แนวทางการส่งเสริมการส่งออก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ยอมรับว่าหนักใจเรื่องตัวเลขส่งออก เพราะมีปัญหาผู้ซื้อหลัก คือ สหรัฐฯ และยุโรป ที่เศรษฐกิจไม่สู้ดี การลงทุนไม่เพิ่ม แต่จะพยายามกระตุ้นตัวเลขส่งออกกับประเทศเหล่านี้อย่างเต็มที่ ส่วนเศรษฐกิจของไทยจะดีขึ้น โดยเฉพาะการจ้างงานภายในประเทศ ขณะนี้ เตรียมเปิดโรงงานจำนวน 4,200 โรงงาน ปัจจุบันเปิดไปแล้ว 2,401 โรงงาน ที่เหลือคาดจะแล้วเสร็จภายใน 4-5 เดือนนี้อย่างแน่นอน การเปิดโรงงานส่งผลให้เกิดการจ้างงาน กระตุ้นเงินลงทุนถึง 4.5 แสนล้านบาท ม.ร.ว.ปรีดิยาธร หารือร่วมกับผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานเลขาธิการองค์การพัฒนาอุตสาหกรรม แห่งสหประชาชาติ ว่า มีการหารือเรื่องการปรับปรุงภาคอุตสาหกรรม การส่งเสริมการลงทุน ที่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการประหยัดพลังงาน ทางยูเอ็น รู้สึกสบายใจที่ไทยเดินมาถูกทาง โดยเฉพาะการสนับสนุนเพื่อนบ้าน ให้เติบโตเคียงคู่กัน ด้วยการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านด้วย รองนายกฯ กล่าวถึง การใช้จ่ายภายในประเทศ ค่อนข้างพอใจ เพราะตัวเลขเดือนมกราคม มียอดสูงถึง 4.01 หมื่นล้านบาท ต่อเดือน เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในเดือนเดียวกัน มีตัวเลขที่สูงกว่ามาก เพราะมีการเปิดโรงงาน เกิดการจ้างงานเพิ่ม น้ำมันราคาถูกลง ให้มีเงินเหลือไปซื้อสิ่งของอื่น ๆ ตลอดจนเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีกำหนดจะจ่ายในเดือนตุลาคม มาออกในช่วงเดือนธันวาคม จึงส่งผลให้ยอดใช้จ่ายในเดือนมกราคม สูงกว่า 4 หมื่นล้าน อย่างไรก็ตามไม่คิดว่ายอดการใช้เงินดังกล่าวจะสูงได้นาน แต่หากในเดือนกุมภาพันธ์ ถึงมีนาคม ยังคงมียอดการใช้จ่าย อยูที่ 3.8 หมื่นล้านบาท แม้จะลดลงก็ยังถือว่าน่าพอใจ ส่วนที่รัฐบาลจีน เสนอรูปแบบการลงทุนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ รางมาตราฐานเส้นหนองคาย – นครราชสีมา แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทาง 873 กม. ให้กู้ร่วมกับทางธนาคารเพื่อการส่งออก โดยฝ่ายจีนเสนออัตราดอกเบี้ยสูงกว่า องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือ ไจก้า รองนายกฯ ระบุว่ายังไม่ได้รับรายงานในประเด็นดังกล่าว เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา เพราะสามารถกู้เงินในประเทศได้ ประเด็นสำคัญอยู่ที่การตรวจสอบต้นทุนราคา