ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2564
อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยปรับยุทธศาสตร์ฉีดวัคซีนในพื้นที่สีแดงเข้ม
การปรับยุทธศาสตร์ เร่งฉีดวัคซีนในพื้นที่สีแดงเข้มหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค คาดว่าประชาชนในกลุ่มนี้จะได้รับวัคซีนภายในเดือนก.ค.-ส.ค. 64 ในขณะเดียวกันก็ได้เร่งฉีดวัคซีนแก่กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต จึงอาจมีบางรายที่ได้รับการติดต่อเพื่อเลื่อนวันนัดหมายฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้น โดยวัคซีนที่มีอยู่ในประเทศไทยในขณะนี้ ทั้งวัคซีนซิโนแวก และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิภาพในการป้องกันและมีความปลอดภัยในระดับสูง รวมถึงวัคซีนไฟเซอร์ที่จะนำเข้ามาเร็วๆ นี้ ได้มีการพิจารณาถึงประสิทธิภาพของวัคซีน และความสามารถในการลดการติดเชื้อ ป่วยหนัก และลดการเสียชีวิต โดยเน้นพิจารณาเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งวัคซีนที่จะนำมาใช้ในประเทศไทยต้องได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนทุกชนิด หลายบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตวัคซีนรุ่น 2 เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพให้ดีขึ้น เช่น ไฟเซอร์ และแอสตร้าเซนเนก้า
สำหรับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือผู้ที่มีประวัติสัมผัสความเสี่ยงสูงที่มีความจำเป็นต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะนำว่าหากเป็นไปได้ขอให้อาศัยอยู่ที่เดิม และติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่หากจำเป็นต้องเดินทางจริงๆ ควรเตรียมพร้อมก่อนเดินทาง
ระหว่างการเดินทางควรมีการปฏิบัติ ดังนี้ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง, หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จำเป็น, ล้างมือบ่อยๆ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร และเมื่อเข้าห้องน้ำหรือหลังไอจาม, ห้ามแวะพักระหว่างการเดินทาง ให้ตรงไปยังโรงพยาบาลหรือสถานที่ที่ได้รับแจ้งไว้เท่านั้น, หากจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำสาธารณะ ต้องล้างมือทั้งก่อนและหลังใช้ห้องน้ำ และ เปิดหน้าต่างหรือเปิดช่องหน้าต่างให้มีการหมุนเวียนของอากาศภายในรถยนต์
เมื่อเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหรือสถานที่ที่ได้รับประสานก่อนล่วงหน้า เพื่อรับการรักษาหรือแยกกัก โดยผู้ป่วยหรือผู้ที่มีความเสี่ยงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของผู้ดูแลโรงพยาบาลหรือสถานที่แยกกักอย่างเคร่งครัด
หมอแก้ว ยกตัวอย่างอิสราเอลพบติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ทั้งๆที่วัคซีน mRNA ร้อยละ 64
ข้อเรียกร้องให้มีการนำวัคซีนชนิด mRNA มาใช้เพื่อเป็นเกราะ “อย่างหนา” ในการป้องกันการ “ติดเชื้อ” โควิด โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่กำลังเข้ามา เช่น สายพันธุ์เดลตา หรืออินเดีย ล่าสุด จากเพจ หมอแก้ว ผลิพัฒน์ หรือ นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ได้ โพสต์ข้อความในกรณีนี้ โดยยกตัวอย่างการแพร่ระบาดในอิสราเอล ที่มีการระดมฉีดวัคซีนmRNA ของไฟเซอร์ ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีที่แล้ว จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ยอดฉีดวัคซีนทั่วประเทศคิดเป็นร้อยละ 64 จนทำให้ยอดผู้ติดเชื้อจนถึงกลางเดือนมิถุนายนลดลง ทำให้มีการคลายล็อกมาตรการให้ยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัยได้
