*จอร์แดนถล่มที่มั่นISIS/อิรักยกเลิกเคอร์ฟิว/ผู้นำยุโรปหารือรัสเซีย*

06 กุมภาพันธ์ 2558, 06:12น.


*ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.



+++จอร์แดน ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) หลายระลอกเมื่อวันพฤหัสบดี(5ก.พ.) หลังจากประกาศตอบโต้หนักหน่วง แก้แค้นให้นักบินของกองทัพที่ถูกพวกหัวรุนแรงกลุ่มนี้ประหารชีวิตด้วยการเผาทั้งเป็น แต่การโจมตีระลอกล่าสุดในวันพฤหัสบดี(5ก.พ.) มีขึ้นหลังจากรัฐมนตรีกระทรวงข่าวสารของจอร์แดน ประกาศว่าประเทศของเขาจะตอบโต้ไอเอสชนิดสะเทือนโลก หลังจากไอเอสเผยแพร่วิดีโอเผาทั้งเป็นร้อยโทมาอัซ อัล-คัสซาเบห์ วัย 26 ปี 



+++นักรบของกลุ่มติดอาวุธ 'โบโก ฮาราม' ซึ่งมีฐานที่มั่นหลักในประเทศไนจีเรีย ก่อเหตุบุกโจมตีหลายหมู่บ้านในเมืองชายแดนของประเทศแคเมอรูนซึ่งติดกับไนจีเรีย โดยใช้อาวุธปืนยิงหรือเผาทั้งเป็นสังหารชาวบ้านไปประมาณ 90 ราย และทำให้มีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 500 คน นาย อิสซา ชิโรมา บาคารี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศแห่งแคเมอรูน เมื่อวันพฤหัสบดี นักรบของกลุ่มโบโก ฮารามประมาณ 800 คน บุกโจมตีเมืองโฟโตโกล ทางเหนือของแคเมอรูนตั้งแต่เมื่อวันพุธ (4 ก.พ.) โดยพวกเขาเผาทำลายโบสถ์, มัสยิด, หมู่บ้าน และปล้นสะดมปศุสัตว์และอาหารไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงสังหารคนหนุ่มสาวที่ขัดขืนไม่ยอมเข้าร่วมกับพวกเขาเพื่อต่อสู้กับกองทัพแคเมอรูนด้วยความเคลื่อนไหวล่าสุดของกลุ่มโบโก ฮาราม เกิดขึ้นหลังจากนักรบของพวกเขาหลายร้อยคน ถูกทหารของประทศชาดสังหารเมื่อวันพุธโดยเชื่อว่านักรบโบโก ฮาราม เดินทางเข้าประเทศแคเมอรูนผ่านทางเมือง กัมบารู เมืองชายแดนของไนจีเรีย ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้มาตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีก่อน แต่กองทัพชาดและไนจีเรียช่วยกันยึดคืนมาได้ในสัปดาห์นี้



++++นายกรัฐมนตรี ไฮเดอร์ อัล-อาบาดี แห่งประเทศอิรัก ออกคำสั่งยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิวในกรุงแบกแดด โดยคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7ก.พ. เป็นต้นไปคำสั่งของนายอาบาดีมีขึ้นหลังจากเขาเข้าร่วมประชุมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเมื่อวันพฤหัสบดี แม้กรุงแบกแดกยังคงเผชิญเหตุระเบิดฆ่าตัวตายแทบจะรายวัน รวมถึงภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) ซึ่งยึดครองพื้นที่หลายส่วนทางเหนือและทางตะวันตกของประเทศเอาไว้ นายราฟิด จาบูรี โฆษกนายกรัฐมนตรีอิรักระบุว่า นายอาบาดีต้องการให้อิรักกลับสู่สภาพปกติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้จะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์สงคราม ด้านชาวแบกแดดจำนวนมากออกมแสดงความยิดดีกับการยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิวในครั้งนี้ โดยระบุว่า เรื่องนี้จะทำให้ชีวิตของพวกเขาเป็นปกติมากขึ้นอีกเล็กน้อยขณะเดียวกัน มีรายงานการยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิวที่เมืองอื่นๆด้วยเช่น เมืองคาร์บาลา ทางใต้ของกรุงแบกแดด และคาดว่าจะมีการยกเลิกเพิ่มเติมในเมืองอื่นๆอีกในอนาคต



