คดีแชร์บ้านออมเบสท์ แชร์ลูกโซ่ ที่ จ.สงขลา นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีและโฆษกอัยการปราบปรามทุจริตภาค9 เปิดเผยว่า คดีนี้ อัยการจังหวัดสงขลาได้ยื่นฟ้องไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ในข้อหาตามพระราชบัญญัติการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พรบ. คอมพิวเตอร์ กฎหมายอาญามาตรา 91 341 343 โดยในคำฟ้องมีผู้เสียหายรวม 294 คน อัยการจังหวัดสงขลาได้ขอให้ศาลคืนเงินแก่ผู้เสียหายเป็นเงินรวมจำนวน 71,851,000 บาทในการพิจารณาคดีพร้อมกันทีเดียว ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยทั้งสองในวันที่ 2 สิงหาคม 2564
ส่วนประเด็นค่าเสียหายอื่น ๆ นอกจากเงินต้นที่ลงทุนไปกับจำเลยแล้ว ผู้เสียหายต้องการร้องขอค่าเสียหายเพิ่มเติมจะดำเนินการอย่างไร นายโกศลวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกัน ระหว่างนายโสภณ ทิพย์บำรุง อธิบดีอัยการภาค 9 นายปราศัย ศรีสุข อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย จ.สงขลา ในการช่วยเหลือทางแพ่ง เพื่อให้ได้ทรัพย์สินคืน
สำหรับค่าเสียหายเป็นไปตามมาตรา 44 / 1 หากผู้เสียหายรายใด มีความเสียหายมากกว่าเงินต้นที่จ่ายให้กับจำเลยทั้งสองไป อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายจะช่วยยื่นคำร้องยื่นต่อศาลเพิ่มเติมจากที่อัยการจังหวัดได้ขอไว้แล้ว โดยขอให้ผู้เสียหายเข้าพบพร้อมรายละเอียดและความเสียหายเพื่อที่จะดำเนินการต่อศาลต่อไป
นอกจากนั้น อัยการคุ้มครองสิทธิ์ฯ พร้อมเป็นคนกลางรับ หากจำเลยที่อัยการสั่งฟ้อง ต้องการเจรจากับฝ่ายผู้เสียหาย โดยจะนำผลการเจรจาแถลงให้ศาลทราบต่อไปด้วย
นายโกศลวัฒน์ ย้ำว่า ผู้เสียหายที่ต้องการเฉพาะเงินต้นคืนไม่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม ขอให้รอผลคดี ซึ่งสำนักงานอัยการจังหวัดสงขลาจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2564 น.ส.กรองทอง และนายธนสิทธิ์ สามี 2 ผู้ต้องหาในคดีได้เดินทาง เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองสงขลา โดยถูกแจ้งข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนคดีเกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ย. 63 ในพื้นที่ จ.สงขลา มีผู้เสียหาย 348 รายที่มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน มูลค่าความเสียหาย 106 ล้าน มีสถานีตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดี 10 สถานี ทั้ง 2 คนได้ถูกออกหมายจับออกเมื่อวันที่ 22 มี.ค.