แต่มาถึงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากจำนวนผู้ติดเชื้อในอิสราเอลที่เป็นตัวเลขหลักเดียว ได้เพิ่มเป็น 300 คนต่อวัน โดยครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่เป็นสายพันธุ์อินเดียนี้เคยได้รับวัคซีนซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นวัคซีนของไฟเซอร์ ครบ 2 เข็ม จนตอนนี้อิสราเอลก็กำลังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะควบคุมการระบาดนี้ โดยประกาศสั่งให้กลับมาใส่หน้ากากอนามัยกันใหม่อีกครั้ง
สิ่งที่ต้องพิจารณา ทำไมอิสราเอลถึงมีการระบาด อิสราเอลมีผู้ติดเชื้อนำเชื้อเข้ามาแพร่ในกลุ่มนักเรียนอายุต่ำกว่า 16 ปีก่อน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดรอบใหม่ได้ และแพร่ระบาดไปได้สูง เช่น ในเมือง Kudus อินโดนีเซีย หรือและโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงรายของไทย ซึ่งได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็ม
เปิดผล "ฟ้าทะลายโจร" ต้องกินรักษาโควิด-19 กรณีอาการไม่รุนแรง มีผลข้างเคียงต้องระวัง
การใช้ "ฟ้าทะลายโจร" เป็นทางเลือกในการรักษาโรคโควิด-19 ในผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง แพทย์หญิง อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีสารแอนโดนกราโฟไลน์ โดยผู้ใหญ่จำเป็นต้องใช้ 180 มิลลิกรัมต่อวัน วันละ 3 มื้อ จึงจะมีผลในการรักษาโรคโควิด-19 ได้ แต่ไม่ควรรับประทานเกิน 5 วัน แต่หากใช้ในการรักษาโรคหวัด จะใช้ในปริมาณ 60 มิลลิกรัมต่อวัน เท่ากับต้องรับประทานประมาณ 3 เท่า ของการรักษาโรคหวัด จากการศึกษาการใช้ฟ้าทะลายโจรร่วมในการรักษาผู้ป่วย โควิด-19 พบว่า จำเป็นต้องใช้ยาฟ้าทะลายโจรในปริมาณที่เหมาะสมตามดุลพินิจของแพทย์ สามารถรักษาโรคได้
โดย "ฟ้าทะลายโจร" มีข้อห้ามใช้ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมลูก เนื่องจากอาจส่งผลกระทบกับเด็กในครรภ์ และเด็กที่กินนมแม่ได้ทั้งนี้ หากใช้ฟ้าทะลายโจรต่อเนื่องอาจส่งผลให้เกิดอาการหน้ามืด เป็นลม และความดันตกได้
นอกจากนี้ ฟ้าทะลายโจรยังส่งผลกระทบกันในการเสริมฤทธิ์ ยาละลายลิ่มเลือด และยาต้านการจับตัวของเม็ดเลือด อีกทั้งควรระวังการใช้ฟ้าทะลายโจรร่วมกับ ยาลดความดันเลือด เพราะอาจเสริมฤทธิ์กันได้
สำหรับผลข้างเคียงของการกินฟ้าทะลายโจร อาจพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง แสบท้อง และถ่ายเหลว พร้อมย้ำ ฟ้าทะลายโจรไม่สามารถกินเพื่อป้องกันโรคได้ แต่สามารถใช้ในการรักษาโรคที่มีอาการไม่รุนแรงได้
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้จัดโครงการ "FAH FIRST AID" ซึ่งจะนำฟ้าทะลายโจรมาใช้กับผู้ที่มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อมีประวัติเสี่ยง มีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก และผู้ที่อยู่ระหว่างรอผลการตรวจเชื้อ และรับเข้าสู่โรงพยาบาล ซึ่งทั้งหมดจะมีการให้ฟ้าทะลายโจร 180 มิลลิกรัม เป็นระยะเวลา 5 วัน ตั้งแต่ขั้นตอนที่พบว่ามีประวัติเสี่ยงสูง ระหว่างรอผลตรวจ จนนำเข้าสู่กระบวนการรักษา อย่างไรก็ตาม คาดว่า FAH FIRST AID จะเป็นทางเลือกสำหรับประชาชนที่จะเข้าสู่ระบบ Home Isolation
'สมุทรปราการ' ติดเชื้อพุ่ง 548 คน คลัสเตอร์เดิม แพร่เชื้อคนในครอบครัว
