ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2564

05 กรกฎาคม 2564, 19:19น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 5  กรกฎาคม พ.ศ.2564



สายพันธุ์เดลตา ยึดพื้นที่กทม.ระบาดทุกเขตแล้ว



          การติดตามสายพันธุ์โควิด นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึง ข้อมูลการจำแนกตามสายพันธุ์ที่เฝ้าระวัง ณ เวลา 18.00 น. วันที่ 2 ก.ค. 2564 ภาพรวมทั้งประเทศเฝ้าระวังตั้งแต่ 1 เม.ย.-2 ก.ค.2564 เป็นสายพันธุ์อัลฟา(อังกฤษ) 81.98 % เดลตา(อินเดีย) 16.36 % และเบตา(แอฟริกาใต้) 1.66 % ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตรวจสายพันธุ์ในภาพรวมประเทศพบว่า สายพันธุ์เดลตา 32.2% อัลฟา 65.1 % และเบตา 2.6 % หากพิจารณาเฉพาะพื้นที่กทม. สายพันธุ์เดลตา 52 % อัลฟา 47.8 % เบตา 0.2 %  สถานการณ์โควิดในกทม.การแพร่ระบาดใน กทม.ขณะนี้เป็นสายพันธุ์เดลตา กระจายอยู่ในทุกเขต ทางตอนเหนือแชมป์หลักสี่ไปทางทิศตะวันตกตอนล่างมากพอสมควรและกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ  ถือว่าเป็นการเข้ามาค่อนข้างเร็วกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย ในขณะที่ต่างจังหวัดก็เพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็วพบแล้วเดลตา 18 % ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยพบใน 47 จังหวัด ส่วนอัลฟาพบ 77.6 % และเบตา 4.4 %



           นพ.ศุภกิจ กล่าวอีกว่า สายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) สัปดาห์ที่แล้วเพิ่ม 50 กว่าราย แต่ยังจำกัดวงอยู่ที่จ.นราธิวาสมีกระจายไปจังหวัดใกล้เคียงอยู่พอสมควรที่ จ.สุราษฎร์ธานี มียืนยัน 1 ราย นครศรีธรรมราช 3 ราย กระบี่ 1 ราย ส่วนกรุงเทพฯเพิ่มอีก 2 รายซึ่งเป็นญาติของรายแรกที่พบการติดเชื้อ หมายความว่า พื้นที่กรุงเทพฯยังไม่ได้มีการกระจายไปไหนแต่ยังเป็นผู้ที่ติดจากรูปที่มาจากจังหวัดนราธิวาส



          ในขณะนี้กรมวิทย์ฯ กำลังดำเนินการทดสอบภูมิคุ้มกันหลังได้รับวัคซีนโควิด โดยวางแผนจะทดสอบทั้งในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 8 กลุ่ม ตัวอย่างเลือดกลุ่มละอย่างน้อย 5 ตัวอย่าง คือ 1.ซิโนแวค 2 เข็ม มีแล้ว 12 ตัวอย่าง 2.แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม มีแล้ว 31 ตัวอย่าง 3.แอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม 4.ซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า มีแล้ว 8 ตัวอย่าง 5. ซิโนแวค 2 เข็มตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า 6.mRNA 2 เข็ม มีแล้ว 20 ตัวอย่างจากผู้ที่เดินทางไปฉีดหรือมาจากต่างประเทศ 7.ซิโนแวค 1 เข็มตามด้วย mRNA และ8.แอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม ตามด้วย mRNA โดยในส่วนที่มีตัวอย่างอยู่แล้วคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ส่วนกลุ่มอื่นก็จะทำให้เร็ว เพื่อให้ได้ข้อสรุปถึงโมเดลที่เหมาะสมในการฉีดวัคซีนสำหรับประเทศไทย จะเสนอฝ่ายนโยบายในการพิจารณาต่อไป



นนทบุรี ติดเชื้อเพิ่ม 257 คน



          สรุปย่อ ผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 จ.นนทบุรี  จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 257 คน(เชิงรุก 44 คนชุมชนหลังเมเจอร์ห้าแยกปากเกร็ด ตรวจ 400 คน พบ 11.25% เชิงรับ 210 คน)



