ภรรยา ปธน.เฮติ เจ็บสาหัส จากเหตุลอบสังหาร
การถึงแก่อสัญกรรมของประธานาธิบดีโฌเวแนล โมอิส ของเฮติ วัย 53 ปี เป็นเหตุการณ์ที่ทั่วโลกกำลังติดตามอยู่ หลังจากเกิดเหตุกลุ่มไม่ทราบฝ่ายบุกเข้าไปสังหารจนเสียชีวิตในบ้านพักในกรุงปอร์โตแปรงซ์ และทำให้ภรรยาของนายโมอิส ได้รับบาดเจ็บด้วย เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น.ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 12.00 น.เมื่อวานนี้ตามเวลาประเทศไทย
ล่าสุด นายโคลด โจเซฟ รักษาการนายกรัฐมนตรีเฮติ แถลงว่า นางมาร์ตีน โมอิส สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ที่บาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่สหรัฐฯ
เฮติ เป็นประเทศหนึ่งในกลุ่มประเทศแคริบเบียน อยู่ในกลุ่มทวีปอเมริกาเหนือ มีความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกครั้งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายโมอิส ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเฮติ เมื่อเดือนก.พ.60 หลังนายมิเชล มาร์เทลลี ลาออกจากตำแหน่ง ตลอดระยะเวลาที่นายโมอิส บริหารประเทศ มีปัญหาที่สั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล รวมถึงข้อครหาเรื่องการทุจริตในภาครัฐและการประท้วงทั่วประเทศเมื่อต้นปีนี้ เพื่อเรียกร้องให้นายโมอิส ลาออก
รายงานระบุว่า เมื่อช่วงเดือน ก.พ. 64 มีความพยายามลอบสังหารนายโมอิส มาแล้ว รวมทั้งมีความพยายามรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลของเขา แต่ถูกสกัดเอาไว้ได้ทำให้แผนการล้มเหลว
เฮติ เป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในภูมิภาคอเมริกา เผชิญทั้งปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง วิกฤตเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติ และโรคระบาด เมื่อปี 2553 เผชิญเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง มีผู้เสียชีวิตกว่า 200,000 ราย สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศอย่างหนัก
เฮติ ประกาศกฎอัยการศึก หลังปธน.ถูกลอบสังหาร
นายโจเซฟ แถลงการณ์ถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉิน ได้ตัดสินใจประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ เรียกร้องให้ประชาชนทุกภาคส่วนพร้อมใจกันปกป้องประชาธิปไตย และเขาเน้นย้ำว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุลอบสังหารจะต้องถูกนำตัวมาลงโทษ
นายโจเซฟ เรียกร้องให้ประชาชนชาวเฮติอยู่ในความสงบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองทัพเฮติ สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในขณะนี้
CR:CNN
ปธน.สหรัฐฯ -เลขาฯ UN ประณามเหตุลอบสังหารปธน. เฮติ
ทำเนียบขาวสหรัฐฯ แถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ แสดงความเสียใจต่อชาวเฮติ และย้ำว่าสหรัฐฯจะยังคงให้การสนับสนุนเพื่อให้เฮติมีความปลอดภัย พร้อมทั้งกล่าวประณามการลอบสังหารว่าเป็นสิ่งที่น่าสะเทือนขวัญ และสหรัฐฯกำลังประเมินสถานการณ์
ด้านนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน แสดงความเห็นถึงการลอบสังหารประธานาธิบดีเฮติว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจพร้อมกับเรียกร้องความสงบภายในประเทศทะเลแคริบเบียนแห่งนี้
นายสเตเฟน ดูจาร์ริค โฆษกสหประชาชาติ(UN) กล่าวว่า นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรียกร้องให้ชาวเฮติ หลีกเลี่ยงจากการก่อความไม่สงบ โดย UN จะยืนเคียงข้างรัฐบาลและประชาชนชาวเฮติ
เปรู เจอเชื้อกลายพันธุ์แลมบ์ดากว่า 80% ในกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่
หลังจากที่องค์การอนามัยโลก จับตาโควิด-19 สายพันธุ์แลมบ์ดา ซึ่งพบครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วในเปรู และจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจ (Variant of Interest) หลังจากพบว่าแพร่ระบาดในหลายสิบประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกาใต้ รายงานระบุว่า ใน 4 สัปดาห์ พบการติดเชื้อสายพันธุ์นี้ใน 30 ประเทศทั่วโลก
-เปรู: สถานการณ์การติดเชื้อในช่วง 2 เดือนที่แล้ว พบว่า เชื้อกลายพันธุ์แลมบ์ดามีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 82 ของเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่
-ชิลี:พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ราว 1 ใน 3 ที่เป็นเชื้อสายพันธุ์แลมบ์ดา
-สหราชอาณาจักร :เป็นอีกหนึ่งประเทศที่พบเห็นเคสผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์แลมบ์ดาประปราย
