ภูเก็ตมีผู้ป่วยเพิ่ม 10 คน ผู้ว่าฯออกคำสั่งเพิ่มมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าพื้นที่

10 กรกฎาคม 2564, 16:46น.


          สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 จังหวัดภูเก็ต วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 มีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 10 คน  มีผู้ป่วยอยู่ในระหว่างการรักษา 62 คน



           ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ออกคำสั่งจังหวัดภูเก็ต เรื่องมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในพื้นที่นำร่องเพื่อการท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต (Phuket Tourism Sandbox) โดยมีสาระสำคัญคือ



​ข้อ 1 มาตรการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ของผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นจังหวัดนำร่องเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวหรือกิจกรรมอื่น ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล



     มาตรการก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร



​          1. ให้หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงหรือสถานที่ชุมชนไม่น้อยกว่า 14 วัน



​          2. ต้องเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศ/พื้นที่ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด–19 (ศบค.) หรือศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทางเข้า-ออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศอนุมัติ ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยการเสนอของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และได้มีการลงทะเบียนผ่านระบบหรือเว็บไซต์ที่ทางราชการกำหนด ผู้เดินทางจะต้องอยู่ในประเทศนั้นเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 21 วันก่อนออกเดินทาง เว้นแต่ผู้ที่พำนักอยู่ในราชอาณาจักรซึ่งได้เดินทางออกจากราชอาณาจักรและได้เดินทางไปยังประเทศ/พื้นที่ที่ได้รับอนุมัติข้างต้น โดยให้มีเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ดังนี้



​           (1) หนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry-COE)



​           (2) ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด–19 (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID–19 is not detected) โดยวิธีการ RT–PCR โดยมีระยะเวลา



ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง



          ​ (3) กรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลหรือหลักประกันอื่นใดซึ่งรวมถึงกรณีโรคโควิด – 19 ตลอดระยะเวลาที่ผู้เดินทางอยู่ในราชอาณาจักรในวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ



           (4) หลักฐานการชำระค่าที่พักและค่าตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT–PCR โดยระบุระยะเวลาเข้าพักไม่น้อยกว่า 14 คืน ในโรงแรมหรือสถานที่พักที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ (SHA Plus) ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำหนด สำหรับกรณีที่ผู้เดินทางพำนักอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลาน้อยกว่า 14 คืน ให้มีบัตรโดยสารของสายการบินที่ระบุห้วงระยะเวลาในการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หลักฐานการชำระเงินค่าที่พักและค่าตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT–PCR ในห้วงเวลาที่กำหนด



          (5) เอกสารหรือหลักฐานรับรองการได้รับวัคซีน (Certificate of Vaccination) ครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนกำหนด ซึ่งเป็นวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนออกเดินทาง ทั้งนี้ สำหรับผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ไม่อยู่ในเกณฑ์การได้รับวัคซีน และเดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ให้มีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด–19 (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID–19 is not detected) โดยวิธีการ RT–PCR โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง



​           3. ให้คัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ ณ ช่องทางเข้า - ออกระหว่างประเทศ/พื้นที่ต้นทาง ก่อนออกเดินทาง (Exit screening)



     มาตรการเมื่อเดินทางถึง/ระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร



​           1. มาตรการตรวจคัดกรองอาการและการดำเนินพิธีการตรวจคนเข้าเมือง



           (1) กรณีเดินทางเข้าราชอาณาจักรโดยสายการบินที่มีเที่ยวบินตรงมายัง ณ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ให้คัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ และยื่นเอกสารต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ รวมถึงการดำเนินพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ณ ช่องทางเข้า - ออกระหว่างประเทศ ก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร



           (2) กรณีเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยสายการบินที่ไม่มีเที่ยวบินตรงและต้องเดินทางโดยทางอากาศต่อมายังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ให้ผู้เดินทางดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร



​           ก. ให้คัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ และให้ยื่นเอกสารต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ รวมถึงการดำเนินพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ณ ช่องทางเข้า - ออกระหว่างประเทศจุดแรกที่มีการเดินทางเข้ามาภายในราชอาณาจักร ก่อนเดินทางมายังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต



​           ข. ให้คัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ และให้ยื่นเอกสารต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ รวมถึงการดำเนินพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ณ ช่องทางเข้า - ออกระหว่างประเทศหรือในพื้นที่ของท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต



