ตำรวจเฮติรายงานการสังหารทหารรับจ้าง 4 คนและควบคุมตัวอีก 2 คนจากเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีโฌเวแนล โมอิส 53 ปี ที่บ้านพักของเขาในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวง นายเลออน ชาร์ล ผู้อำนวยการทั่วไปของตำรวจแห่งชาติเฮติ กล่าวในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่า การสังหารและจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมีขึ้นเมืองเปเลรินภายในช่วงเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากที่มีเหตุลอบสังหารเกิดขึ้น ขณะที่ภริยาของประธานาธิบดี ได้รับบาดเจ็บหนัก และถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่ไมอามี สหรัฐฯ ทางการเฮติประกาศไว้ทุกข์เป็นเวลา 2 สัปดาห์เริ่มตั้งแต่วันนี้ (8 ก.ค.)
ส่วนตำรวจ 3 นายที่ถูกจับเป็นตัวประกันมีอาการดีขึ้นแล้ว
ทั้งนี้ ตลอดเวลาการดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 4 ปี ประธานาธิบดีโมอิสต้องเผชิญกับการเคลื่อนไหวต่อต้านมาโดยตลอด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความวิตกกังวลเนื่องจากเฮติซึ่งเป็นประเทศยากจนในอเมริกาเหนือมีเหตุรุนแรงทางการเมืองเกิดขึ้นเป็นระยะ โดยประธานาธิบดีโมอิสยังเคยตกเป็นเป้าหมายของความพยายามลอบสังหาร กับยังมีความเห็นต่างเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาว่าเป็นไปโดยผิดกฎหมาย จากการที่สาบานตนรับตำแหน่งในปี 2560 ซึ่งเขายืนยันว่าวาระการดำรงตำแหน่งจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 แต่ฝ่ายค้านระบุว่า วาระการดำรงตำแหน่งของเขาสิ้นสุดในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 นอกจากนี้เขายังเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี 7 คนในเวลา 4 ปี จนมาถึงนายคลอดด์ โจเซฟ รักษาการ นายกรัฐมนตรีที่เพิ่งดำรงตำแหน่งได้เพียง 3 เดือน และจะอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีจนครบวาระที่เหลืออยู่ ซึ่งเขากล่าวก่อนหน้านี้ว่า ประธานาธิบดีโมอิสถูกลอบสังหารโดยกลุ่มมือปืนรับจ้างที่พูดภาษาอังกฤษและสเปน พร้อมยืนยันว่าจะนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ
นายบ็อคชิต เอดมอนด์ เอกอัครราชทูตเฮติประจำกรุงวอชิงตัน เปิดเผยว่า คนร้ายเป็นทหารรับจ้างมืออาชีพซึ่งปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐฯ และบุกรุกก่อเหตุในช่วงกลางดึก
โดยในวันนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะจัดประชุมลับเป็นวาระฉุกเฉินเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในเฮติ และประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวประณามการสังหารว่าเป็นเรื่องน่ากลัวและกล่าวว่าสหรัฐฯพร้อมให้ความช่วยเหลือในทุกวิถีทาง ส่วนนายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเรียกร้องให้เฮติดำเนินการเลือกตั้งโดยเร็ว และสหรัฐฯพร้อมอำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติไปยังประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตั้งใหม่ ส่วนนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวเรียกร้องให้ชาวเฮติมีความสามัคคีและปฏิเสธการใช้ความรุนแรงทั้งหมด
....