โควิด-19 ฉุดความเชื่อมั่นคนไทยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โอกาสหางาน-รายได้-ใช้จ่าย

          ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานผลการสำรวจความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยเดือน มิ.ย. 2564 ความเชื่อมั่นปรับตัวลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจาก สถานการณ์โควิด โดยเปรียบเทียบความเชื่อมั่นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและใน 6 เดือนข้างหน้า ในปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 75.2 มองว่า เศรษฐกิจแย่ ร้อยละ 24 มองว่าปานกลาง มีเพียงร้อยละ 0.8 ที่มองว่าเศรษฐกิจดี

          ส่วนอีก 6 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 53.8 มองว่า เศรษฐกิจแย่ ร้อยละ 43.3 มองว่าปานกลาง มีเพียงร้อยละ 2.9 ที่มองว่าเศรษฐกิจดี นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยในระดับแย่ ร้อยละ 64.5 ปานกลาง ร้อยละ 33.6 และเศรษฐกิจดี ร้อยละ 1.9 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมเท่ากับ 37.3

          เปรียบเทียบความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำในปัจจุบันและใน 6 เดือนข้างหน้า ในปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 70 มองว่าโอกาสหางานทำนั้นแย่ ร้อยละ 29.2 มองว่าปานกลาง มีเพียงร้อยละ 0.8 ที่มองว่าโอกาสหางานทำนั้นดี

          ส่วนอีก 6 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 53.4 มองว่า โอกาสหางานทำนั้นแย่ ร้อยละ 44 มองว่าปานกลาง มีเพียงร้อยละ 2.8 ที่มองว่าโอกาสหางานทำนั้นดี นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำในระดับแย่ ร้อยละ 61.7 ปานกลาง ร้อยละ 36.6 และโอกาสหางานทำนั้นดี ร้อยละ 1.7 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำเท่ากับ 40

          และความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ประชาชนส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นว่ารายได้ในอนาคตของตนจะแย่ลงร้อยละ 51.7 ไม่เปลี่ยนแปลง ร้อยละ 44.8 และดีขึ้นร้อยละ 3.7 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตเท่ากับ 52.1 อนึ่ง ดัชนีทั้ง 3 ด้าน ปรับลดต่อเนื่องตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย. 2564 โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม อยู่ที่ 40.3 38.9 และ 37.3 ตามลำดับ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำ อยู่ที่ 42.9 41.3 และ 40 ตามลำดับ และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 54.7 53.9 และ 52.1

          ดัชนีความเหมาะสมในการใช้จ่ายประจำเดือนมิถุนายน 2564 แบ่งเป็น (1) การซื้อรถยนต์คันใหม่ในปัจจุบัน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 68.4 ระบุว่า ไม่เหมาะสม ร้อยละ 23.4 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 8.2 เหมาะสม (2) การซื้อบ้านหลังใหม่ในปัจจุบัน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 81.4 ระบุว่า ไม่เหมาะสม ร้อยละ 13.5 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 5.1 เหมาะสม (3) การใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในปัจจุบัน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 72.1 ระบุว่า ไม่เหมาะสม ร้อยละ 24.3 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 3.6 เหมาะสม และ (4) การลงทุนทำธุรกิจ SMEs ในปัจจุบัน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 87.8 ระบุว่า ไม่เหมาะสม ร้อยละ 10.1 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 2.1 เหมาะสม

          ทั้งนี้ ดัชนีทั้ง 4 ด้าน ปรับลดต่อเนื่องตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย. 2564