สมุทรปราการ เร่งเคลียร์สารเคมีที่รง.หมิงตี้ฯ ก่อนพิจารณาให้คนที่อยู่ในรัศมี 1 กม.กลับบ้าน
หลังจากนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าจังหวัดราชการสมุทรปราการ ประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชน จนได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการจัดการสารเคมีที่บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด โรงงานผลิตเม็ดโฟม ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการว่า ปัญหามีอยู่สองส่วน คือ
-สารเคมีที่อยู่ในถังกว่า 1,600 ลิตร ยังหลงเหลือกี่ลิตร
-สารเคมีที่ถูกเผาไหม้แล้วกี่ลิตร
เจ้าหน้าที่แยกดำเนินการเป็น 2 ชุด ชุดแรกจะเข้าไปจัดการสารเคมีที่หลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนชุดที่ 2 เข้าไปตรวจสอบในถังสารเคมี แล้วใช้สารเคมี DEHA หรือ D5 เข้าไปเจือปนให้เป็นเกิดค่ากลาง ทำให้ติดไฟน้อยที่สุด และไม่ให้มีการระบิด
ส่วนการพิจารณาให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ 1 กิโลเมตร ซอย 19-25 ที่ตอนนี้ยังประกาศเป็นพื้นที่ควบคุม กลับเข้าบ้านได้เมื่อใดจะพิจารณาตามความเหมาะสม เมื่อจัดทำแผนได้ดีก็จะมาพิจารณากันอีกครั้ง เนื่องจาก ต้องเอาสารเคมีออกไปกำจัดเพื่อให้มีความปลอดภัยและจะแจ้งให้ประชาชนกลับบ้านได้ ขอให้อยู่ในศูนย์อพยพไปก่อน
ด้าน นายณัฐธัญ ละอองทอง ผู้จัดการส่วนปฎิบัติการบริหารภาวะฉุกเฉิน กลุ่ม บ.ปตท.กล่าวว่า ในพื้นที่ภายนอกได้ใช้สารเคมีฉีดพ่นไปแล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่าความปลอดภัยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 80 แล้ว และจะเร่งดำเนินการให้ครบร้อยเปอร์เซนต์ และอยู่ระหว่างดำเนินการนำสารเคมีอีกตัวหนึ่งเอาไปใส่ในถังเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยา หรือเรียกว่าสาร DEHA หรือ D5 ซึ่งสารตัวนี้จะทำหน้าที่ให้สารเคมีที่อยู่ในถังไม่เกิดความร้อน ก็หมายถึงว่ามันไม่ระเบิดนั่นเอง
CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์จ.สมุทรปราการ
ตร.สอบปากคำคนเจ็บ- พนง.รอหลักฐานจุดเกิดเหตุ
พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ กล่าวถึงเรื่องคดีว่าพนักงานสอบสวนสอบปากคำพยาน ผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้จัดการโรงงานและพนักงาน แต่ข้อสรุปยังไม่ชัดเจน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าตรวจที่เกิดเหตุได้ สถานการณ์ยังไม่ปลอดภัยยังมีจุดความร้อนเต็มไปทั่ว อยู่ระหว่างประสานผู้ชำนาญการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ชำนาญการจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความผิดของใคร ต้องรอหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม
ชาวบ้าน มบ.พฤกษา รวมตัว เรียกร้องเจ้าของโครงการช่วยซ่อมบ้าน
นายอิทธิกานต์ จิตสมบูรณ์ อายุ 39 ปี พร้อมชาวบ้านในหมู่บ้านพฤกษา ซอยกิ่งแก้ว 21 รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย หลังแรงระเบิดโรงงานผลิตเม็ดโฟมทำให้บ้านเรือนเสียหาย นายอิทธิกานต์ เปิดเผยว่า ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดกว่า 200-300 หลังคาเรือน อยากเรียกร้องไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องของโครงการหมู่บ้านมีบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด มหาชน บริหารงาน ช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า และทรัพย์สินอื่นๆด้วย
ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) กล่าวถึง การช่วยเหลือประชาชนที่ไม่ได้ทำประกันภัยครอบคลุมความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นไว้ จะได้รับการชดใช้จากการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกที่โรงงานทำประกันภัยดังกล่าวรองรับไว้ด้วยวงเงินเอาประกันภัย 20,000,000 บาท ทั้งความสูญเสียหรือความเสียหายต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สิน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดับเพลิงและการเช่าที่พัก
สำหรับความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกินกว่าวงเงินเอาประกันภัย จำเป็นต้องเรียกร้องจากผู้ที่กระทำการละเมิด คปภ.และบริษัทประกันภัย จะช่วยดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
รมว.อุตสาหกรรม สั่งทบทวนมาตรการความปลอดภัย พิจารณาความเป็นไปได้ ย้ายโรงงานมีสารอันตรายออกจากชุมชน
การตรวจสอบเพิ่มเติม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ทบทวนมาตรการความปลอดภัยของการประกอบกิจการโรงงานใหม่ทั้งหมด
-ทบทวนว่ามีจุดใดต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน ครอบคลุมโรงงานทั่วประเทศทั้ง 64,038 แห่ง โดยเฉพาะโรงงานที่ใช้สารเคมีอันตรายในการประกอบกิจการตั้งอยู่ใกล้บริเวณที่มีชุมชนล้อมรอบ
