ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha" ยืนยันการที่บุคลากรสาธารณสุขต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 และไม่ใช่ซิโนแวค เพื่อลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ทั้งยืนยันว่า ความมีวินัยและการฉีดวัคซีนสามารถเอาชนะโรคโควิด-19 ได้
โดยระบุว่า
"ที่บุคลากรสาธารณสุขต้องการเข็มที่สามในกรณีที่ได้วัคซีนทางการไปแล้ว เพื่อ
1- ทำให้มีโอกาสน้อยที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ ที่จะติดเชื้อและกลายเป็นผู้แพร่เชื้ออย่างมีประสิทธิภาพที่สุดไปให้คนป่วยที่ดูแล
2- ถ้าติดเชื้อหมายความว่าต้องหยุดปฏิบัติงานและพลอยทำให้เพื่อนร่วมงานตัองถูกกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อไปอีกและดูแลผู้ป่วยไม่ได้
3- ทั้งหมดนี้เพื่อประโยชน์โดยส่วนรวม
4- และวัคซีนเข็มต่อไป ไม่ควรเป็นชิโนแวค"
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า
"การควบคุมโรคระบาดอาศัยทั้ง ความร่วมมือของประชาชนในการรักษาวินัยการคัดกรองอย่างเข้มข้นเป็นระยะสม่ำเสมอเข้าถึงได้ทุกคนและวัคซีน
จีนใช้ sinovac แต่ที่คุมได้เป็นเพราะมีการตรวจคัดกรองทุกคนเป็นระยะสม่ำเสมอทำให้สามารถแยกตัวคนที่ปล่อยเชื้อออกไปได้ และทันทีที่พบการติดเชื้อจะมีการตรวจอย่างเข้มข้นหลายล้านคนภายในระยะเวลาไม่กี่วัน
ดังนั้นวัคซีน จะปฎิบัติตัวเป็นตัวช่วยทำให้อาการไม่มากแม้ติดเชื้อ
และแม้ว่าจะป้องกันการติดเชื้อได้ไม่ดีเท่าวัคซีนอื่นแต่การคัดกรองดีเยี่ยมทำให้ชดเชยประเด็นนี้ไป พร้อมกับมีการปฏิบัติตามคำสั่งทางการอย่างเคร่งครัด
เช่นกัน ประเทศที่ใช้วัคซีนที่ถือว่าดีและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด เช่น ไฟเซอร์ โมเดอร์นา แต่ถ้าเริ่มไม่มีวินัยและมีไวรัสที่ดื้อวัคซีน การระบาดก็จะกลับเป็นขึ้นมาใหม่ วนเวียนอยู่ตามเดิมแม้ว่าการระบาดจะไม่รุนแรงเท่าเก่า
แต่ในที่สุด วัคซีนเองจะพัฒนาจนถึงขีดที่ครอบคลุมได้กว้างขวางมากขึ้นและหวังว่าจะสามารถสยบไวรัสจนกลายเป็นโรคประจำถิ่นไป ขึ้นอยู่กับว่าตามรายทางกว่าจะถึงจุดนั้น เราสูญเสียไปมากเพียงใด และพิสูจน์ให้เห็นอะไรได้มากมาย ดังที่เห็นในปัจจุบันนี้"
...