายเดวิด มาคูรา นายกรัฐมนตรีจังหวัดกัวเตง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่คุมไม่ได้ เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ชุมนุมไปแล้วมากกว่า 1,234 คน จนถึงตอนนี้มีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 72 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากการเหยียบกันระหว่างความสับสนวุ่นวายจากเหตุจลาจล



          สื่อท้องถิ่น เผยแพร่ภาพวิดีโอแสดงให้เห็นตำรวจพยายามควบคุมสถานการณ์ภายในศูนย์การค้า เอ็นโดฟายา ซึ่งผู้ชุมนุมจำนวนมากก่อเหตุรุนแรงและเหยียบกันตายถึง 10 ราย



โศกนาฎกรรม! ไฟไหม้ รพ.ในอิรัก เสียชีวิตเกือบ 100 ราย ศาลออกหมายจับ 13 คน



          ผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ที่แผนกแยกเดี่ยวผู้ป่วยโควิด-19 ของโรงพยาบาล อัล-ฮุสเซน ในจังหวัดนาซิริยาห์ ประเทศอิรัก เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 92 รายแล้ว และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100 คน แผนกแยกเดี่ยวผู้ป่วยโควิด-19 มีพื้นที่ขนาด 70 เตียง เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อ 3 เดือนก่อน



          ตำรวจ ระบุว่า เหตุเพลิงไหม้เริ่มขึ้นเนื่องจากเกิดประกายไฟจากสายไฟที่ชำรุดไปโดนถังออกซิเจนจนเกิดการระเบิดและเกิดไฟไหม้ขึ้น



          ด้านศาลยุติธรรมเมืองดีการ์ เมืองเอกของจังหวัดนาซิริยาห์ ออกหมายจับผู้ที่อาจมีส่วนต้องรับผิดชอบเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้แล้ว 13 คน รวมถึงนายซัดดัม ซาฮิบ อัล-ตาวีล หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำจังหวัด ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี มุสตาฟา อัล- คาดิมี เพิ่งออกคำสั่งให้จับกุมประธานโรงพยาบาล อัล-ฮุสเซน ด้วย



          เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ทำให้ประชาชนไม่พอใจเป็นอย่างมาก ญาติผู้เสียชีวิตจำนวนมากไปรวมตัวประท้วงที่หน้าโรงพยาบาล หลายคนต้องสูญเสียครอบครัวและเพื่อนที่มารักษาตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 แต่ต้องมาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



          ขณะที่แพทย์คนหนึ่งของโรงพยาบาล อัล-ฮุสเซน เปิดเผยว่า อาคารที่เกิดเหตุไม่มีแม้แต่มาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นฐาน อย่างระบบสปริงเกอร์ฉีดน้ำ หรือสัญญาณเตือนไฟไหม้เคยแจ้งเรื่องต่อสำนักงานสาธารณสุขหลายครั้งตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ได้คำตอบเดิมตลอดคือ ไม่มีงบประมาณ



          ย้อนไปเมื่อเดือนเม.ย. 64 เกิดไฟไหม้ที่โรงพยาบาลอีกแห่งในกรุงแบกแดด โดยมีสาเหตุจากถังออกซิเจนระเบิดเช่นกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80 ราย ทำให้นาย ฮัสซัน อัล-ตามีมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในเวลานั้น ประกาศลาออกจากตำแหน่ง



สื่อต่างชาติ เล่นข่าว ไทยฉีดวัคซีนต่างชนิด สู้โควิดสายพันธุ์เดลตา



          สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า รัฐบาลไทย อนุมัติใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนเข็มที่ 2 สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคเป็นเข็มแรก รายงานข่าวอ้างคำสัมภาษณ์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไทย ที่ระบุว่า การฉีดวัคซีนต่างชนิดกันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา โดยระบุว่า เมื่อฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรกแล้ว จะมีการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรกประมาณ 3-4 สัปดาห์



          หลายประเทศเริ่มมองหาวิธีการฉีดวัคซีนผสม หรือ การฉีดวัคซีนโดสที่ 3 เป็นบูสเตอร์ ท่ามกลางความห่วงกังวลว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่และแพร่ระบาดได้มากกว่าจะสามารถหลบเลี่ยงวัคซีนที่อนุมัติให้ใช้กันอยู่ได้



