กรมควบคุมมลพิษ เสนอใช้สาร'ออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์'สกัดสารสไตรีนปะทุ

          สภาพอากาศในพื้นที่ ที่เกิดไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ อ.บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศรอบพื้นที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงาน หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด อ. บางพลี จ. สมุทรปราการทุกชั่วโมง ปรากฏว่า คุณภาพอากาศเป็นปกติแล้ว โดยในรัศมีเกินกว่า 1 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ ไม่พบทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก สารอินทรีย์ระเหยง่าย และก๊าซอื่นๆ ที่มีความเข้มข้นเกินมาตรฐานที่กำหนด พบว่า

1) บริเวณภายในโรงงานตรวจไม่พบทั้งสารสไตรีนและฟอร์มัลดีไฮด์

2) บริเวณด้านหน้าโรงงานฯ ตรวจไม่พบสารสไตรีน และตรวจพบฟอร์มัลดีไฮด์ในระดับ 0.007 ppm ซึ่งอยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อประชาชน และ

3) บริเวณชุมชนใกล้เคียงโรงงาน 3 จุด ในรัศมี 1-2 กิโลเมตร ตรวจไม่พบทั้งสารสไตรีน และฟอร์มัลดีไฮด์

          โดยกรมควบคุมมลพิษ ได้ประสานข้อมูลการตรวจวัดผลตรวจวัดไอระเหยสารเคมีในบรรยากาศรายวันให้กับศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อการตัดสินใจยุติการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ต่อไป

          ส่วนระยะรัศมี 1 กิโลเมตรแรกยังมีเกินเป็นระยะๆ ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการได้ประกาศให้ประชาชนที่มีบ้านอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 2-5 กิโลเมตร กลับเข้าบ้านเรือนได้ สำหรับผลการเก็บตัวอย่างน้ำส่งตรวจในห้องปฏิบัติการคาดว่า จะทราบผลช่วงบ่ายนี้ แต่จะเพิ่มจุดเก็บ ตัวอย่างน้ำอีก เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชนในพื้นที่โดยรอบ

          อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวต่อว่า ยังไม่ทราบปริมาณสารสไตรีนที่โรงงานเก็บไว้ว่า ยังคงหลงเหลืออยู่เท่าไร เพราะการแจ้งปริมาณเก็บสารเคมีอันตราย ทางโรงงานแจ้งกับอุตสาหกรรมจังหวัด สมุทรปราการ สิ่งที่ยังคงเป็นห่วงคือเรื่องการควบคุมไฟที่อาจปะทุขึ้นอีก หากอุณหภูมิสูงขึ้นจนถึงจุดวาบไฟของสารสไตรีน ทำให้ในช่วงบ่ายนี้ จะร่วมหารือกับคณะกรรมการแก้ปัญหาไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ ของจ. สมุทรปราการ เกี่ยวกับการใช้สาร “ออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์” ฉีดพ่นจุดเกิดเหตุ ซึ่ง“ออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์” จะทำปฏิกิริยา โดยทำให้สารสไตรีนที่โรงงานเก็บไว้ใต้ดินแข็งตัวและติดไฟยากขึ้น โดยประสานบริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและวางแผนวิธีการปฏิบัติ หากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสมุทรปราการพิจารณาเห็นชอบก็จะเร่งดำเนินการ

          นอกจากนั้น อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ยังขอให้ทุกฝ่ายร่วมผลักดันร่างพ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมฉบับใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขเนื่องจากมีบทบังคับที่ละเอียดครอบคลุมในการป้องกันและเยียวยาโดยเฉพาะการให้โรงงานรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่งต่อความเสียหายต่อทั้งประชาชนและสิ่งแวดล้อม  

          สถานการณ์คุณภาพอากาศจังหวัดสมุทรปราการ  วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 ณ เวลา 13.00 น.พบว่าคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยผลการตรวจวัด เวลา 13.00 น. สรุปได้ดังนี้

• ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชม. ตรวจวัดอยู่ในช่วง 5 – 23 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)

• ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชม. ตรวจวัดอยู่ในช่วง 18 – 37 มคก./ลบ.ม

• ก๊าซโอโซน เฉลี่ย 8 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ในช่วง 9 - 24 ส่วนในพันล้านส่วน (ppb)

• ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ เฉลี่ย 1 ชม. ตรวจวัดได้ในช่วง 6 - 14 ppb

• ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เฉลี่ย 1 ชม. ตรวจวัดได้ในช่วง 0 - 4 ppb

• ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ เฉลี่ย 8 ชม. ตรวจวัดได้ในช่วง 0.1 - 0.69 ส่วนในล้านส่วน (ppm)

นอกจากนี้ ยังได้ตรวจวัดสารอินทรีย์ระเหยง่าย (Total VOCs) ใน 4 จุด พบว่า

1) บริเวณภายในรั้วโรงงานใกล้ถังเก็บสารเคมี มีค่า 108.5 ppm

2) บริเวณภายในรั้วโรงงาน มีค่า 0.3 ppm

3) บริเวณด้านหน้าโรงงานห่างออกมา 5 เมตร มีค่า 0.7 ppm

4) บริเวณห่างรั้วโรงงานออกไป 50 เมตร มีค่า 0 ppm

CR:เพจ กรมควบคุมมลพิษ