วันนี้ (10 ก.ค.) นายแพทย์พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 11 เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกเมษายน โดยงานยุทธศาสตร์ฯ มีวาระสำคัญคือการติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 ระลอกเมษายน และให้มีการวางกรอบการทำงานประกอบไปด้วย
1. การเตรียมความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์ การสอบสวนโรคผู้สัมผัสเสี่ยง
2. การวางแผนเรื่องการใช้ออกซิเจน ต่อรายในผู้ป่วยหนักต้องใช้กี่ลิตร (กรณีเกิดการระบาดเพิ่มขึ้น)
3. แนวทางของการกักกันกลุ่มเสี่ยง 14 วัน และการเตรียมสถานที่เพื่อรองรับ โดยอาจต้องเตรียมไว้ 1,000 เตียง (ปัจจุบันมีการจัดเตรียมไว้ 370 เตียง)
4. การเตรียมพร้อมเตียงผู้ป่วยกรณีพบคลัสเตอร์ใหม่ทั้งในระดับสีแดง และสีเขียว
5. การป้องกันในชุมชนที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะชุมชนที่มีประชากรมากกว่า 500 คน เช่น ชุมชนชาวเล
6. การบริหารวัคซีนซึ่งตามเป้าหมายคือต้องได้รับร้อยละ 70
7. การสอบสวนโรคควรมุ่งเน้นในกลุ่มที่มีการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ซึ่งในขณะนี้พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา 1 คน, สายพันธุ์เบตา 6 คน
8. การสอบสวนกลุ่มเสี่ยงสัมผัส จากผู้ป่วยที่พบจากการตรวจเชิงรุก
9. การติดตามการฉีดวัคซีนในกลุ่มต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันฉีดได้มากกว่า 20,000 คนแล้ว จากที่ลงทะเบียนไว้มากกว่า 50,000 คน
10. ให้ประเมินสถานการณ์การพบผู้ติดเชื้อตั้งแต่เปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ว่ามีผู้ติดเชื้อเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนหรือไม่ พร้อมให้แยกสายพันธุ์ และประเมินความเสี่ยง
11. มีกรณีที่ผู้ติดเชื้อมารับบริการ ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ และพยาบาล ต้องกักตัว 20 คน
12. ติดตามมาตรการของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเพื่อประชาสัมพันธ์ประชาชน
13. ติดตามด้านการต่อราคาการตรวจโควิด-19 ในกลุ่มต่างชาติ หาราคากลางที่ถูกลง เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด
14. ติดตามเรื่อง Sentinel โดยทาง อบจ. เป็นผู้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้
ทั้งนี้ ให้สรุปสถานการณ์และเสนอแนะเกี่ยวกับการเตรียมรับสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมติดตามข้อส่งการของปลัดกระทรวงสาธารณสุข และกำชับให้รายงานผลสถานการณ์ฯ ไปยังกระทรวงสาธารณสุข จนกว่าสถานการณ์จะสงบ
...