​          2. ให้ใช้ระบบติดตามตัวโดยติดตั้งแอปพลิเคชัน Morchana หรือตามที่ทางราชการกำหนดโดยให้เปิดระบบติดตามไว้ตลอดเวลา เพื่อเฝ้าระวังติดตามอาการระหว่างที่ผู้เดินทางพำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ต



          3. ให้มีการตรวจหาเชื้อโรคโควิด–19 โดยวิธี RT-PCR ณ สถานที่ที่ทางราชการกำหนดโดยผู้เดินทางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ตามหลักเกณฑ์ ดังนี้



          (1) ให้มีการตรวจหาเชื้อโรคโควิด–19 โดยวิธี RT-PCR จำนวน 1 ครั้ง เมื่อเดินทางมาถึงราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยห้ามเดินทางออกนอกโรงแรมหรือสถานที่พักจนกว่าจะมี



ผลการตรวจยืนยันว่าไม่มีเชื้อโรคโควิด-19



          (2) ให้มีการตรวจหาเชื้อโรคโควิด–19 โดยวิธี RT-PCR เพิ่มเติมจากข้อ 3 (1) ดังนี้



​           ก. กรณีพำนักอยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 7 วัน ให้มีการตรวจหาเชื้อ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 6–7 ของระยะเวลาที่พำนัก ณ โรงแรมที่พักอาศัยหรือห้องปฏิบัติการ (Lab นอก) โดยโรงพยาบาลคู่สัญญา



​           ข. กรณีพำนักอยู่ในราชอาณาจักรเป็นระยะเวลา 10–14 วัน ให้มีการตรวจหาเชื้อ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 6–7 และครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 12–13 ของระยะเวลาที่พำนัก ณ โรงแรมที่พักอาศัยหรือห้องปฏิบัติการ (Lab นอก) โดยโรงพยาบาลคู่สัญญา



​            4.ให้เดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตในช่องทางที่กำหนด ไปยังโรงแรมหรือสถานที่พักโดยยานพาหนะที่จัดไว้เป็นการเฉพาะและต้องไม่มีการแวะหรือหยุดพัก ณ สถานที่ใดๆ ก่อนถึงโรงแรมหรือสถานที่พัก



​            ทั้งนี้ ในกรณีพบว่าผู้เดินทางมีการติดเชื้อโรคโควิด–19 ให้โรงแรมหรือสถานที่พักดำเนินการประสานส่งตัวผู้เดินทางไปยังสถานพยาบาลคู่สัญญาตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขหรือทางราชการกำหนดโดยเร่งด่วนเพื่อทำการตรวจหรือรักษาต่อไป โดยผู้เดินทางเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย



ในการรักษาพยาบาลทั้งหมด หรือเป็นไปตามข้อตกลงเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายระหว่างโรงแรมหรือสถานที่พักกับผู้เดินทาง



​           5. กรณีผู้เดินทางออกนอกโรงแรมหรือสถานที่พักหลักจากทราบผลการตรวจยืนยันแล้วว่าไม่มีเชื้อโรคโควิด–19 ให้ผู้เดินทางรายงานตัวกับ SHA Plus Manager เมื่อกลับมายังโรงแรมหรือสถานที่พักทุกวันตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือตามที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อกำหนด โดยห้ามไปพำนักค้างคืนในสถานที่อื่นนอกเหนือจากโรงแรมหรือสถานที่พักที่ได้กำหนดไว้ และให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ที่ราชการกำหนดอย่างเคร่งครัดตลอดเวลาที่พำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ต



           6. กรณีผู้เดินทางพำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ตเป็นเวลาน้อยกว่า 14 คืน ห้ามผู้เดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเด็ดขาด ยกเว้นเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเท่านั้น



​           7. กรณีผู้เดินทางพำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ตเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 คืน ให้สามารถเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้ เมื่อครบกำหนดระยะเวลาแล้ว



ข้อ 2 ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและประสงค์จะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดอื่น หรือเดินทางออกนอกราชอาณาจักรทางอากาศ (ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต) ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้



​           นักท่องเที่ยวที่พำนักในจังหวัดภูเก็ตครบกำหนด 14 คืน และประสงค์จะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต ให้แสดงเอกสารหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ ณ ด่านตรวจช่องทางขาออก ณ อาคารผู้โดยสารภายในประเทศหรืออาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ดังต่อไปนี้