-พิจารณาการบริหารจัดเก็บสต๊อกการใช้สารเคมีในปริมาณที่เหมาะสม
-สั่งให้พิจารณาย้ายโรงงานที่ประกอบกิจการมีสารอันตรายออกนอกพื้นที่ชุมชน แม้โรงงานจะตั้งมาก่อนชุมชนก็ตาม อาจจะหามาตรการส่งเสริมให้โรงงานดังกล่าวย้ายออกมาจากบริเวณชุมชน เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือว่ามาตรการอื่นๆ
ด้าน นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สั่งการให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) เข้าไปตรวจสอบโรงงานหมิงตี้ และโรงงานที่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยรัศมี 5 กิโลเมตรโดยรอบ ไม่พบการครอบครองหรือใช้วัสดุกัมมันตรังสี รวมทั้งสารสไตรีนโมโนเมอร์
กทม.เน้นซ้อมแผนเผชิญเหตุ เสริมความแกร่งทีมดับเพลิงในโรงงาน
ภายในสัปดาห์หน้า กรุงเทพมหานคร จะดำเนินการเฝ้าระวังและป้องกันเหตุไฟไหม้ในโรงงานหลังจากเกิดเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ สารเคมีระเบิดและไฟไหม้ที่โรงงานหมิงตี้ ซ.กิ่งแก้ว 21 และไฟไหม้บริษัท ฟลอรอลแมนูแฟคเจอริ่ง กรุ๊ป จำกัด เป็นโรงงานผลิตเครื่องหอม ภายในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โซน 3 ถนนฉลองกรุง แขวงลำปะทิว เขตลาดกระบัง
-ตรวจความปลอดภัยโรงงานที่มีลักษณะความเสี่ยงทุกประเภท เช่น โรงงานที่มีเชื้อเพลิงที่ติดไฟง่าย โรงงานที่มีวัตถุหรืออุปกรณ์ที่เป็นสารพิษ และปริมาณที่จัดเก็บ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการเฝ้าระวังและการเตรียมพร้อม ซึ่งเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้เจ้าหน้าที่จะทราบทันทีว่าจะดำเนินการในรูปแบบใด ให้สามารถดับเพลิงและแก้ไขสถานการณ์ทันที
-ความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบบริเวณนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
-ความปลอดภัยของบุคลากรและพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรม ในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้จะทำอย่างไรให้สามารถดับเพลิงได้อย่างรวดเร็ว
กรณีในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เมื่อวันอังคาร 6 ก.ค.64 กรุงเทพมหานคร ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้เวลา 18.06 น. เนื่องจากการจราจรติดขัด ส่งผลให้รถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร คันแรกเข้าถึงจุดเกิดเหตุเวลา 18.29 น. ทำให้ดับเพลิงได้ล่าช้าและเกิดความเสียหายค่อนข้างมาก
ในกรณีนี้ได้หารือร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังถึงแนวทางการปฏิบัติให้สามารถดับเพลิงได้รวดเร็วขึ้น
-สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร จะซักซ้อมแผนการดับเพลิงให้โรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังทั้งหมด และซ้อมทบทวนทุก 6 เดือน สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะเป็นผู้อบรมแผนปฏิบัติการดับเพลิงและเป็นพี่เลี้ยงในการซักซ้อมวิธีปฏิบัติให้บุคลากรของโรงงานทุกแห่ง เพื่อให้มีความพร้อมในการระงับเหตุเบื้องต้นก่อนที่ทีมดับเพลิงหลักจะเข้าถึงพื้นที่ ขณะที่บางแห่งมีหน่วยดับเพลิงของตนเองอยู่สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการที่อยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมเดียวกัน ก็จะสามารถช่วยลดความเสียหายได้
นิคมลาดกระบัง เก็บตย.น้ำ - สน.ฉลองกรุง เก็บหลักฐานไฟไหม้รง.ผลิตเครื่องหอม
เหตุเพลิงไหม้บริษัท ฟลอรอลแมนูแฟคเจอริ่ง กรุ๊ป จำกัด พ.ต.ท.สุรสิทธิ์ หวังดี รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ฉลองกรุง พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาเก็บหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นบางส่วน เนื่องจากยังมีความร้อนและบางจุดยังมีไฟคุขึ้นมา เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำเลี้ยงตลอดเวลา ตรวจสอบเบื้องต้นกลุ่มควันที่เกิดจากเพลิงไหม้ ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะที่เป็นพิษ ชาวบ้านเข้าพักอาศัยได้เป็นปกติ
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ของนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง มาเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจว่า เป็นสารชนิดใดและมีอันตรายหรือไม่
สำหรับโรงงานแห่งนี้มีข้อมูลว่าเป็นโรงงานรับผลิตสินค้าประเภท แชมพู สบู่ เจลอาบน้ำ และโลชั่นทาผิว มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม ภายในโรงงานเก็บแอลกอฮอล์มากกว่า 30,000 ลิตร มีคำสั่งให้พนักงานทั้งหมดหยุดทำงานไปก่อน
รมว.ต่างประเทศสหรัฐ พบ ประธานาธิบดีจีน ย้ำความเป็นพันธมิตร ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
กลุ่มฮามาส พร้อมปลดอาวุธหากปาเลสไตน์เป็นเอกราช
รรท.ผบ.ตร. ย้ำไม่อคติ ปม คำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการ
ข่าวทั้งหมด