สาเหตุติดเชื้อที่สำคัญ : ครอบครัว /ชุมชนเสี่ยง / ที่ทำงาน / ตลาด เพศหญิง 108 คน เพศชาย 149 คน  ต่างชาติ 10 คน (พม่า 6 คน ลาว 2 คน กัมพูชา 1 คน และฟิลิปปินส์ 1 คน)



ภูมิลำเนา -อำเภอปากเกร็ด 105 คน อำเภอบางบัวทอง 53 คน อำเภอเมือง 53 คน อำเภอบางใหญ่ 20 คน อำเภอบางกรวย 17 คน อำเภอไทรน้อย 9 คน มีอาการ 58 คน คิดเป็น 22 % ไม่มีอาการ 200 คน คิดเป็น 78 %



สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน จำนวน 257 คน คัดกรองก่อนผ่าตัด 3 คน คัดกรองเชิงรุก 44 คน



- ในครอบครัว 59 คน



- เพื่อน/เพื่อนร่วมงาน 10 คน



- สถานที่กักตัว LQ 3 ราย, ผู้ที่กักตัวที่บ้าน HQ 6 คน



- ผู้ช่วยพยาบาล คลินิก ARI รพ.นนทเวช 1 คน



- พยาบาลกรมราชทัณฑ์ 1 ราย, พยาบาล Ward 5 รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์ 1 คน



- เจ้าหน้าที่ของ รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ 1 คน(พนักงานคอมพิวเตอร์)



- ขสมก เขต 6 ข้างสถานีตำรวจลอยฟ้า 1 คน



- ตลาดนัดเลียบคลองถนน ,ตลาดฤทธิสุข 1 คน



ผู้ว่าฯเชียงใหม่ส่งคนแจ้งดำเนินคดี 'พิมฐา' ฝ่าฝืนคำสั่งคกก.โรคติดต่อฯ



          นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบอำนาจให้ นายวิชัย ว่องสาริการ นิติกรปฏิบัติการ ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.อดุลย์ สายสม รอง ผกก.สภ.ภูพิงค์ จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ฐานิดา มานะเลิศเรืองกูล หรือ “พิมฐา” อายุ 28 ปี โดยกล่าวหาว่า “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 61/2564 เรื่อง มาตรการควบคุมผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่” เหตุเกิดที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2564 เวลา 09.15 น.

          เหตุการณ์ดังกล่าวปรากฏตามไทม์ไลน์ผู้ป่วยโควิด ซึ่งเดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 26 มิถุนายน 2564 ในเวลา 09.15 น. โดยพ่อขับรถมารับที่สนามบินเชียงใหม่ จากนั้นได้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆหลายแห่ง กระทั่งวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ได้เข้ารับการตรวจโควิด-19 พบผลเป็น บวก และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่



อินโดฯเผยฉีดวัคซีน'ซิโนแวค' 2 เข็ม ลดป่วยหนัก-ตาย'กลุ่มผู้สูงวัย'ได้กว่า 90%



          ผลการศึกษาจากสำนักงานวิจัยและพัฒนาสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย ซึ่งพบว่า วัคซีนโควิด-19 สัญชาติจีน ยี่ห้อซิโนแวค เมื่อฉีดครบ 2 เข็มแล้วมีประสิทธิภาพดีในกลุ่มผู้สูงอายุ ทั้งลดการติดเชื้อแบบมีอาการ แบบมีอาการป่วยรุนแรง และเสียชีวิต โดยซิโนแวคเป็นวัคซีนที่ถูกใช้มากที่สุดในอินโดนีเซีย นับตั้งแต่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนตั้งแต่เดือน ม.ค. 2564 เป็นต้นมา

          ผลการศึกษาอ้างอิง ณ วันที่ 20 มิ.ย. 2564 ซึ่งประชากรเกือบร้อยละ 12 จากทั้งประเทศ ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ในเวลานั้นอินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อสะสมรวมเกือบ 2 ล้านคน (ปัจจุบันอยู่ที่ 2.2 ล้านคน) และเสียชีวิตสะสมรวม 54,662 ราย ขณะที่ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 2564 พบว่า ผู้ติดเชื้อ 65,667 คน มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ต้องเข้ารับการรักษาในห้อง ICU ในจำนวนนี้ร้อยละ 30 อายุ 50-59 ปี และอีกร้อยละ 42 อายุ 60 ปีขึ้นไป



          ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม สามารถป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการ (symptomatic case) ได้ถึงร้อยละ 86 ตั้งแต่ 14 วันหลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 สามารถป้องกันการติดเชื้อแบบอาการหนักต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล (hospitalization) ร้อยละ 92 และป้องกันการเสียชีวิต (death) ได้ถึงร้อยละ 95



       อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาขัดแย้งกับการสังเกตครั้งก่อนว่าวัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพเพียงร้อยละ 35 ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ในเวลา 14 วันหลังฉีดเข็มแรก ส่วนความสามารถในการป้องกันอาการป่วยหนักและเสียชีวิตไม่ได้แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน



          นางซิติ นาเดีย ทาร์มิซี เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า จากการที่อินโดนีเซียพบผู้ป่วยใหม่เฉลี่ยกว่า 25,000 คนต่อวันในระยะนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียกำชับให้ผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ให้ทำการผลิตเครื่องช่วยหายใจโดยด่วน ระบุว่าตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่โรงพยาบาลในหลายเมือง รวมทั้งเมืองบันดุง,ซุราการ์ตา,และเมืองปาเมกาสัน ขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจ ทั้งราคาเครื่องช่วยหายใจที่มีขายตามท้องตลาดมีราคาแพงกว่าปกติสองเท่า



         ที่ผ่านมา มีคนไข้เสียชีวิตราม 63 ราย เนื่องจากขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจ การที่โรงพยาบาลขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจ ทำให้โรงพยาบาลบางแห่งปฎิเสธ ไม่รับผู้ป่วยใหม่เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะที่โรงพยาบาลบางแห่งตั้งแก้ไขปัญหานี้โดยการตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยใหม่ ในปัจจุบัน อินโดนีเซียมีผู้ป่วยสะสม 2,284,084 คน เสียชีวิต 60,584 ราย



ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ กักกันตนเอง หลังใกล้ชิดกับผู้ป่วยคนหนึ่ง



          โฆษกสำนักพระราชวังเคนซิงตันแห่งอังกฤษ ระบุในแถลงการณ์ว่า ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ รัชทายาทลำดับที่สองแห่งราชวงศ์อังกฤษ เข้าสู่ขั้นตอนการกักกันตนเองในพระตำหนัก หลังอยู่ใกล้ชิดกับบุคคลคนหนึ่งและทราบเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่แล้วว่าบุคคลดังกล่าวตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมทั้งงดการปฏิบัติพระกรณียกิจทั้งหมดในวันนี้

         แถลงการณ์ระบุว่า ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ไม่มีอาการประชวร แต่พระองค์ทำตามมาตรการสาธารณสุข และเริ่มกักกันตนเองในพระตำหนักตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว



         แหล่งข่าวระดับสูงของอังกฤษเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ทรงตรวจสุขภาพ 2 ครั้ง พบว่าผลตรวจเป็นลบ ก่อนเสด็จไปร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน 2 นัด นัดแรกคืออังกฤษพบเยอรมนีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผลปรากฎว่าอังกฤษชนะ 2-0 ประตูและนัดที่สองเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม อังกฤษพบยูเครน ปรากฎว่าอังกฤษชนะยูเครน 4-0 ประตู โดยอังกฤษจะไปพบกับ เดนมาร์ก ที่ชนะเช็ก 2-1 ประตู ในรอบรองชนะเลิศในวันพฤหัสบดีนี้



คอมมานโด ลงพื้นที่ดูแลประชาชน เหตุเพลิงไหม้ กิ่งแก้ว 21



          เหตุไฟไหม้โรงงานย่านกิ่งแก้วส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่โดยรอบ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บังคับการปฏิบัติการพิเศษ นำกำลังจิตอาสาของกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ หรือคอมมานโด กว่า 1 กองร้อย ลงพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ



           พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า จากเหตุระเบิดโรงงานส่งผลให้พี่น้องประชาชนได้ รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว ประกอบกับสถานการณ์ขณะนี้มีท่าทีว่าจะเกิดเหตุซ้ำซ้อน เนื่องจากการข่าว พบว่ายังมีสารเคมีอยู่ใต้พื้นดินอีกเป็นจำนวนมาก



