ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ สั่งการให้หน่วยข่าวกรองสอบสวนการโจมตีทางไซเบอร์เพื่อเรียกค่าไถ่จากธุรกิจ 1,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดของสวีเดน ทำให้ต้องปิดร้านประมาณ 800 แห่งเป็นการชั่วคราวเนื่องจากร้านไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ นอกจากนี้ เป้าหมายประมาณ 200 แห่งยังเป็นบริษัทไอทีในสหรัฐฯ
ในการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ธุรกิจที่ถูกโจมตีจะถูกเข้ารหัสไฟล์และถูกทิ้งข้อความอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเรียกเงินค่าไถ่เป็นจำนวนหลายพันหรือหลายล้านดอลลาร์ โดยผู้ต้องสงสัยคือกลุ่มแฮกเกอร์เรวิล (REvil) ที่มีความเชื่อมโยงกับรัสเซีย และเคยก่อเหตุโจมตีทางไซเบอร์ต่อบริษัทเจบีเอส ซึ่งทำธุรกิจแปรรูปเนื้อสัตว์
ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวว่า เขาได้สั่งการให้หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯสอบสวน และสหรัฐฯ จะตอบโต้หากผู้ก่อเหตุคือรัสเซียตามที่มีการตั้งข้อสงสัย โดยในระหว่างการประชุมสุดยอดที่เจนีวาเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ประธานาธิบดีไบเดนได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ปราบปรามแฮกเกอร์ที่มาจากรัสเซีย และเตือนถึงผลที่ตามมาหากยังมีการโจมตีอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ประธานาธิบดีไบเดน จะได้รับการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการโจมตีเมื่อวันศุกร์ (2 ก.ค.) ซึ่งบ่งชี้ว่าธุรกิจต่างๆ ต้องเพิ่มการป้องกันทางไซเบอร์
...