รมว.อุตสาหกรรม สั่งปิดโรงงานหมิงตี้ ห้ามกลับมาสร้างที่เดิม

08 กรกฎาคม 2564, 15:25น.


          หลังเกิดเหตุไฟไหม้ของบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ในพื้นที่ถนนกิ่งแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) มีคำสั่งปิดโรงงานที่เกิดเหตุของบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ไม่มีกำหนด แต่หากเจ้าของบริษัทต้องการที่จะประกอบกิจการต่อไป ต้องย้ายไปดำเนินการอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมที่มีการยื่นแผนผังโรงงานและมาตรการรักษาความปลอดภัยตามที่กำหนดชัดเจนต่อไป   



          ด้านการกำจัดสารสไตรีนโมโนเมอร์ที่ตกค้างอยู่เหลือในพื้นที่โรงงานหมิงตี้ 1,000 ตันนั้น ได้ประสานให้บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) และบริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย จำกัด(มหาชน) เข้ามาดำเนินการย้ายออกไปกำจัดภายใน 3 วัน



          หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ กรอ. ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบสภาพคุณภาพน้ำและอากาศบริเวณใกล้เคียงในระยะ 10 กิโลเมตร จำนวน 14 จุด พบว่ามีสารสไตรีนโมโนเมอร์ที่เกิดจากการเผาไหม้ในอุบัติเหตุอยู่ในช่วง 0.42 – 0.83 ppm ซึ่งไม่เกินมาตรฐานตามที่กรมควบคุมมลพิษกำหนดไว้ที่ 20 ppm



             ส่วนคุณภาพน้ำไม่พบสารปนเปื้อนในคลองปากน้ำและคลองประเวศบุรีรมย์ จึงได้สั่งการให้ กรอ. ติดตามสภาพคุณภาพน้ำต่อไปอีก 60 วัน อย่างเข้มข้นว่าหลักวิชาการที่ระบุไว้ว่าสารเคมีในแหล่งน้ำจะสามารถระเหยได้ตามธรรมชาติภายใน 30-45 วัน อย่างไรก็ตาม ขอเตือนให้ประชาชนงดใช้น้ำในคลองเพื่อการอุปโภคบริโภคชั่วคราว



          ด้านนายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดี​กรมโรงงา​นอุตสาหกรรม กล่าวว่า​ เมื่อปี 2560 บริษัทหมิงตี้ ได้แจ้งขอขยายกำลังการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยเครื่องจักรและเทคโนโลยีชั้นสูงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ปัจจุบันมีกำลังการผลิตสูงสุดอยู่ที่ 40,000 ตันต่อปี ในกรณีนี้ไม่ต้องทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) เพราะเป็นการขยายกำลังการผลิตภายในพื้นที่เดิม ซึ่งบริษัทได้มีการดำเนินการตามมาตรฐานกำหนดไว้แล้วตั้งแต่ก่อตั้งโรงงาน



        สำหรับการตั้งจุดรับเรื่องจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้มี 3 แห่ง ได้แก่



-หน้าโรงงานหมิงตี้



-สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว และ



-สำนักงาน อสจ. สมุทรปราการ เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนติดต่อแจ้งเรื่องร้องทุกข์และรับการเยียวยาต่อไป



          โดยบริษัท หมิงตี้ ยืนยันว่าพร้อมจ่ายค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับประชาชนทุกคน โดยประชาชนที่ได้รับความเสียหายนำหลักฐานมาแสดงเพื่อขอรับเงินชดเชยตามกระบวนการ คาดว่า ภายหลังกองพิสูจน์หลักฐานรวบรวมข้อมูลแล้วเสร็จ จะทราบตัวเลขความเสียหายที่ชัดเจน ซึ่งเบื้องต้นมีความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโกดัง 1 หลัง อุปกรณ์สำนักงานทั้งหมดประมาณ 3 ล้านบาท และสารเคมีที่อยู่ในโรงงาน คือ แอลกอฮอล์ประมาณ 70,000 ลิตร ทรัพย์สินอื่นๆ อีก 28 ล้านบาท ซึ่งบริษัทยังมีเงินทุนหมุนเวียนอีกประมาณ 20 ล้านบาท



 

ข่าวทั้งหมด

X