          ด้วยเหตุนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้ประสานผ่านทางตนให้จัดกำลังจิตอาสาเข้าช่วยเหลือเพื่อสนับสนุนภารกิจปฏิบัติหน้าที่จิตอาสาช่วยเหลือชาวบ้านในการอพยพออกจากพื้นที่นอกรัศมี 5 กิโลเมตรให้พ้นเหตุโรงงานอุสาหกรรมระเบิด นอกจากนั้น ยังได้สนับสนุนรถยนต์และรถบัสในการเคลื่อนย้ายคนและข้าวของเฉพาะที่จำเป็น ขณะเดียวกันได้เตรียมประสานเพื่อจัดทำโรงครัวจิตอาสาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ด้วย



ปภ.-กรมโรงงานอุตสาหกรรม เร่งควบคุมไฟไหม้โรงงานผลิตโฟม ยืนยันไม่มีสารเคมีใต้ดิน 5 แสนลิตร



          เหตุไฟไหม้โรงงานบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ย่านบางพลี นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองอธิบดี​กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แถลงรายงานความคืบหน้าว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว 1 บ่อ แต่ยังมีอีก 1 บ่อที่จะต้องใช้อากาศยานเข้าไประงับเหตุ ก่อนที่จะใช้ทีมภาคพื้นดินเข้าตามไป  เบื้องต้นหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน คาดจะสามารถทำให้เพลิงสงบได้ในระยะเวลาไม่นานนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้โฟมผสมน้ำในการรักษาอุณหภูมิจุดที่เกิดเพลิงไหม้ และระดมทีมกู้ภัยจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูอย่างใกล้ชิด



          สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่สรุปว่า เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 29 คน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 70 หลัง ยานยนต์เสียหาย 15 คัน มีผู้อพยพออกมาเกือบ 200 คน เจ้าหน้าที่ระดมใช้เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงอีกเป็นจำนวนมาก



          นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) ปฏิเสธข่าวที่มีการแชร์ในสื่อโซเชียลว่าโรงงานย่านกิ่งแก้วที่เป็นจุดเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้แห่งนี้มีปริมาณสารเคมีเก็บไว้ใต้ดิน 500,000 ลิตรนั้น ไม่เป็นความจริง โดยปัจจุบันโรงงานแห่งนี้มีสารเคมีเก็บอยู่ที่ 20,000 ลิตร ซึ่งสารเคมีที่อยู่ในโรงงานที่เกิดเหตุ 2 ชนิดเป็นสารที่ซื้อในประเทศอยู่ภายใต้กฎหมายพ.ร.บ.โรงงาน ไม่ได้นำเข้าจากต่างประเทศแต่อย่างใด ได้แก่ สารสไตรีนโมโนเมอร์ ที่เป็นสารตั้งต้นผลิตโฟม มีคุณสมบัติติดไฟได้ง่ายที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส ส่วนสารพอลิสไตรีนนั้น เมื่อถูกความร้อนสูง จะให้สาร 2 ชนิดคือ สไตรีนและเบนซีน



          ก่อนหน้านี้ กรอ.ได้มีการตรวจความปลอดภัยตามกฎหมายทุกปีเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ขณะที่ในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ให้โรงงานตรวจประเมินตนเอง กับตรวจโดยวิธี Remote Inspector ทางไกลเพิ่มเติมส่งแบบประเมินเข้าระบบในกรอ.พิจารณา



          สรุปความเสียหายเบื้องต้นจากเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตโฟม และเม็ดพลาสติก ของบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการไฟไหม้ ว่า เบื้องต้นอาคารโรงงานพังเสียหายทั้งหมด  บริษัทดังกล่าวได้ยื่นคำขออนุญาตจัดตั้งโรงงานเมื่อปี 2532 และได้รับอนุญาตประกอบกิจการอย่างเป็นทางการในปี 2534 ด้วยกำลังการผลิตที่ 36,000 ตันต่อปี จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลา 30 ปีแล้ว ได้มีการขยายกำลังการผลิตไปอยู่ที่ 80,000 ตันต่อปี



นายกฯสั่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากไฟไหม้โรงงานผลิตโฟม