นายแพทย์พรณรงค์ ศรีม่วง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรปราการ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 548 คน เป็นผู้ป่วยในพื้นที่จำนวน 481 คน อำเภอเมืองสมุทรปราการ 213 คน อำเภอพระประแดงจำนวน 103 คน อำเภอบางพลีจำนวน 86 คน อำเภอบางเสาธงจำนวน 40 คน อำเภอพระสมุทรเจดีย์ 31 คน อำเภอบางบ่อจำนวน 8 คน โรงพยาบาลเอกชนรับมารักษาต่อในสมุทรปราการจำนวน 67 คน
มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
-รายที่ 1 เพศชาย อายุ 83 ปี มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง ต่อมลูกหมากโต
-รายที่ 2 เพศชาย อายุ 84 ปี มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ
-รายที่ 3 เพศหญิง อายุ 75 ปี สัญชาติ ญี่ปุ่น มีโรคประจำตัว เบาหวาน รวมเสียชีวิตสะสม 193 ราย
ยอดผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน จนถึงปัจจุบันจำนวน 20,127 คน ในพื้นที่ 16,824 คน นอกพื้นที่ 3,303 คน
คลัสเตอร์โรงงานสับปะรดกระป๋อง อ.หัวหินระบาดอีก ประจวบฯติดเชื้อวันนี้ 241 คน
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โพสต์ผลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 รายใหม่ พบมีผู้ติดเชื้อ 241 คน แบ่งเป็นคนไทย 123 คน และชาวเมียนมา 118 คน เป็นสถิติสูงสุดในการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มียอดสะสมในจังหวัดตอนนี้ 3,092 คน มีผู้ป่วยเข้ารับการักษา 751 คน เสียชีวิตสะสม 8 คน
โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่มาจากการค้นหาชิงรุกในโรงงานสับปะรดกระป๋องของบริษัทแห่งหนึ่งใน ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จำนวน 218 คน ขณะนี้โรงงานนี้มีผู้ป่วยสะสมแล้ว1,022 คน ขณะที่ฝ่ายบริหารของโรงงานประกาศได้ปิดสายการผลิต ตั้งแต่วันที่ 1 – 7 ก.ค. 64
นนทบุรี ยอดติดที่ทำงาน-ครอบครัว เพิ่ม 206 คน
สถานการณ์ผู้ป่วยยืนยันโควิด19 จ.นนทบุรี วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 206 คน สาเหตุติดเชื้อที่สำคัญ : ภายในที่ทำงาน / ครอบครัว เพศหญิง 119 คน เพศชาย 87 คน ต่างชาติ 9 คน (พม่า 4 คน ลาว และฟิลิปปินส์ แห่งละ2 คน เวียดนาม 1 คน )
แบ่งตามภูมิลำเนา อำเภอปากเกร็ด 65 คน อำเภอเมือง 59 คน อำเภอบางบัวทอง 34 คน อำเภอบางกรวย 24 คน อำเภอบางใหญ่ 19 คน อำเภอไทรน้อย 5 คน มีอาการคิดเป็น 58.7 % ไม่มีอาการคิดเป็น 41.3 % สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน จำนวน 205 คน คัดกรองก่อนผ่าตัด 1 คน
-การตรวจเชิงรับ 205 คน (กลุ่มสำคัญ) ในครอบครัว 28 คน เพื่อน/เพื่อนร่วมงาน 6 คน ทันตแพทย์ มศว 1 คน ครู ฟิลิปปินส์ รร.ไทยรัฐ 95(วัดโพธิ์ทองบน) 3 คน โลตัส บางบัวทอง 1 คน คลังกระจายสินค้าโลตัส 2 คน
ยอดผู้เสียชีวิตในอินโดนีเซียเกิน1,000 ศพ
ข้อมูลของทางการอินโดนีเซียเมื่อวันพุธที่ 7 ก.ค.ว่า อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ 34,379 คนในรอบ 24 ชั่วโมง ทำลายสถิติเดิมของวันอังคารซึ่งมี 31,189 คน และจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดนับแต่เริ่มเกิดการระบาดในประเทศที่ 1,040 คน เพิ่มจากสถิติวันอังคาร ซึ่งอยู่ที่ 728 คน เป็นยอดเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น 10 เท่าในเวลาไม่ถึง 1 เดือน โดยยอดผู้ติดเชื้อสะสมของอินโดนีเซียเพิ่มเป็นเกือบ 3.38 ล้านคน เสียชีวิต 62,908 คน
รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนในสัปดาห์นี้ ที่กรุงจาการ์ตา, ทั่วเกาะชวา และเกาะบาหลีที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยเฉพาะจากสายพันธุ์เดลตา ได้ลุกลามไปยังหลายพื้นที่ของประเทศแล้ว และทำให้รัฐบาลตัดสินใจขยายมาตรการบังคับใช้กับเมืองอีกหลายสิบเมือง ไล่ตั้งแต่เกาะสุมาตราในฝั่งตะวันตกของประเทศ ไปถึงจังหวัดปาปัวในฝั่งตะวันออกไกลสุดของประเทศ โดยให้มีผลถึงวันที่ 20 กรกฎาคม
