การนำกำไลอิเล็กทรอนิกส์มาควบคุมประพฤติผู้กระทำความผิด โดยศาลแขวงสมุทรปราการ เริ่มเป็นแห่งที่ 2 นายอวิรุทธ์ ชาญชัญกิตติกร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงสมุทรปราการ เปิดเผยกับจส. 100 ว่า ศาลแขวงได้เริ่มใช้กำไลอิเล็กทรอนิกส์ คุมประพฤติ จะครบ 1 ปี แล้ว เริ่มแรกใช้กับ คนขับรถบรรทุกด้วยความเร็วสูง ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บ แต่เนื่องจากเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยการคุมขังจะทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนไปด้วย จากนั้น ได้นำมาใช้ในกลุ่มไกด์ผี-แท็กซี่เถื่อน ที่หลอกลวงนักท่องเที่ยว ในสนามบินสุวรรณภูมิ การสวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์จะทำให้ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่สนามบินได้ ถือว่าได้ผลพอสมควร
ล่าสุด นำมาใช้ กับ นักเรียนช่างกลที่ถูกตัดสินในคดีร่วมกันทำร้ายร่างกายแล้ว 6 ราย โดยกำไล จะทำหน้าที่เพื่อติดตามตัวและเป็นการควบคุมจำเลยทั้ง 6 คน ไม่ให้กลับไปกรทำความผิดซ้ำอีกโดยมีกำหนดระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งจำเลยห้ามออกจากบ้านตั้งแต่ เวลา 22.00 น. ไปจนถึงเวลา 06.00 น. และให้จำเลยทั้ง 6 คนไปรายงานตัวต่อนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน ห้ามดื่มสุราและ สูบบุหรี่ รวมไปถึงขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ภายในระยะที่สวมใส่กำไลข้อเท้า และให้จำเลยรักษากำไลข้อเท้า ตามที่พนักงานคุมประพฤติกำหนดโดยเคร่งครัดถ้ากระทำผิดจะต้องเสียเงินค่า ประกันไว้เป็นเงินไม่เกิน 50,000 บาท โดยก่อนใส่กำไลฯ ผู้ปกครองต้องให้ความเห็นชอบ โดยภายหลังใส่กำไลแล้ว ผู้ปกครอง พอใจมากที่ลูกไม่หนีเที่ยว รีบกลับบ้าน ถือว่าช่วยดูแลความปลอดภัยให้อีกทาง ไม่ถูกตามล้างแค้น
นอกจากนั้น ศาลกำลังพิจารณานำกำไลอิเล็กทรอนิกส์มาใช้กับกลุ่มจักรยานยนตร์ซิ่ง ที่มีคดีขึ้นสูงศาลแล้ว 8 คน
สำหรับการสวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์ ในต่างประเทศเช่นสหรัฐ-ยุโรปมีใช้มาแล้ว 40 ปี เมื่อผู้ใส่กำไล ฝ่าฝืน จะสัญญาณเตือนส่งไป ที่ ศูนย์เฝ้าระวัง ของกรมคุมประพฤติ ที่จะสามารถบอกได้พฤติกรรมของผู้ถูกควบคุม