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบเหตุการณ์ในครั้งนี้และได้กำชับเจ้าหน้าที่​ และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย​ ประสานการทำงานทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน​ นายกฯ​ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน ขอให้เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานร่วมกันปฏิบัติงานและดูแลประชาชนให้เต็มที่ และให้เร่งสอบสวนสาเหตุที่เกิดขึ้น​ว่ามีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายจนเกิดเหตุรุนแรงครั้งนี้หรือไม่ พร้อมกับให้พิจารณาในเรื่องของการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามกรอบของกฎหมายต่อไป



อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนฝนตก ชะล้างสารพิษลงแม่น้ำ ประชาชนต้องระวัง



          กรณีเกิดเหตุระเบิดภายในโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติกในซอยกิ่งแก้ว 21 หมู่ 15 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อกลางดึก แรงระเบิดส่งผลให้ตัวอาคารของโรงงานได้รับความเสียหาย ถูกเพลิงไหม้หมดทั้งหลัง นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่าเบื้องต้นจากการสำรวจทิศทางลม ทั้งในระดับผิวพื้นและระดับเพดานอากาศ พบว่า จากจุดเกิดเหตุลมจะพัดกลุ่มหมอกควันจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก  ที่เป็นห่วงคือ ช่วงบ่ายถึงค่ำ บริเวณ กทม.และปริมณฑล อาจมีฝนเพิ่มขึ้น หากฝนลงไปชะล้างกลุ่มควันเหล่านี้ซึ่งเป็นสารพิษและตกลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรือบ่อน้ำ อาจส่งผลต่อประชาชนในการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้น้ำช่วงนี้ โดยในช่วง 1-2 วันนี้  



ธอส.ประกาศพักหนี้ - ลดดอก – ปล่อยกู้ซ่อมบ้านที่เสียหายจากโรงงานย่านกิ่งแก้วไฟไหม้



          ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประกาศ 7 มาตรการช่วยเหลือลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด-เพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ซอยกิ่งแก้ว 21 จ.สมุทรปราการ ประกอบด้วย



1) ลดดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี นาน 1 ปี



2) ให้กู้เพิ่มหรือกู้ใหม่ ดอกเบี้ยปีแรก 1% ต่อปี



3) ลูกหนี้ที่หลักประกันเสียหาย ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี ดอกเบี้ย 0% ต่อปี 4 เดือน ไม่ต้องชำระเงินงวด 4 เดือนแรก



4) ลูกหนี้ที่มีผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้ไม่เกิน 1 ปี ดอกเบี้ย 1% ต่อปี



5) กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรให้ผ่อนชำระดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี



6) ที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหลังซ่อมแซมไม่ได้ให้ปลอดหนี้ในส่วนของอาคาร และ



7) ลูกค้าที่หลักประกันได้รับความเสียหาย อาทิ กระจกแตก เกิดรอยร้าวตามตัวอาคาร ให้แจ้งเคลมความเสียหายได้โดยพิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้ตามมูลค่าของความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกินทุนประกันอาคาร ติดต่อขอใช้มาตรการได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 ธันวาคม 2564

          นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่า มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด-เพลิงไหม้ โรงงานย่านกิ่งแก้ว ภายใต้กรอบวงเงินรวมของโครงการ 500 ล้านบาท ผ่าน 7 มาตรการเร่งด่วน โดยพิจารณาตามระดับความเสียหาย ทั้งนี้ ลูกค้าที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการสามารถติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2564 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด



หุ้นไทยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รอผลประชุมโอเปกพลัส



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,579.28 จุด เพิ่มขึ้น 0.79 จุด มูลค่าการซื้อขาย 58,232.61 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งsideway  ระหว่างที่นักลงทุนยังรอติดตามผลประชุมนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส)



          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในญี่ปุ่น รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนวัคซีนที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นขณะนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดที่ 28,598.19 จุด ลดลง 185.09 จุด



          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดลบในวันนี้ หลังจากผลสำรวจซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย.ของจีน ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในมณฑลกวางตุ้งซึ่งเป็นแหล่งส่งออกที่สำคัญของจีน โดยการร่วงลงอย่างหนักของดัชนี PMI ภาคบริการอาจส่งผลให้เศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลงในปีนี้ ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดวันนี้ที่ 28,143.50 จุด ลดลง 166.92 จุด



CR: FB นคร 45 

ข่าวทั้งหมด

X