ออสเตรเลียล็อกดาวน์ ซิดนีย์เพิ่ม
ไม่เพียงอินโดนีเซีย ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตายังทำให้สถานการณ์ในหลายประเทศรุนแรงขึ้น เมื่อวันพุธ นครซิดนีย์ของออสเตรเลียประกาศขยายมาตรการล็อกดาวน์ที่จะครบกำหนดวันศุกร์นี้ ออกไปอีก 1 สัปดาห์ ถึงวันที่ 16 กรกฎาคม
กลาดิส เบเรจิเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่รวมถึงนครซิดนีย์ที่มีประชากร 5 ล้านคนแห่งนี้ด้วย กล่าวว่า สายพันธุ์เดลตาเป็นตัวเปลี่ยนเกม ไวรัสสายพันธุ์นี้แพร่กระจายและติดเชื้อได้เร็วยิ่งกว่าไวรัสชนิดใดที่เคยพบมา
นับแต่คนขับรถรับส่งลูกเรือสายการบินระหว่างประเทศรายหนึ่งติดเชื้อเดลตาเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อแล้ว 350 คนและยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวันพุธอีก 27 คน เพิ่มจาก 18 คนในวันก่อน
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของออสเตรเลียยังนับว่าน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศ โดยมีแค่ราว 30,800 คน เสียชีวิต 910 คน ชาวออสเตรเลียฉีดวัคซีนครบแล้วไม่ถึง 10% ของประชากร 25 ล้านคน
เกาหลีใต้ยอดติดเชื้อพุ่ง 1,212 คน เร่งตรวจเชิงรุก ขอความร่วมมือ งดเดินทาง สกัดโควิด-19 ระบาด
นายโอห์ เซฮุน นายกเทศมนตรีกรุงโซล เกาหลีใต้ เปิดเผยว่า รัฐบาลท้องถิ่นของกรุงโซลจะลดตารางการเดินรถเมล์และรถไฟใต้ดินในกรุงโซลลงร้อยละ 20 โดยเฉพาะรถเมล์จะเริ่มลดการเดินรถในวันพฤหัสบดีนี้ ส่วนตารางการเดินรถไฟใต้ดินจะเริ่มลดในวันศุกร์นี้ ตั้งแต่เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป โดยนายโอห์ขอความร่วมมือให้ประชาชนงดการเดินทางในกรณีไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เทศบาลกรุงโซลจะตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อให้มีเตียงคนไข้เพิ่มเติมราว 2,000 เตียงภายในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ นายโอห์ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของกรุงโซล ขยายพื้นที่ ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในเมืองหลวงให้ครอบคลุมมากขึ้น ขอให้เจ้าของและพนักงานของโรงเรียนกวดวิชาของเอกชน ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ร้านคาราโอเกะและร้านอินเตอร์เน็ตตรวจโรค ให้กับทุกคนในองค์กรเพื่อลดการแพร่ระบาด พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ตรวจโรคเพิ่มรวม 51 แห่งทั่วกรุงโซล จากเดิม 26 แห่ง
ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดในวันนี้ เกาหลีใต้พบผู้ป่วยใหม่ 1,212 คน สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคมปีก่อน มีผู้ป่วยสะสม 162,753 คน เสียชีวิต 2,033 ราย
พรุ่งนี้!นายกฯญี่ปุ่นเตรียมประกาศมาตรการฉุกเฉินกรุงโตเกียว
นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะประกาศผลการพิจารณาขยายระยะเวลามาตรการกึ่งฉุกเฉินในวันพรุ่งนี้ หลังมีข้อเสนอให้รัฐบาลญี่ปุ่นพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวอีกครั้ง เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ก่อนที่การแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนจะเปิดฉากขึ้นในเมืองหลวงของญี่ปุ่น โดยในวันนี้ กรุงโตเกียวพบผู้ติดเชื้อสูงถึง 920 คน ในวันนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพ.ค.
