อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ปฏิเสธข่าว โรงงานย่านกิ่งแก้ว มีสารเคมีเก็บใต้ดิน 5 แสนลิตร

05 กรกฎาคม 2564, 18:18น.


          เหตุไฟไหม้โรงงานบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ย่านบางพลี นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองอธิบดี​กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แถลงรายงานความคืบหน้าว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว 1 บ่อ แต่ยังมีอีก 1 บ่อที่จะต้องใช้อากาศยานเข้าไประงับเหตุ ก่อนที่จะใช้ทีมภาคพื้นดินเข้าตามไป  เบื้องต้นหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน คาดจะสามารถทำให้เพลิงสงบได้ในระยะเวลาไม่นานนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้โฟมผสมน้ำในการรักษาอุณหภูมิจุดที่เกิดเพลิงไหม้ และระดมทีมกู้ภัยจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูอย่างใกล้ชิด



          สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่สรุปว่า เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 29 คน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 70 หลัง ยานยนต์เสียหาย 15 คัน มีผู้อพยพออกมาเกือบ 200 คน เจ้าหน้าที่ระดมใช้เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงอีกเป็นจำนวนมาก



          นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) ปฏิเสธข่าวที่มีการแชร์ในสื่อโซเชียลว่าโรงงานย่านกิ่งแก้วที่เป็นจุดเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้แห่งนี้มีปริมาณสารเคมีเก็บไว้ใต้ดิน 500,000 ลิตรนั้น ไม่เป็นความจริง โดยปัจจุบันโรงงานแห่งนี้มีสารเคมีเก็บอยู่ที่ 20,000 ลิตร ซึ่งสารเคมีที่อยู่ในโรงงานที่เกิดเหตุ 2 ชนิดเป็นสารที่ซื้อในประเทศอยู่ภายใต้กฎหมายพ.ร.บ.โรงงาน ไม่ได้นำเข้าจากต่างประเทศแต่อย่างใด ได้แก่ สารสไตรีนโมโนเมอร์ ที่เป็นสารตั้งต้นผลิตโฟม มีคุณสมบัติติดไฟได้ง่ายที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส ส่วนสารพอลิสไตรีนนั้น เมื่อถูกความร้อนสูง จะให้สาร 2 ชนิดคือ สไตรีนและเบนซีน



          ก่อนหน้านี้ กรอ.ได้มีการตรวจความปลอดภัยตามกฎหมายทุกปีเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ขณะที่ในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ให้โรงงานตรวจประเมินตนเอง กับตรวจโดยวิธี Remote Inspector ทางไกลเพิ่มเติมส่งแบบประเมินเข้าระบบในกรอ.พิจารณา รายงานข่าวแจ้งสรุปความเสียหายเบื้องต้นจากเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตโฟม และเม็ดพลาสติก ของบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการไฟไหม้ ว่า เบื้องต้นอาคารโรงงานพังเสียหายทั้งหมด  บริษัทดังกล่าวได้ยื่นคำขออนุญาตจัดตั้งโรงงานเมื่อปี 2532 และได้รับอนุญาตประกอบกิจการอย่างเป็นทางการในปี 2534 ด้วยกำลังการผลิตที่ 36,000 ตันต่อปี จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลา 30 ปีแล้ว ได้มีการขยายกำลังการผลิตไปอยู่ที่ 80,000 ตันต่อปี



 

ข่าวทั้งหมด

X