ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 07.30 น.วันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2564

07 กรกฎาคม 2564, 06:52น.


หมิงตี้เคมีคอลแสดงความเสียใจเหตุเพลิงไหม้



          บริษัทหมิงตี้เคมีคอล ออกจดหมายแสดงความเสียใจต่อเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บสารเคมีระเบิดภายในโรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก ตั้งอยู่เลขที่ 87 หมู่ 15 ซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.09 น. ของวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งส่งผลให้บ้านเรือนและโรงงานที่อยู่โดยรอบรัศมี 500 เมตรได้รับความเสียหายและมีผู้เสียชีวิต 1 ราย



          โดยในจดหมาย บริษัท หมิงตี้เคมีคอล ระบุว่า ขอแสดงความเสียใจที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในครั้งนี้ และขอแสดงความเสียใจต่อโรงงานผู้ผลิตที่อยู่ใกล้เคียง บ้านเรือนที่อยู่อาศัย และบุคลากรที่ได้รับผลกระทบ บริษัทขอแสดงความจริงใจอย่างเต็มที่ในการชดเชย โดยได้รับทราบว่าเหตุการณ์นี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และมีนักดับเพลิงเสียชีวิต 1 รายในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ บริษัทขอแสดงความเสียใจ นอกจากนี้บริษัทฯ ขอแสดงความนับถือและขอบคุณรัฐบาลไทยและทุกภาคส่วนที่ร่วมกู้ภัย หน่วยงานกู้ภัย อาสาสมัครและประชาชนที่ให้ความช่วยเหลือ บริษัทฯ ขออภัยอีกครั้งต่อการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้และการสร้างความไม่สบายใจให้กับสังคม หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว บริษัทฯ จะรับผิดชอบและชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นและเกี่ยวข้องต่อไป



เพลิงปะทุอีกรอบ เตือนภัยรัศมี 1 กม.



          กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า มีบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 100 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 40 คน ขณะนี้เพลิงสงบแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังการปะทุอย่างต่อเนื่อง



          เจ้าหน้าที่ใช้ความพยายามในการดับเพลิงเป็นเวลานานกว่า 20 ชั่วโมง ซึ่งจนถึงเมื่อวานนี้ก็ยังมีการระเบิดเกิดขึ้นอีก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกันผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีกหลายคน



          ในส่วนของผู้ได้รับผลกระทบซึ่งทยอยเข้าแจ้งความที่สภ.บางแก้ว เพื่อเรียกค่าเสียหายจากบริษัท พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.สมุทรปราการ กล่าวว่าแยกการดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน คือแพ่งและอาญา หากผลจากการตรวจสอบพบว่าเป็นความประมาทจะดำเนินคดีอาญา แต่หากตรวจสอบพบว่าเกิดจากเหตุสุดวิสัยจะดำเนินคดีทางแพ่ง ในเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้นมีประชาชนในพื้นที่ 160 ราย เข้าแจ้งความที่สภ.บางแก้ว ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบบ้านเรือนเสียหาย ยืนยันว่าตำรวจไม่นิ่งนอนใจ จะพยายามติดตามคดีให้ทุกฝ่ายอย่างแน่นอน



          ขณะที่การดูแลบ้านพักอาศัยใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ได้จัดกำลังสายตรวจ ออกตรวจตราบ้านเรือนประชาชนที่ต้องย้ายไปอยู่ในสถานที่พักพิงชั่วคราวเพราะอาจเกิดเหตุมิจฉาชีพฉวยโอกาสเข้าไปลักทรัพย์ตามบ้านเรือน



นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่าในรัศมี 1 กิโลเมตร ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากสารเคมีที่ต้องระวังคือ สารโซเว้นท์ และสารสไตรีนโมโนเมอร์ องค์ประกอบทำเม็ดพลาสติก ที่มีสารพิษซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย ส่วนการตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กลับสู่ภาวะปกติ จึงเตรียมพิจารณาลดพื้นที่ควบคุม เพื่อให้ประชาชนกลับมายังที่พักอาศัยได้ โดยทาง คพ.จะเฝ้าติดตามคุณภาพอากาศ 3 วัน



          แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือฝน หากตกลงมาจะชะสารเคมีลงใต้ดิน แหล่งน้ำ ซึ่งจะยากต่อการควบคุมและการเข้าไปบำบัดเพื่อแก้ไขปัญหา



          นายวีระกิตติ์ รันทกิจธนวัชร์ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ยังมีสารเคมีตกค้างอีก 4-5 ถัง ซึ่งเจ้าของโรงงานจะต้องส่งไปทำลายทั้งหมด และจัดการเศษซากความเสียหายภายในโรงงานทั้งหมดจะต้องแจ้งดำเนินการตามพ.ร.บ.วัตถุอันตราย เนื่องจากมีการปนเปื้อน



          นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีพื้นที่ประสบสาธารณภัย 4 ตำบล 30 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.ราชาเทวะ หมู่ที่ 1-15 จำนวน 22,563 ครัวเรือน ประชากร 34,736 คน, ต.บางพลีใหญ่ หมู่ที่ 13-17 จำนวน 7 หมู่บ้าน 12,363 ครัวเรือน ประชากร 18,490 คน, ต.บางแก้ว หมู่ที่ 6, 7, 8, 10, 13, 14 จำนวน 17,188 ครัวเรือน 23,277 คน และ ต.บางโฉลง หมู่ที่ 4-5 จำนวน 4,177 ครัวเรือน ประชากร 4,413 คน ขณะนี้ภัยยังไม่สิ้นสุด มีราษฎรที่ประสบภัยโดยรวม 80,916 คน บาดเจ็บ 33 คน เสียชีวิต 1 ราย และยังไม่อนุญาตให้ประชาชนเข้าพื้นที่ในรัศมี 5 กิโลเมตร ต้องติดตามสถานการณ์ภายใน 1-2 วันอาจจะกลับเข้าบ้านได้



...

ข่าวทั้งหมด

X