-เวียดนาม : กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม เตรียมฉีดวัคซีนบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ซึ่งพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยี mRNa เป็นเข็มที่สองให้กับคนที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกของแอสตร้าเซนเนก้า/ออกซฟอร์ด ซึ่งพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยี Viral Vector Vaccines ห่างจากเข็มแรกประมาณ 8-12 สัปดาห์



-แคนาดา สเปน:ใช้วิธีการแบบเดียวกับเวียดนาม มานานระยะหนึ่งแล้ว โดยเหตุผลหลักยังคงเป็นความกังวลเรื่องอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า/ออกซฟอร์ด ที่อาจเกิดขึ้นกับระบบไหลเวียนโลหิต



-เกาหลีใต้ : ยืนยันว่าการสลับวัคซีนลักษณะนี้ยังจำกัดเฉพาะกับบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น เนื่องจากเป็นด่านหน้าของการเผชิญกับเชื้อไวรัสโคโรนา



ฟิตเนส ในกรุงโซล เกาหลีใต้ ออกกฎเหล็ก! คุมโควิด กลัวเหงื่อกระเด็นใส่คนอื่น 



          สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส ในกรุงโซลของเกาหลีใต้ ออกมาตรการควบคุมโควิด-19 ให้เข้มข้นมากขึ้น ในช่วงนี้ที่กรุงโซล ประกาศใช้มาตรการคุมเข้ม เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ระบุว่า มาตรการต่างๆจะช่วยป้องกันไม่ให้คนหายใจเร็วหรือทำเหงื่อกระเด็นใส่ผู้อื่น มาตรการประกอบด้วย



1.ห้ามเปิดเพลงที่มีจังหวะเร็วกว่า 120 จังหวะเพลงต่อนาที (บีพีเอ็ม)



2.จำกัดความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้า อยู่ที่ไม่เกิน 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง



3.ผู้ที่เข้าร่วมคลาสออกกำลังกาย อย่าง ซูมบ้า สปิน และแอโรบิค ในกรุงโซล ห้ามเปิดเพลงเร็วกว่า 120 บีพีเอ็ม ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.64 เป็นต้นไป



*อย่างไรก็ตาม กฎนี้ทำให้เจ้าของฟิตเนส เกิดคำถามว่า เราจะสามารถควบคุมเพลงในเพลย์ลิสของผู้ที่มาออกกำลังกายได้อย่างไร ในเมื่อคนส่วนใหญ่ใส่หูฟังกันหมด



4.ห้ามคนเข้าฟิตเนสหรือเล่นกีฬาในพื้นที่ปิดเกิน 2 ชั่วโมง



5.ห้ามอาบน้ำที่ฟิตเนส



6.สถานที่ออกกำลังกายต่างๆ ต้องปิดในเวลา 22.00 น.



          เกาหลีใต้กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละมากกว่าพันคน ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์แล้ว



          นายกรัฐมนตรีคิม บูกย็อม เตือนว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ในเกาหลีใต้อยู่ในภาวะวิกฤตสูงสุดแล้ว



ชาวเยอรมัน ฉีดวัคซีนครบโดสแค่ 43 % นายกฯแมร์เคิล วอนช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่



          ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าชาวเยอรมัน ออกไปฉีดวัคซีนกันน้อยลง คนที่ได้รับวัคซีนเข็มแรก คิดเป็นร้อยละ 58.7 และร้อยละ 43 ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม



          นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนี ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้ว เรียกร้องให้ชาวเยอรมันไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันตัวเองและคนอื่นๆ ไม่ให้ป่วยหนัก รวมถึงเชื่อมโยงกับการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะสามารถทำให้ออกมาตรการผ่อนคลายได้มากกว่านี้



         สำนักงานควบคุมโรคของเยอรมนี แถลงว่า เยอรมนีตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอายุตั้งแต่ 12-59 ปีให้ได้ร้อยละ 85 และอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปให้ได้ร้อยละ 90 ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่อาจจะกลับมาแพร่ระบาดรุนแรงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวปีนี้

ข่าวทั้งหมด

X