องค์การอาหารและยา(FDA)ของสหรัฐฯปรับปรุงคำเตือนสำหรับการใช้วัคซีนจากบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน(J&J)ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดฉีดเข็มเดียว ระบุว่า FDA พบข้อมูลใหม่ที่บ่งชี้ว่า จากจำนวนวัคซีน J&J รวม 12.5 ล้านโดสที่สหรัฐฯฉีดให้กับประชาชน มีผู้รับวัคซีน J&J จำนวน 100 คน มีผลข้างเคียง เช่น ความผิดปกติของระบบประสาทที่เรียกว่า กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillan Barre Syndrome-GBS) หรือโรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพาตอย่างเฉียบพลัน
FDA เตือนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้รับวัคซีนให้สังเกตผลข้างเคียง ส่วนใหญ่จะมีอาการป่วยหลังรับวัคซีนราว 42 วัน พร้อมย้ำว่าโอกาสเกิดผลข้างเคียงเช่นนี้อยู่ในอัตราที่ต่ำมาก นอกจากนี้ในกลุ่มที่ผลข้างเคียงดังกล่าว มี 95 คนมีอาการป่วยรุนแรง ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และมีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย
ก่อนหน้านี้ FDA อนุญาตให้ใช้วัคซีน J&J เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉินเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ แต่วัคซีนยังไม่ใช่วัคซีนหลักในโครงการฉีดวัคซีนของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ โรงงานผลิตวัคซีนที่เมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ปิดซ่อมบำรุงกว่า 3 เดือนหลังเกิดปัญหามีสารปนเปื้อนในกระบวนการผลิตวัคซีน ส่งผลให้การผลิตวัคซีนของJ&J ล่าช้า
ในแต่ละปี มีผู้ป่วยด้วยโรค GBS ในสหรัฐฯเฉลี่ย 3,000-6,000 คน ส่วนใหญ่จะรักษาหาย ร่างกายกลับมาสมบูรณ์ ตามปกติหลังได้รับการรักษา
Cr: reuters