-อาร์เจนตินาและเอกวาดอร์:เริ่มพบการติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ยังเป็นกรณีเดียวกับตัวกลายพันธุ์อื่นๆ เช่น ตัวกลายพันธุ์เดลตา ที่ยังเร็วเกินที่จะบอกว่า สายพันธุ์แลมบ์ดา มีความร้ายแรงกว่าสายพันธุ์อื่นหรือสามารถต้านทานวัคซีนหรือวิธีการรักษาต่างๆ ซึ่งหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้ยังไม่เพียงพอและจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจให้ดียิ่งขึ้น
มีผลเช้าพรุ่งนี้! เวียดนาม ล็อกดาวน์ นครโฮจิมินห์
เวียดนาม สั่งล็อกดาวน์นครโฮจิมินห์ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศ มาตรการล็อกดาวน์จะเริ่มมีผลตั้งแต่เช้าวันศุกร์ 9 ก.ค. 64 ประชาชนจะต้องอยู่บ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ยกเว้นออกมาซื้ออาหารและยา หลังจากเมืองกลายเป็นศูนย์กลางการระบาด และมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันถึง 8,000 คน ในระหว่างการระบาดระลอกล่าสุดที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย.64 จากที่ก่อนหน้านี้ ทั้งประเทศมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันไม่ถึง 3,000 คน
กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม ออกคำสั่งใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-คนที่จะเดินทางออกจากเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ เมืองใหญ่ที่มีประชากร 9,000,000 คน และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ จะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และตรวจหาเชื้อที่สถานที่ปลายทาง
ประชาชนในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ พากันวิตกกังวลว่าอาจจะต้องมีมาตรการเข้มงวดมากกว่านี้ ทำให้ประชาชนแห่กันออกมาหาซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น จนหมดชั้นวางสินค้าในซูเปอร์มาร์เกต
ขณะที่ ตัวเลขรายงานผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ของประเทศ พบว่ามีตัวเลขเฉลี่ยวันละเกินกว่า 1,000 คน
เวียดนามเคยควบคุมการแพร่ระบาดไว้ได้อย่างรวดเร็ว แต่การแพร่ระบาดระลอกใหม่กลับกินเวลายาวนานกว่าสองเดือนแล้ว โดยเฉพาะในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดระลอกใหม่ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 617 คน จากทั้งหมดทั่วประเทศ 677 คน
นายกรัฐมนตรีฟาม มินห์ ชินห์ ของเวียดนาม แต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี 2 คน ให้รับผิดชอบดูแลเรื่องการแพร่ระบาดในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้
เกาหลีใต้-จีน กลับมาใช้มาตรการคุมโควิด อีกครั้ง เจอสายพันธุ์เดลตา
สถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศ ในเอเชียและภูมิภาคอาเซียน กลับมาสร้างความหวั่นวิตกอีกครั้ง โดยเฉพาะการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลับมาเพิ่มสูงขึ้น และส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาที่กลายเป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้
เกาหลีใต้ : กลับมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงกว่าวันละ 1,200 คน ส่วนใหญ่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงโซล เมืองหลวง ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น จึงทำให้ทางการเกาหลีใต้ ขยายเวลาบังคับใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 ในกรุงโซล ออกไปอีกอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ และเจ้าหน้าที่กำลังพิจารณากลับมาใช้มาตรการควบคุมขั้นสูงสุดอีกครั้ง
นางพัค คยอง-มี โฆษกประธานาธิบดี เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีมูน แจอิน สั่งให้กองทัพระดมกำลังเพื่อช่วยติดตามหาเชื้อในวงกว้าง และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่จัดตั้งศูนย์ตรวจหาเชื้อเพิ่มเติมในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น
จีน:พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.64 จำนวน 25 คน พบว่า 3 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่มณฑลยูนนาน ส่วนผู้ติดเชื้อที่เหลือทั้งหมด พบที่เมืองรุ่ยลี่ ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองชนชาติไทและจิ่งพัว เต๋อหง และเป็นเมืองชายแดนติดกับเมืองมูเซะ ของเมียนมา ทำให้ทางการท้องถิ่นเมืองรุ่ยลี่ ทางตะวันตกของยูนนาน สั่งล็อกดาวน์ปิดเมือง และตรวจหาเชื้อเชิงรุกครั้งใหญ่
อิสราเอล ส่งวัคซีน 7 แสนโดสให้เกาหลีใต้แล้ว
หลังจากที่รัฐบาลอิสราเอล บรรลุข้อตกลงบริจาควัคซีนที่ใกล้หมดอายุในสิ้นเดือนนี้จำนวน 700,000 โดส ให้กับเกาหลีใต้ โดยเกาหลีใต้จะส่งวัคซีนไฟเซอร์คืนให้กับอิสราเอล ในจำนวนเท่ากันในเดือนก.ย.และเดือนต.ค. 64
สำนักข่าวยอนฮับ ของเกาหลีใต้ รายงานว่า วัคซีนไฟเซอร์จำนวน 700,000 โดส ที่ได้ตกลงกับอิสราเอล เดินทางถึงสนามบินอินชอน เกาหลีใต้แล้ว เรียบร้อยแล้ว โดยจะฉีดให้กับคนจำนวน 350,000 คน