          1. หนังสือเดินทางและวีซ่าที่ตรวจลงตราโดย ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ตขาเข้า (ยกเว้นผู้มีสัญชาติไทย)



​          2. หลักฐานยืนยันการตรวจหาเชื้อโรคโควิด–19 แสดงว่าตรวจไม่พบเชื้อโรคโควิด – 19 ตลอดระยะเวลา 14 คืน ที่พำนักอยู่ในจังหวัด ภูเก็ต ซึ่งออกโดยหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข



​          3. หลักฐานการเข้าพักในโรงแรมหรือสถานที่พักที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ (SHA Plus)



ข้อ 3 ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและประสงค์จะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตเพื่อเดินทางไปยังจังหวัดอื่น ทางบกและทางเรือ ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้



          ทางบก (ด่านตรวจท่าฉัตรไชย)



​          ผู้ที่ประสงค์เดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ต้องมีเอกสารยืนยันการผ่านวิธีการที่ทางราชการกำหนด โดยมีการลงตราในใบเอกสารแนบในหนังสือเดินทางแสดงถึงระยะเวลาที่ต้องพำนักในจังหวัดภูเก็ต หลักฐานยืนยันการตรวจหาเชื้อโรคโควิด – 19 ที่แสดงว่าตรวจไม่พบเชื้อโรคโควิด–19 ตลอดระยะเวลา 14 คืน ที่พำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งออกโดยหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข และหลักฐานยืนยันการเข้าพักในโรงแรมหรือสถานที่พักที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ (SHA Plus) ในจังหวัดภูเก็ตมาแล้วเป็นระยะเวลา 14 คืน



          ​ทางเรือ (ท่าเทียบเรือ)



​​           1. ให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและพำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ตตามกำหนด 14 คืน ที่ประสงค์จะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตทางเรือ สามารถเดินทางโดยเรือโดยสารออกจากท่าเทียบเรือที่กำหนด ดังนี้



          (1) ท่าเทียบเรืออ่าวปอ ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต



​          (2) ท่าเทียบเรือรัษฎา ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต



​          (3) ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต



ในกรณีที่จะเดินทางโดยเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) หรือเรือที่มีลักษณะเป็นเรือสำราญและกีฬาที่จดทะเบียนประเภทบรรทุกคนโดยสาร ให้เดินทางออกจากท่าเรือที่กำหนด ดังนี้



          (1) ท่าเทียบเรือยอร์ช เฮเว่น มารีน่า ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต



​          (2) ท่าเทียบเรืออ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต



​          (3) ท่าเทียบเรือภูเก็ต โบ๊ทลากูน ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต



​          (4) ท่าเทียบเรือรอยัล ภูเก็ต มารีน่า ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต



​          (5) ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต



          โดยต้องแจ้งเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต หรือศูนย์ปฏิบัติการติดตามและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต (ศปก.Phuket Sandbox) ก่อนออกเดินทางไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง



​​          2. ผู้เดินทางต้องแสดงหลักฐาน ดังต่อไปนี้



          (1) หนังสือเดินทางและวีซ่าที่ตรวจลงตราโดย ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ตขาเข้า (ยกเว้นผู้มีสัญชาติไทย)



​          (2) หลักฐานยืนยันการตรวจหาเชื้อโรคโควิด – 19 แสดงว่าตรวจไม่พบเชื้อโรคโควิด – 19 ตลอดระยะเวลา 14 คืน ที่พำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งออกโดยหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข



​          (3) หลักฐานการเข้าพักในโรงแรมหรือสถานที่พักที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ (SHA Plus)



​​ข้อ 4 กรณีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศที่ประสงค์จะเดินทางท่องเที่ยวในน่านน้ำจังหวัดภูเก็ตจะต้องเดินทางออกจากท่าเรือที่กำหนด คือ ท่าเทียบเรืออ่าวปอ, ท่าเทียบเรือรัษฎา, ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง, ท่าเทียบเรือยอร์ช เฮเว่น มารีน่า, ท่าเทียบเรืออ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า, ท่าเทียบเรือภูเก็ต โบ๊ทลากูน และท่าเทียบเรือ



...

ข่าวทั้งหมด

X