ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะร่วมบริการ ขสมก.เข้ารับฟังผลสรุปจากกระทรวงคมนาคม กรณียื่นหนังสือต่อกระทรวงคมนาคมให้พิจารณาการขอปรับขึ้นค่าโดยสารรถร้อน จากอัตราเดิม 8 บาท เป็น 11 บาท และรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ปรับขึ้นอีกระยะละ 3 บาท เนื่องจากต้องแบกรับภาระต้นทุนจากการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีอีก 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมและมีแนวโน้มที่จะปรับราคาขึ้นไปอยู่ที่ 16 บาทต่อกิโลกรัม แต่ล่าสุด กระทรวงคมนาคมมีมติปรับขึ้นค่าโดยสารรถร่วมบริการ ขสมก.โดยรถธรรดาปรับขึ้น 1 บาท และรถปรับอากาศอยู่ที่ระยะละ 1 บาท ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.2558ส่วนจะปรับขึ้นอีกหรือไม่ กระทรวงคมนาคมขอพิจารณาต้นทุนที่แท้จริงของผู้ประกอบการก่อน หากมีต้นทุนที่สูงขึ้นจะพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารขึ้นให้อีกครั้ง
นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางกล่าวว่า สมาคมฯจะประชุมร่วมกันก่อนว่า จะยอมรับผลการอนุมัติของกระทรวงคมนาคมหรือไม่ เนื่องจากการปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มอีก 1 บาท ไม่เสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการ และเงินอุดหนุนของภาครัฐ 30,000 บาทต่อคัน ไม่เพียงพอเพราะเป็นอัตราอุดหนุนที่ราคาก๊าซเอ็นจีวีอยู่ที่ 8.50 บาท ผู้ประกอบการจึงต้องการให้รัฐมาอุดหนุนอัตรา 80,000 บาทต่อคัน เนื่องจากเป็นอัตราที่เหมาะสมกับราคาก๊าซที่กิโลกรัมละ 13 บาท