 +++ผู้นำตะวันตกพากันตบเท้าเข้ากรุงเคียฟ หวังคลี่คลายวิกฤตในยูเครนตะวันออก ทว่า ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รี เดินทางไปพร้อมแผนการในใจในการติดอาวุธให้ยูเครน นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี และประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศส กลับนัดหมายหอบแผนการริเริ่มใหม่เพื่อระงับการสู้รบไปเสนอรัฐบาลยูเครนตอนเย็นวันพฤหัสบดี (5ก.พ.) ก่อนบินไปล็อบบี้มอสโกต่อในวันนี้   หนทางเลือกประการหนึ่งซึ่งกำลังแพร่ไปในโลกตะวันตกก็คือ การติดอาวุธให้แก่ผู้ที่ทำสงครามกันอยู่ ในเมื่อรัสเซียได้ติดอาวุธให้แก่พวกกบฏแบ่งแยกดินแดนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงต้องมีการส่งให้แก่ชาวยูเครน เพื่อให้พวกเขาสามารถป้องกันตนเองได้ ส่วนฝรั่งเศสยังไม่ได้เข้าร่วมในการถกเถียงเกี่ยวกับหนทางติดอาวุธนี้ ทว่ายังคงมีหนทางเลือกอีกประการหนึ่ง นั่นคือหนทางในทางการทูตการเจรจากัน แต่เราย่อมไม่อาจใช้หนทางนี้ไปอย่างไม่มีระยะเวลาสิ้นสุดได้ 





+++ตำรวจในบราซิลอยู่ระหว่างการสอบปากคำนายเจาโอ วักการี เนโต เหรัญญิกพรรคแรงงาน พรรครัฐบาล เพื่อดูว่ามีความเชื่อมโยงกับกรณีการทุจริตที่เอื้อฉาวของบริษัทเปโตรบราส รัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของบราซิลหรือไม่  ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น 1 วันหลังนางมาเรีย ดาส กราซัส ฟอสเตอร์ ซีอีโอของบริษัทเปโตรบราส พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงอีก 5 คนลาออก จากปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอาจจะมีการยักยอกเงินของรัฐโดยการโอนเงินส่วนหนึ่งให้แก่พรรคแรงงานและพรรคการเมืองพันธมิตร นับเป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่สร้างความอึดอัดใจให้แก่ประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ และพรรคแรงงานของเธอในขณะนี้ ผลการสอบสวนก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่านักการเมืองบางคนอาจจะมีส่วนพัวพันกับกรณีการทุจริตด้วย แต่การสอบสวนเหรัญญิกพรรคฯในครั้งนี้อาจจะทำให้มีการขยายผลไปสู่การสอบสวนนักการเมืองระดับสูงบางคนของบราซิลด้วย ตำรวจกล่าวว่าจะขอให้ศาลอนุมัติหมายจับ หมายขังและหมายค้นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้อีก 62 คน



+++ผู้ชุมนุมหลายพันคนรวมตัวกันบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภากรีซในกรุงเอเธนส์ในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(5ก.พ.) เพื่อสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง เจรจาหนี้ใหม่กับเหล่าเจ้าหนี้นานาชาติและยุติมาตรการรัดเข็มขัดการรวมตัวครั้งนี้เกิดขึ้นตามเสียงเรียกร้องทางสื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่ตำรวจคาดหมายว่าน่าจะมีประชาชนราว 5,000 คน ที่ร่วมยืนสงบนิ่งบริเวณจตุรัสซินตักมา จุดที่เคยการประท้วงรุนแรงท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจของกรีซเมื่อปี 2012 การประท้วงครั้งนี้มีขึ้นหลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ก็ประกาศยกเลิกไม่ยอมรับพันธบัตรคลังกรีซเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ ส่งผลให้แบงก์ชาติกรีซต้องแบกรับภาระหนักในการอัดฉีดสภาพคล่องแก่ธนาคารในประเทศ ขณะที่กระทรวงการคลังกรีซต้องออกมายืนยันว่า ระบบการธนาคารของประเทศยังคงได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ และมีทางเลือกในการระดมทุนอื่นๆ 



+++อัตราเงินเฟ้อของรัสเซียพุ่งขึ้นแตะระดับร้อยละ 15 ในเดือนมกราคม จากภาวะราคาน้ำมันที่ตกต่ำและมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อกรณีถูกกล่าวหาแทรกแซงความขัดแย้งในยูเครน ธนาคารกลางรัสเซีย เพิ่งดำเนินการอย่างที่ไม่คาดหมายมาก่อน ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจาก ร้อยละ17เหลือ  ร้อยละ 15        



+++ดัชนีหุ้นสหรัฐฯปิดเพิ่มขึ้นในวันพฤหัสบดี จากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน และข่าวการเสนอซื้อกิจการของบริษัทยายักษ์ใหญ่ ในขณะที่นักลงทุนกำลังรอรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศในวันศุกร์ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 211.86 จุด ปิดที่ 17,884.88 จุด  ราคาน้ำมันสหรัฐฯเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 4  ไลค์สวีทครูซ ตลาดนิวยอร์ค เพิ่มขึ้น 2.48 เหรียญ อยู่ที่ 50.93 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล   ส่วนเบรนทะเลเหนือ ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 2.67 เหรียญ อยู่ที่ 56 เหรียญ 83 เซนต์ ต่อ บาร์เรล ส่งผลให้หุ้นของบริษัทกลุ่มปิโตรเลียมเพิ่มสูงขึ้น เช่น เอ็กซ์ซอนโมบิล เพิ่มขึ้นร้อยละ  1 