พิษโควิดระลอก3 กกร.หั่นประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 64 เหลือโต 0.0- 1.5%
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ( กกร.) มีมติปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 เหลือขยายตัวได้ในกรอบ 0.0- 1.5% จากเดิมที่เดือนมิถุนายน ประมาณการขยายตัวในกรอบ 0.5-2.0 % เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่รุนแรงและยาวนานขึ้นกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา ทำให้ต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการระบาด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจ การจ้างงานและรายได้แรงงาน ในพื้นที่ควบคุม นอกจากนี้ มาตรการจำกัดการเดินทางและข้อจำกัดในการกักตัว คาดว่ายังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในประเทศตลอดช่วงไตรมาสที่สาม และอาจจะกระทบแผนการเปิดประเทศได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโควิด-19 และมาตรการเพิ่มเติมของรัฐ
ด้านการส่งออก คาดว่าจะขยายตัว 8-10 % เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 3% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวดีกว่าคาด ภายใต้เงื่อนไขสามารถควบคุมการระบาดในกลุ่มแรงงานภาคอุตสาหกรรมได้ และการฉีดวัคซีนให้แรงงานภายใต้ ม.33 ได้ทั่วถึง ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ในกรอบ 1- 1.2%
หุ้นร่วง 14.83 จุด รับยอดติดเชื้อโควิด-19 ยังพุ่งสูง
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,576.60 จุด ลดลง 14.83 จุด มูลค่าการซื้อขาย 82,477.06 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง หลุดแนวรับสำคัญที่ 1,580 จุด จากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับสูง ทำให้วิตกจะมีมาตรการคุมเข้มสกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 ออกมาอีก ซึ่งนักลงทุนก็กังวลจะมีการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ จึงขายลดความเสี่ยงออกมาก่อน อีกทั้งตลาดฯไม่มีปัจจัยหนุน ประกอบกับราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงด้วย
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ หลังสัญญาน้ำมันดิบที่ร่วงลงส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์กดดันหุ้นกลุ่มส่งออก ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 28,366.95 จุด ร่วงลง 276.26 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบในวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากข่าวที่จีนดำเนินการสอบสวนบริษัทเทคโนโลยี เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลระดับประเทศ ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 27,960.62 จุด ลดลง 112.24 จุด
ประธานาธิบดีเฮติ ถูกลอบสังหารภายในบ้านพัก
นายคล้อด โจเซฟ รักษาการนายกรัฐมนตรีเฮติ แถลงในวันนี้ว่า นายโจเวเนล มอยเซ ประธานาธิบดีเฮติ ได้ถูกลอบสังหารเมื่อวานนี้ โดยกลุ่มติดอาวุธที่ได้บุกเข้าไปยังบ้านพัก นายโจเซฟยังคงประณามการโจมตีครั้งนี้ว่า เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนและไร้มนุษยธรรม อย่างไรก็ดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเฮติ และหน่วยงานอื่นๆของรัฐบาลยังคงสามารถควบคุมสถานการณ์ในขณะนี้ ส่วนนางมาร์ตีน มอยเซ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง กำลังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ทั้งนี้ เหตุลอบสังหารประธานาธิบดีดังกล่าวเกิดขึ้น ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง และภาวะไร้เสถียรภาพในเฮติ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของการก่อเหตุรุนแรงของขบวนการอาชญากรรม