อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยัน เอกสารที่เผยแพร่ไม่ใช่ของจริง

05 กรกฎาคม 2564, 12:46น.


          หลังมีการเผยแพร่เอกสารการประชุมของคณะกรรมการด้านวิชาการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และคณะทำงานวิชาการด้านบริหารจัดการและศึกษาการให้บริการวัคซีน โดยประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ คือ ในที่ประชุมมีการพูดว่าหากนำวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 3 มากระตุ้นบุคลากรที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม จะแสดงว่าซิโนแวคไม่มีประสิทธิภาพนั้น จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เรื่องนี้จริงหรือไม่



          ล่าสุด นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า เอกสารที่ออกมาไม่ใช่เอกสารฉบับจริงของที่ประชุมในนั้นเป็นการประชุมวิชาการมี 3 คณะ คือ -คณะกรรมการวิชาการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558



-คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคใน พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และ



-คณะกรรมการวิจัยและวิชาการด้านบริหารจัดการและศึกษาการให้บริการวัคซีน



          ซึ่งคนเข้าร่วมประชุมค่อนข้างมาก มีทั้งร่วมประชุมและออนไลน์ แต่ทั้งหมดเน้นเรื่องวิชาการ เกี่ยวกับวัคซีนต่างๆ รวมทั้งไฟเซอร์ว่า ควรต้องฉีดอย่างไรต่อไปโดยกลไกเมื่อคณะชุดนี้ทำเสร็จ ต้องเสนอต่อคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องนี้ต่อไป เพราะเป็นเรื่องวิชาการ ทั้งคณะกรรมการวิชาการ ต้องเสนอคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เพื่อให้ความเห็นชอบให้เป็นข้อสั่งการ ส่วนคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคก็ต้องเสนอต่อคณะกรรมการวัคซีน ส่วนคณะที่สามก็ต้องเสนอคณะกรรมการด้านการจัดการวัคซีน เมื่อคณะที่เป็นทางการเห็นชอบก็จะเสนอ ศบค.เห็นชอบต่อไป



          “เมื่อถามว่าสรุปเอกสารนั้นไม่ใช่เอกสารจริงใช่หรือไม่ นพ.โอกาส กล่าวว่า หากสังเกตดีๆ เหมือนเอกสารที่เขียนเองอ่านเอง และเอกสารนั้นเหมือนเอาสไลด์การประชุมไปปะติด ยืนยันว่าไม่ใช่เอกสารจริงจากฝ่ายประชุม และไม่ควรเผยแพร่ต่อ เพราะถ้าเผยแพร่ต่อก็จะเป็นเรื่องไม่จริงไปกันใหญ่” แม้ว่าการประชุมในวันนั้นจะไม่ได้เข้าประชุม จึงไม่ทราบว่ามีการพูดอะไร อย่างไร แต่โดยมารยาทก็ไม่ควรพูด แต่ที่แน่ๆ เอกสารนั้นไม่ใช่เอกสารหลุดแต่ไม่จริงเลย



          ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ที่จะได้รับการบริจาค 1.5 ล้านโดส จากสหรัฐอเมริกา นพ.โอภาส กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการสรุป เป็นทางการว่า สหรัฐจะส่งให้ไทยเมื่อไหร่ ต้องติดตามกันก่อน ต้องเอาข้อมูลมาประมวลก่อนและจะมาบริหารจัดการอีกที เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา



          สำหรับการฉีดวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็มแล้วหากกระตุ้นด้วยวัคซีน mRNA จะมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน นพ.โอภาส กล่าวว่า เรื่องวัคซีนเราสนใจเรื่องประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ซึ่งประสิทธิภาพวัดได้หลายอย่าง เช่น ผลแล็ปในห้องทดลอง แต่ผลแล็ปกับความจริงก็แตกต่างกันไป    



          ส่วนความปลอดภัยของวัคซีน อย่างที่ทราบขณะนี้วัคซีนใช้ในภาวะฉุกเฉิน จึงไม่มีใครทราบผลระยะยาว อย่างบางยี่ห้อที่เป็น mRNA มีประสิทธิภาพดีมาก แต่ใช้ไประยะหนึ่งก็พบว่า ในคนหนุ่มมีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจำนวนหลายพันราย ซึ่งข้อมูลมีการปรับเปลี่ยนรายสัปดาห์ รายวัน จึงต้องเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ว่า อันไหนเหมาะกับประเทศไทยมากที่สุด

ข่าวทั้งหมด

X