+++ปัจจัยที่เกื้อหนุนดัชนีหุ้นสหรัฐ คือการที่บริษัท 'ไฟเซอร์' (Pfizer) ผู้ผลิตยาอันดับ 2 ของโลก ยื่นข้อเสนอขอซื้อบริษัทยา 'ฮอสปิรา' ในราคา 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านนักลงทุนกำลังรอรายงานการจ้างงานประจำเดือน ม.ค.ของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศในวันศุกร์นี้ โดยคาดกันว่า จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 235,000 ตำแหน่ง โดยชะลอตัวลงจากเดือนธ.ค. ส่วนอัตราว่างงานจะอยู่ที่ 5.6%.



+++ด้านราคาทองคำโลก ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทองคำโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ อยู่ที่ 1,265 เหรียญ ต่อออนซ์





+++หน่วยกู้ภัยยังเร่งค้นหาผู้สูญหาย 11 คน หลังเครื่องบินเอทีอาร์ 72-600 เที่ยวบินจีอี 235 ของสายการบินทรานส์เอเชียแอร์เวย์ส ของไต้หวัน พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 58 คน พุ่งเฉี่ยวชนรถแท็กซี่และสะพานยกระดับก่อนตกในแม่น้ำคีลุงในกรุงไทเป หลังบินขึ้นจากสนามบินซงซานจะไปเกาะคินเหมิน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 32 ศพ มีผู้รอดชีวิต 15 ราย ผู้เสียชีวิตรวมทั้งกัปตัน นักบินผู้ช่วย และนักท่องเที่ยวชาวจีน 16 คน จากทั้งหมด 31 คนบนเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเมืองเซียเหมิน หน่วยกู้ภัยยังค้นพบกล่องดำบันทึกข้อมูลทางการบินแล้ว ส่วนสำนักงานการบินพลเรือนไต้หวัน (ซีเอเอ) สั่งตรวจเช็กเครื่องบินเอทีอาร์ทั้งหมด 22 ลำของทรานส์เอเชียฯ และยูนิ แอร์ และเผยว่าเครื่องบินมรณะเพิ่งเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่สนามบินมาเก๊าเมื่อ 19 เม.ย.2557 ซ่อมบำรุงครั้งล่าสุด



+++วีดีโอจากกล้องเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินทรานส์เอเชีย ประเทศไต้หวัน ที่ตกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย31ราย ทั้งนี้ภาพวีดีโอดังกล่าวถูกบันทึกจากกล้องติดรถยนต์อย่างน้อย2คันในช่วงเวลาเดียวกันขณะเครื่องบินชนสะพานก่อนตกลงในแม่น้ำ ทั้งนี้การจับภาพเหตุการณ์ดังกล่าวคงไม่ใช่เรื่องบัญเอิญ เนื่องจากกล้องติดรถยนต์กลายมาเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในไต้หวัน สำหรับบันทึกภาพเพื่อใช้ในยามเกิดคดีพิพาทหลังประสบอุบัติเหตุ





++++ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหตุการณ์ระทึกขวัญถูกเก็บภาพได้จากกล้องติดรถยนต์ โดยในเดือนก.พ. ปี2556 กล้องติดรถยนต์สามารถจับภาพอุกกาบาตตกใส่เมืองเชลยาบินสก์ของรัสเซียได้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า1,000ราย บริษัทแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ได้ติดตั้งกล้องติดรถยนต์ทั้งหมด16,600คัน เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงเตือนให้ผู้ขับระมัดระวังเช่นกัน ขณะที่นโยบายของบริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าประกันในอัตราที่ต่ำกว่าหากรถคันดังกล่าวติดกล้องในรถยนต์ และเมื่อต้นปี2556ที่ผ่านมาคาดว่า ยอดขายกล้องติดรถยนต์ในฝรั่งเศสน่าจะมีจำนวนสูงถึง370,000ตัว ราคาประมาณ200ยูโร(7,360บาท) สามารถบันทึกภาพได้นาน10นาทีต่อ1ครั้ง โดยผู้ใช้สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ระทึกได้ด้วยตัวเอง หรือจะตั้งค่าให้บันทึกอัตโนมัติก็ได้เช่นกัน

ข่าวทั้งหมด

X