ปภ.ส่งเฮลิคอปเตอร์ -รถน้ำ รวมทั้งจนท.ชุดเผชิญเหตุ ช่วยดับไฟที่รง.หมิงตี้ฯ
เหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ในซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2534 ผลิตโฟม เม็ดพลาสติก เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัด แต่ยังมีการฉีดน้ำเลี้ยง และมีกลุ่มควันพวยพุ่ง ยังมีการอพยพคนที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรให้อพยพออกมาอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย
เจ้าหน้าที่ 1669 สมุทรปราการ ระบุว่า มีผู้บาดเจ็บ 30 คน อยู่ระหว่างการตรวจสอบตัวเลขที่ชัดเจน รวมทั้งการรายงานเรื่องผู้เสียชีวิตด้วย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ เตรียมพร้อมประสานสั่งการและสนับสนุนการช่วยเหลือการระงับเหตุและควบคุมเพลิง
เฮลิคอปเตอร์ ปภ. KA-32 ถึงสนามบินดอนเมือง พร้อมชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต ERT 10 นาย เตรียมขึ้นบิน เพื่อร่วมระงับเหตุไฟไหม้โรงงานพลาสติก สมุทรปราการ
เฮลิคอปเตอร์ ปภ. KA-32 ยกตัวจากสนามบินดอนเมือง เตรียมลงจอดสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเติมโฟมดับเพลิง ซึ่ง ปภ.ได้นำรถขนย้ายโฟมสแตนบายนำรอขนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ และจะได้บินเข้าจุดเกิดเหตุต่อไป
นอกจากนี้ ปภ.ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยเครื่องจักรกลสาธารณภัยสนับสนุนการดับเพลิง ประกอบด้วย รถหอน้ำ 37 เมตร รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถบรรทุกน้ำช่วยดับเพลิง รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยเพื่อขนโฟมดับเพลิง ขณะนี้อยู่ในพื้นที่และปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานและอาสาสมัครที่เกี่ยวข้องในพื้นที่แล้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต 10 นาย เข้าร่วมสนับสนุนการปฏิบัติการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการบินมาจากลพบุรี
CR:กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
สนามบินสุวรรณภูมิ เผยกลุ่มควันจากแรงระเบิด ยังไม่กระทบทัศนวิสัยในการทำการบิน
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฏิบัติการ 1 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สนามบินสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทยจำกัด (บวท.) ซึ่งเป็นหน่วยให้บริการจราจรทางอากาศ เฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์
เบื้องต้น กลุ่มควันจากการระเบิดยังไม่ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยต่อการทำการบิน โดย บวท. ยังสามารถให้บริการจราจรทางอากาศ ทำให้สายการบินยังสามารถทำการบินได้ตามปกติ ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีพื้นที่บางส่วนที่อยู่ในรัศมีอพยพ คือพื้นที่ส่วนที่เป็นออฟฟิศสำนักโครงการซึ่งล่าสุดสั่งให้พนักงานทำงานที่บ้านแล้ว
เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3 ราย เร่งค้นหาอีกกว่า 100 คน โคลนถล่มที่เมืองอาตามิ
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายอีก 113 คน ซึ่งเป็นเวลา 2 วัน หลังจากเกิดเหตุโคลนถล่มครั้งใหญ่ในเมืองอาตามิ จังหวัดชิซูโอกะ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย บ้านเรือนเสียหายอย่างน้อย 130 หลัง
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังป้องกันตนเอง ได้ร่วมกันค้นหาผู้สูญหาย เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ 23 คน โดยมี 1 คน ได้รับบาดเจ็บและประชาชน 550 คนได้เข้าพักอาศัยในโรงแรมชั่วคราว
รัฐบาลเมืองอาตามิ ยืนยัน ความปลอดภัยของประชาชน 34 คนจากทั้งหมด 147 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ทราบที่อยู่โดยอิงจากทะเบียนผู้อยู่อาศัย
นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สึกะ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะยังคงค้นหาผู้ประสบเหตุที่อาจถูกฝังอยู่ใต้โคลนถล่ม