นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระเบิดภายในโรงงานของบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ในซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการเพิ่มเติมว่าการทำฝนเทียมจะไม่เหมาะกับสถานการณ์ระงับเหตุในครั้งนี้ เนื่องจาก อาจได้รับผลกระทบจากสารเคมีที่ปนเปื้อนได้ จึงได้สั่งการให้ยกเลิกภารกิจดังกล่าวที่เตรียมการไว้แล้ว
ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก “กรมฝนหลวงและการบินเกษตร” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "จากกรณีเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ของบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยบรรเทาฝุ่นควันจากเหตุดังกล่าว โดยในช่วงบ่าย หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง หากเข้าเงื่อนไขการทำฝน จะวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือทันที!"
ศูนย์ติดตามสถานการณ์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยจังหวัดสมุทรปราการได้ตั้งจุดอพยพกรณีเหตุไฟไหม้โรงงานพลาสติก ซอยกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ จำนวน 8 จุด
1) โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์
2) อบต.บางพลีใหญ่ (หลังเก่า)
3) วัดบางพลีใหญ่กลาง
4) โรงเรียนบางกระบือ
5) ศาลพ่อหลวง
6) วัดบางโฉลงใน
7) วัดบางโฉลงนอก
8) วัดบางพลีใหญ่ใน
ส่วนยอดผู้อพยพ ขณะนี้ 1,892 คนแล้ว โดย อบต.บางพลีใหญ่ได้ให้การดูแลประชาชนผู้อพยพในเบื้องต้น ด้านสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการได้เข้าดูแลตามมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด - 19 อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ปภ.ได้ส่งรถประกอบอาหารและรถผลิตน้ำดื่มจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 ปทุมธานี เขต 2 สุพรรณบุรี และเขต 16 ชัยนาทเข้าดูแลร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกแจกจ่ายแก่ผู้อพยพที่ อบต.บางพลีใหญ่และวัดบางพลีใหญ่กลางเข้าดูแลร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกแจกจ่ายแก่ผู้อพยพที่ อบต.บางพลีใหญ่และวัดบางพลีใหญ่กลาง