กรมควบคุมมลพิษ พบสารฟอร์มัลดีไฮด์ สูงเกินค่ามาตรฐานที่ รง.หมิงตี้ ห่วงฝนตกสารเคมีไหลลงน้ำ

          หลังจากที่เมื่อช่วงเช้านี้ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟไหม้สารเคมีและแรงระเบิดจากโรงงานหมิงตี้ เคมีคอล ในซ .กิ่งแก้ว 21 อ.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 

          นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เพิ่มเติม สภาพอากาศเช้าวันนี้ว่าดีขึ้นกว่าเมื่อวาน แต่ขอให้ควบคุมพื้นที่ 1-2 กิโลเมตรไว้ก่อน เพราะค่าที่ตรวจวัดฟอร์มัลดีไฮด์ ยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา หากสัมผัสโดยตรง จะมีอาการวิงเวียนศีรษะ ถ้าสูดดมไปมากๆ ก็จะเป็นสารก่อมะเร็งได้

          นอกจากนี้ ยังมีสารสไตรีน บางส่วนกระจายอยู่ในพื้นที่บริเวณแทงค์เก็บ ซึ่งถ้าสารเคมีเจออุณหภูมิความร้อน ก็จะทำให้เกิดไฟลุกขึ้นมาได้อีก แต่คิดว่าในวันนี้น่าจะเปิดพื้นที่ที่ปลอดภัยได้มากขึ้น

          อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า ไม่ห่วงสารเคมีในอากาศ เพราะจะมีการกระจายและเจือจางในอากาศ จนไม่กระทบกับร่างกาย ยืนยันว่า ในระยะไกลไม่กระทบแน่นอน จะห่วงสารเคมีที่ตกค้างจากการดับเพลิง ที่จะไหลลงลำรางสาธารณะ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบมาตรฐานไว้แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างรอผล ห่วงเรื่องฝน หากมีฝนตกลงมาจะทำให้สารเคมีไหลลงไปในน้ำมากขึ้น

*ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องสารฟอร์มัลดีไฮด์ จาก สสปท.สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน(องค์การมหาชน) 

http://www.tosh.or.th/index.php/blog/item/812-2020-09-25-07-58-25

จิสด้า ร่วมตรวจสอบผลกระทบสารเคมี

          ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมในจุดที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ กลุ่มควันทำวงรอบบริเวณกว้างมาก ช่วงเย็นวาน ก็มีภาพเปลี่ยนไปบ้างตามแรงลม ถึงช่วงเช้านี้ ภาพควันไฟก็ลดลงไป นอกจากนี้ จิสด้า จะช่วยตรวจสอบแหล่งน้ำที่อาจได้รับผลกระทบด้วย ตามที่กรมควบคุมมลพิษ ตรวจสอบอยู่ จะดูในระยะรัศมี 5 กิโลเมตรด้วย อย่างน้อยขออย่าให้ฝนตกลงมา บริเวณจุดเกิดเหตุ และเมื่อเวลา 10.30น.ลมยังพัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ รัศมีของผลกระทบก็จะแคบลงมา

จนท.ฉีดโฟม คุมแทงค์สารเคมี กันไฟลุกซ้ำอีก

          นายเลอพงศ์ สวนสังข์ หัวหน้าชุดปฎิบัติการกู้ภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานมาตลอดภารกิจ ใช้น้ำยาโฟม ระดมฉีด ห่วงว่า หากหยุดฉีดโฟม สารเคมีจะปะทุกับเปลวไฟขึ้นมา เพราะด้านล่างยังมีความร้อนอยู่ คงต้องใช้เวลาฉีดโฟมอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุมอุณหภูมิให้เย็นลงที่สุด ยังบอกเวลาไม่ได้ที่จะหยุดการฉีด ขอให้เจ้าหน้าที่คำนึงถึงความปลอดภัยให้มากที่สุด  

          จากการตรวจสอบ พบว่าแสงเพลิงยังมีจุดเล็กๆ จุดเดียว กลุ่มควันก็หายไปบ้างแล้ว จุดสำคัญคือบ่อที่เก็บสารเคมี เจ้าหน้าที่พยายามไม่ให้สารเคมีเกิดปฏิกิริยาซ้ำขึ้นมา กรมควบคุมมลพิษก็คอยตรวจวัดคุณภาพ เป็นเวลาตลอด

สนามบิน ตั้งเครื่องวัดอากาศ-แรงลม

          นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพิ่มเติมเรื่องของแรงลมจากจุดเกิดเหตุว่าไม่ทำให้สารเคมีที่อาจติดมากับควันไฟ ลอยมาถึงท่าอากาศยาน สามารถให้เครื่องบินขึ้น-ลงได้ตามปกติ ยืนยันว่า ไม่มีสารเคมีสะสมแน่นอน

          นอกจากนี้ ท่าอากาศยาน ยังรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ สามารถนำรถมาจอดที่อาคารจอดรถระยะยาว สามารถรองรับรถได้ถึง 600 กว่าคัน รวมทั้งได้ นำอาหาร-น้ำ เตรียมไว้ให้ด้วย

          ท่าอากาศยาน จะตั้งเครื่องตรวจวัดค่าอากาศ รวมทั้งตรวจแรงลม รายงาน ทุก 4 ชม. เพื่อจะได้ประเมินสถานการณ์ตลอด คิดว่าทิศทางลมไม่น่าจะเปลี่ยนไปจากเดิมมาก คือจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก ซึ่งอาจจะมีบ้างที่ในช่วงเย็นอาจเปลี่ยนไปทางทิศเหนือบ้างเพราะวันนี้ทราบว่าอาจมีฝนตกลงมา

CR:ภาพจาก ‘เรียกชั้นว่าอาซัล’